หัวข้อ: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 02:45:14 AM การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 (Bone Hunting Part II) ในตอนที่ 2 นี้ จะเป็นเรื่องเล่าของแม่หมูน้ำเกี่ยวกับกลุ่มวาฬบรูด้า และความเชื่อต่างๆ ของคนไทยที่มีต่อสัตว์ใหญ่ชนิดนี้ค่ะ เราคงทราบดีอยู่แล้วว่า ปลาวาฬหรือวาฬเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน วาฬสีน้ำเงิน (Blue whale, Balaenoptera musculus) มีขนาดมหึมา ความยาวลำตัวสูงถึง 33 เมตร และหนัก 160 ตัน แค่เราจินตนาการว่าลูกแรกเกิดที่มีความยาวมากถึง 7 เมตร ก็คงจะพอคาดเดาได้ว่าพ่อแม่นั้นจะตัวใหญ่ขนาดไหน ในบ้านเราเท่าที่มีบันทึกไว้ ปลาวาฬชนิดที่มีขนาดใหญ่สุดที่เคย คือ วาฬฟิน (Balaenoptera physalus) เป็นโครงกระดูกเก่ามากแล้วถูกค้นพบเพราะมีการสร้างโครงการบ้านจัดสรร “วิจิตรธานี” ที่จ. ฉะเชิงเทรา โครงกระดูกเก็บอยู่ที่โครงการบ้านจัดสรรคะ วาฬฟินมีขนาดลำตัวยาวสุด 27 เมตรและหนักประมาณ 75 ตัน หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 02:47:29 AM ส่วนตัวที่มีขนาดรองมาคือกลุ่มของ วาฬบรูด้าคะ (Bryde’s whale) มีขนาดความยาว 15.5 เมตรและหนัก 25 ตัน ซึ่งกลุ่มนี้มี 3 ชนิด คือ ชนิดวาฬอีดิไน (Balaenoptera edeni) วาฬโอมูไร (Balaenoptera omurai) วาฬบรูดิไอ (Balaenoptera brydei) โดยในเบื้องต้นยังคงเรียกว่าอยู่ในกลุ่ม “วาฬบรูด้า” ได้ก่อน ซึ่งต่อไปในอนาคตอาจจะเรียกแยก 2 ชนิดหลังว่า “วาฬโอมูไร” และ “วาฬบรูดิไอ” ก็ได้ค่ะ หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 02:49:02 AM คนไทยมักมีความเชื่อเรื่องของอำนาจที่มองไม่เห็น และให้ความเคารพหรืออาจจะเป็นความเกรงกลัวกับสิ่งที่มีขนาดใหญ่หรืออายุยืน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ และสัตว์ใหญ่ๆ ต่างๆ จำพวกช้าง หรือปลาวาฬในทะเล หากสัตว์พวกนี้ปรากฏกายให้เห็นหรือตาย อาจนำมาซึ่งลางร้าย หรือเหตุเภทภัยต่างๆ ได้ ยกตัวอย่าง มีชาวบ้านบอกว่าก่อนเกิดพายุ ‘เกย์’ ที่ จ.ชุมพร ในเดือนพฤศจิกายน ปี พ.ศ.2532 ที่ส่งผลให้บ้านเรือน ไร่ นา ได้รับความเสียหาย มีผู้คนล้มตายและสูญหายจำนวนมากนั้น ได้มีปลาวาฬตัวใหญ่มาเกยตื้น หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 02:50:55 AM หรือเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีวาฬบรูด้า 4 ตัว เข้ามาใกล้ชายหาดบางแสน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนเลย ชาวบ้านก็กลัวว่าจะเกิดพายุหรือภัยธรรมชาติต่างๆ ซึ่งที่จริงแล้ว สัตว์เหล่านี้ ส่วนใหญ่จะหาฝูงปลาหรือเคยกิน จึงเป็นไปได้ที่จะตามอาหารเข้ามาจนใกล้ชายฝั่ง ในบางพื้นที่ชาวบ้านจะนิมนต์พระสงฆ์มาสวดให้ซากปลาวาฬก่อนการฝังกลบ หรือการลากซากไปทิ้งในทะเลในกรณีที่ไม่สะดวกทำการฝังกลบ ที่รู้ๆ ก็มีที่อ. ปะทิว จ.