หัวข้อ: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ สิงหาคม 04, 2008, 12:51:38 AM กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย อาทิเช่นบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน เพชรบูรณ์ สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนัก รวมทั้งคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะ 2-3 วันนี้( 4-7 ส.ค.)ไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. คาดหมาย ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตลอดสัปดาห์ ในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค.มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 5 -9 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นตลอดช่วงโดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนืและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนมากในช่วงวันที่ 5 -9 ส.ค. ข้อควรระวัง ในระยะนี้ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิเช่นจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สกลนคร อุดรธานี และกาฬสินธุ์ ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ส.ค. ขอให้ชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยขอให้ระวังอันตรายในการเดินเรือ หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ สิงหาคม 04, 2008, 01:12:46 AM แนวหน้า
กลุ่มควันไฟป่าในอินโดฯ โหมปกคลุมสตูลอีกระลอก สสจ.เตือนปชช.ดูแลสุขภาพ สตูล:ผู้สื่อข่ารายงานว่า สถานการณ์หมอกควันไฟไหม้ป่าจากประเทศอินโดนีเซียได้เข้าปกคลุมพื้นที่ จ.สตูล อีกระลอก ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นในพื้นที่ โดยเฉพาะในเขต อ.เมืองสตูล ไม่ชัดเจน นายแพทย์ณรงค์ ลือขจร ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข 9 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า หมอกที่เห็นชัดในช่วงเช้ามากนั้น เกิดจากความกดอากาศสูงทำให้กลุ่มหมอกควันไม่สามารถลอยขึ้นข้างบนได้ ประกอบกับทิศทางลมที่หอบเอากลุ่มหมอกควันเข้ามา โดยปริมาณหมอกควันไฟที่ปกคลุมเริ่มเห็นชัด และมีปริมาณที่สูงขึ้น แต่จากการวัดค่าของกรมควบคุมมลพิษทางอากาศที่มาตั้งรถโมบายตรวจค่าปริมาณละอองฝุ่นในอากาศเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2551 ยังพบว่าจะไม่เกินเกณฑ์อันตราย อย่างไรก็ตามขอเตือนให้ประชาชนที่มีอากาศเจ็บป่วย หรือเป็นภูมิแพ้ได้ง่ายงดกิจกรรมกลางแจ้งชั่วคราว และดูแลสุขภาพในระยะนี้ให้ดี ผู้สื่อข่าวรายงายเพิ่มเติมว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ทัศนวิสัยตามท้องถนนในช่วงเช้ายังครึ้มไปด้วยหมอกควันที่ปกคลุม ส่งผลให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะต้องใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้หากประชาชนต้องการหน้ากากปิดจมูก-ปาก เพื่อเป็นการป้องกัน สามารถติดต่อขอรับได้ทางสาธารณสุข จ.สตูล หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: เด็กน้อย ที่ สิงหาคม 04, 2008, 02:11:48 AM เดลินิวส์
ฝน-เหนือบ่า-ทะเลหนุน ตรวจ 'แผนรับมือ' 'ภัย 3 น้ำ' ปีนี้วิกฤติ! เตือนภัยฝ่ายโหรก็ว่าระยะจากนี้ไป ต้องระมัดระวังเรื่องภัยธรรมชาติ เป็นพิเศษ โดย อ.เก่งกาจ จงใจพระ เพิ่งออกมาระบุว่า...จันทรคราสที่กำลังจะเกิดในวันที่ 17 ส.ค. ให้หลังการเกิดสุริยคราส 1 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็น 2 คราสซ้อน ๆ จะยิ่งมีผลเสริมแรงภัยธรรมชาติ ซึ่งยุคนี้-ช่วงนี้ ภัยน้ำ น่าห่วงที่สุด ด้านเตือนภัยฝ่ายศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โดย สมิทธ ธรรมสโรช ประธานอำนวยการเตือนภัยฯ ก็ระบุเช่นกันว่าช่วงนี้ถึงปลายปีต้องระวัง ทั้ง พายุใหญ่ และ น้ำทะเลยกตัวสูง หรือ สตอร์มเสิร์ช ขณะที่หน่วยงานอื่นทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา กรมอุทกศาสตร์ ก็เตือนและจับตาเรื่องพายุ ฝน คลื่นสูง สอดคล้องกัน ภัยน้ำ กำลังหายใจรดต้นคอเมืองไทย-คนไทย แล้วฝ่ายต่าง ๆ เตรียม แผนรับมือ อย่างไร ?? ในส่วนของคลื่นสูงที่อาจถาโถมใส่ไทยจากทางด้านอ่าวไทย จนเกิด น้ำท่วมกรุงเทพฯ จนการผลิตน้ำประปามีปัญหา วันก่อนทาง กทม. และ กปน. มีการหารือร่วมกัน แล้วยืนยันว่าได้เตรียมพร้อมรับมือมาตลอดอยู่แล้ว และก็มีแผนป้องกันเพิ่มเติมสำหรับปัญหาที่อาจรุนแรงกว่าปกติ โดยประสานกับกรมชลประทานด้วย ก็หวังว่าปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ จะไม่เกิด หรือหากเกิดก็จะมีการป้องกัน-แก้ไขได้ อย่างไรก็ตาม ก็ใช่ว่ากรุงเทพฯ เมืองหลวงและจังหวัดปริมณฑลเท่านั้นที่สำคัญ-ที่ต้องป้องกันแก้ไข ภัยน้ำ จังหวัดอื่น ๆ ที่อยู่ ในกลุ่มเสี่ยงทั้งมาก-ทั้งน้อย...ก็สำคัญ ก็ต้องมีแผนรับมือ มีมาตรการป้องกัน- แก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพด้วย !! ทั้งนี้ สำหรับภัยน้ำท่วมที่อาจเกิดในจังหวัดต่าง ๆ ทางอธิบดีกรมชลประทาน ธีระ วงศ์สมุทร ระบุว่า... น้ำเหนือ จะควบคุมได้ด้วยเขื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งหากฝนตกเหนือเขื่อนอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยประมาณ 1,500 มิลลิเมตร เขื่อนขนาดใหญ่มีความพร้อมรองรับปริมาณน้ำได้ไม่มีปัญหา ขณะนี้ โดยเฉลี่ยทุกเขื่อนยังรองรับน้ำได้อีกถึงร้อยละ 40 ของปริมาณความจุ โดยเฉพาะเขื่อนภูมิพลที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำร้อยละ 47 ของความจุ และเขื่อนสิริกิติ์ร้อยละ 55 ของความจุ ซึ่งเขื่อนทั้ง 2 แห่ง ยังรองรับน้ำได้อีก กว่า 11,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วน น้ำทะเลหนุน ก็คาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าวันไหนน้ำขึ้น ซึ่งจะสามารถเตรียมความพร้อมในการรับมือได้ แต่ที่หนักที่สุดสำหรับที่ลุ่มภาคกลาง ก็คือ น้ำฝน โดยเฉพาะน้ำ ฝนที่ท้ายเขื่อนหรือตกนอกพื้นที่รับน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม จำเป็นจะต้องใช้การบริหารจัดการน้ำอย่างรอบคอบ อธิบดีกรมชลประทานแจกแจงว่า...หากฝนตกท้ายเขื่อน พื้นที่ ลุ่มภาคกลางถือว่าน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตร อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชลประทานลงสำรวจพื้นที่เพื่อเตรียมแผนระบายน้ำ พร้อมกำชับให้นำประสบการณ์น้ำท่วมปี 2549 มาเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ได้มีการตรวจสอบสภาพอาคารชลประทาน เครื่องมือต่าง ๆ ประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำ ให้อยู่ในสภาพพร้อมระบายน้ำ เร่ง กำจัดวัชพืชในคลองชลประทาน เพื่อให้การระบายน้ำเหนือลงสู่ทะเลรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเตรียมแผนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน รับรู้ข่าวสารอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย ทางกรมฯ ได้มีการเตรียมแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยได้ติดตามสถานการณ์ฝนตกอย่างใกล้ชิด และตรวจศักยภาพการรอง รับน้ำของอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งจากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ในปีนี้คาดว่าจะมีพายุพัดผ่านเข้าประเทศไทยประมาณ 1-2 ลูก ซึ่งถือว่าไม่น่ากังวลมาก ที่น่าเป็นห่วงก็คือฝนไม่ตกกระจายในวงกว้าง ตกอยู่เพียงจุดเดียว ซึ่งตัวชี้วัดว่าน้ำจะท่วมมากน้อยแค่ไหนนั้นจะดูที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ว่าระบายน้ำจากเขื่อนเท่าไหร่ ถ้าอยู่ระหว่าง 1,500-2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องเตรียมเสริมกระสอบ ทราย ถ้ามีน้ำมากถึง 2,000-2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ให้เสริมคันดิน แต่ถ้าถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลางต้องร่วมกันวางแผนแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมชลประทานบอกอีกว่า...ยังมั่นใจว่าจะป้องกันน้ำท่วมได้เต็มที่ ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ก็มีแผนระบายน้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้า พระยาลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เปิด-ปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อย่นระยะทางระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้น รวมทั้งให้เขื่อนเจ้าพระยาควบคุมน้ำเหนือให้ออกทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ผ่านคลองระพีพัฒน์ ลงสู่ทะเลทางแม่น้ำบางปะกง ส่วนฝั่งตะวันตกก็ระบายลงแม่น้ำท่าจีน เพื่อปล่อยลงสู่ทะเล พร้อมกันนี้ จะใช้โครง การแก้มลิงสนามชัย-มหาชัย ช่วยระบายและกักเก็บน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาอีก ทาง และเร่งสร้างสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำ 3 แห่งคือ ประเวศบุรีรมย์ หนองจอก และคลองหกวาสายล่าง ให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค. 2551 นี้ หากสถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤติ การขอผันน้ำเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรของเกษตรกร จะพิจารณาเป็นแนวทางสุดท้าย...อธิบดีกรมชล ประทานระบุ พร้อมทั้งบอกว่า...กับการแก้ปัญหาระยะยาว เรื่องการสร้างเขื่อน ขนาดใหญ่เพิ่มก็ยังจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน ก็เป็น แผนรับมือ อย่างคร่าว ๆ กับ ภัย 3 น้ำ ในปีนี้ น้ำฝน-น้ำเหนือบ่า-น้ำทะเลหนุน ปีนี้จะประมาทไม่ได้ หวังว่าจะป้องกันดี-แก้ไขได้...ไม่เสียหายร้ายแรงอีก !!!. หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: Sri_Nuan.Ray ที่ สิงหาคม 04, 2008, 02:16:09 AM เฮ้อ น่ากัวจัง หาชูชีพเสริมใยเหล็ก ติดตัวกันไว้แล้วหรือยังจ๊ะ......
:-* :-* ตราบใด ที่ยังไม่หยุดการทำลาย คราบนั้น ก็ต้องเตรียมรับสภาพคร้าบบบ พี่น้องงงงงงง :'( :'( หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ สิงหาคม 04, 2008, 03:25:20 AM ฮ่าๆๆๆ ..... ทำให้ได้รู้ว่า น้องเด็กน้อยไม่ได้หายไปไหน ยังคงแว๊บไปแว๊บมาอยู่แถวๆนี้แหล่ะครับ หัวข้อ: Re: สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม: วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2551 เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ สิงหาคม 04, 2008, 03:30:31 AM นั่นสิคะ....เงียบไปนาน (กว่าปกติ) จนนึกห่วง จริงๆแล้วยังแว่บไปแว่บมาอย่างคุณสายน้ำว่า.....ขอบคุณจ้ะน้องเด็กน้อย..... :-* น้องแมลงปออีกคน....เงียบไปจนนึกห่วง.....อยู่ดีมีสุขหรือไฉน..... ;) |