ชุมพรเมื่อปี 2541 และที่จ.เพชรบุรี เมื่อหลายปีก่อนมาแล้ว ส่วนสัตว์ใหญ่อื่นก็เห็นจะเป็นช้างนะคะที่บางครั้งเจ้าของหรือควานช้างจะนิมนต์พระมาสวดก่อนจัดการฝังซาก หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 02:53:47 AM ความเชื่อแบบนี้ ในความเห็นของแม่หมูน้ำก็ถือเป็นเรื่องที่ดีนะคะ ไม่ใช่ความงมงาย เพราะเป็นการเคารพและให้ความสำคัญในธรรมชาติ ธรรมชาติเป็นของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ไม่ใช่เป็นของเราอย่างเดียว เสมือนว่ามนุษย์เราเป็นใหญ่ หรืออยู่ในระดับสูงสุดบนแผ่นดิน ปลาวาฬหรือวาฬก็เป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทร ไม่ใช่มีขนาดใหญ่อย่างเดียวนะคะ มันยังมีชีวิตที่ลึกลับมากอีกด้วย ข้อได้เปรียบของการที่สัตว์หลายๆชนิดมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลึกลับนี่แหละที่ช่วยให้สัตว์เหล่านั้นยังไม่สูญพันธุ์ไปด้วยน้ำมือมนุษย์ (เพิ่มมาคะ) หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 02:55:09 AM :o
หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 02:57:37 AM ในประเทศเวียดนามดูเหมือนจะมีความเชื่อทำนองเดียวกับบ้านเรา เขาเก็บรักษากระดูปลาวาฬไว้ตามวัดต่างๆ โดยปิดไว้อย่างมิดชิด บางวัดทำกล่องคล้ายโรงศพเก็บกระดูกพวกนี้คะ คนภายนอกไม่สามารถดูได้ นอกจากได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของวัดเสียก่อนเท่านั้น ในบ้านเราดูเป็นเรื่องปกติที่คนมักเอาของต่างๆ ไปบริจาคให้วัด เพราะนอกจากวัดจะมีพื้นที่กว้างใหญ่แล้ว วัดยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาของเรามาแต่อดีต ย่อมมีประโยชน์หากวัตถุเก่าแก่ มีคุณค่าทางวิชาการหรือประวัติศาสตร์วัฒนธรรม หรือของที่หาดูได้ยากจะถูกรวบรวมเก็บรักษาไว้ที่วัด หรือเมื่อไม่นานมานี้มีภาพยนตร์ของประเทศนิวซีแลนด์เรื่อง “Whale Rider-เด็กหญิงบนหลังปลาวาฬ นิวซีแลนด์ เป็นเรื่องของชนเผ่าเมารี ที่มีความเชื่อว่าปลาวาฬเป็นเสมือนสัตว์พาหนะของบรรพบุรุษ ไม่ทราบว่ามีสมาชิก SOS คนไหนได้ดูบ้างคะ... แม่หมูน้ำยังไม่ได้ดูคะ แต่คงต้องหาแผ่นมาดูแน่ๆ หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 02:59:51 AM :o
หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:01:19 AM :o
หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:02:33 AM :o
หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:03:47 AM ..
หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:05:06 AM ..
หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:07:41 AM นอกจากตามวัดกระดูกปลาวาฬ โลมา หรือ กระดองเต่าทะเล ตามวัดวาอารามแล้ว สถานศึกษาต่างๆ ก็พยายามที่จะรวบรวมสิ่งเหล่านี้ไว้เพื่อการศึกษา เช่น ที่สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี / คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ / คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / ศูนย์ไรฝึกฯ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.ละแม จ.ชุมพร หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:10:46 AM หรือเก็บไว้ตามส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จ.ภูเก็ต หรือที่รู้จักดีในชื่อ Phuket Marine Biological Center (PMBC) [แม้ชื่อสถาบันฯ ภาษาไทยจะเปลี่ยนมาแล้ว 5 ครั้ง (จนปัจจุบันการจะเรียกชื่อเต็มภาษาไทยให้จบต้องหยุดสูดลมหายใจเข้าหนึ่งครั้ง เพราะชื่อยาวมากคะ) เรายังคงใช้ชื่อภาษาอังกฤษเหมือนเดิมคะ] อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร และ สวนสนประดิพัทธ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคิรีขันธ์ หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:12:46 AM ในทีนี้จะไม่ขอพูดถึงในเรื่องความถูกต้องในการครอบครองชิ้นส่วนของวาฬบรูด้านะคะ หากอยู่ที่วัด พิพิธภัณฑ์ ส่วนราชการ หรือสถานศึกษาต่างๆ นั้น นับว่าเป็นประโยชน์ ถ้าได้รับการเก็บรักษาที่ถูกต้อง แต่ในส่วนของบุคคลธรรมดาทั่วไปนั้น น่าจะได้นำไปมอบให้แก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสถาบันฯ ภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งรวมโครงกระดูกวาฬและโลมาในประเทศไทย และมีอาคารเก็บรักษาโครงกระดูกพร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลประจำ หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:15:38 AM บุคคลทั่วไปนั้น เมื่อได้กระดูกวาฬขนาดใหญ่มา อาจตื่นเต้น อยากเก็บไว้เอง ชาวประมงบางคนอาจมีความเชื่อว่ากระดูกปลาวาฬสามารถป้องกันอันตรายที่จะเกิดเวลาออกหาปลาได้ แต่ด้วยการจำกัดของพื้นที่ หรือการไม่มีเวลาดูแลรักษา นานวันเข้าของที่อยากได้ กลับเป็นของที่ถูกลืมและอาจผุกร่อนเสียหายไปในที่สุด แม่หมูน้ำจึงอยากวอนขอให้ผู้ที่มีซากหรือโครงกระดูกวาฬ โลมา หรือพะยูน ได้มอบตัวอย่างนั้นๆ เพื่อประโยชน์ต่องานศึกษาวิจัยเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ต่อไป ขอขอบคุณมากคะ ************************************************************************************** แล้วพบกันในตอนหน้า เรื่องการสำรวจพบวาฬบรูด้าชนิดอิดิไนและโอมูไลในฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย รับรองว่าพอจะมีภาพสวยๆ ให้ดูบ้างคะ หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ ตุลาคม 26, 2008, 03:41:29 AM การทำงานของน้องแม่หมูน้ำและทีมงานช่างเป็นงานที่มีหลายรสชาติ....ทั้งสนุกสนาน....ตื่นเต้น....เหนื่อย....หนัก....เหม็น....น่ากลัว (หนอน)....ฯลฯ แต่ผลงานที่ได้ออกมานั้น ช่างน่าภูมิใจ....สุขใจ....และล้วนเป็นวิทยาทานที่เผยแพร่ความรู้ให้ผู้คนทั่วไปไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการ นักเรียน นักศึกษาและประชาชนคนธรรมดาได้รับรู้ ดีใจและภูมิใจค่ะที่ได้รู้จักและใกล้ชิดกับน้องแม่หมูน้ำและทีมงานทุกคน..... :-* และแน่นอนค่ะ.....ชาว SOS จะยังรักทะเล...รักษ์ทะเลและสรรพชีวิตในท้องทะเลต่อไปไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ..... หากมีอะไรที่พวกเราพอจะช่วยน้องแม่หมูน้ำและทีมงานได้บ้าง ขอให้แจ้งมา....เรายินดีและเต็มใจที่จะช่วยเสมอค่ะ..... :-* หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: Birdie ที่ไม่ใช่กาแฟ ที่ ตุลาคม 26, 2008, 04:58:54 AM ดู Nat Geo มาก็เยอะค่ะ เด็ก ๆ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักโบราณคดีที่ได้ไปปัดฝุ่น ขุดซากไดโนเสาร์ค่ะ แต่ไม่ได้ทำตามความฝัน เพราะสภาพเศรษฐกิจของครอบครัวค่ะ
กลัวหนอน และกลิ่นเหมือนกันค่ะ แต่อยากทำค่ะ ถ้าต้องการอาสาสมัคร ก็ยินดีค่ะ หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: นกกินเปี้ยว ที่ ตุลาคม 26, 2008, 05:26:55 AM วันก่อนได้กลินเหม็นเน่าแถวๆ ห้องอยู่หลายวัน นึกว่าตัวอะไรตายแถวๆ ตึก
ที่ใหนได้กลิ่นซากโลมาแถวบ่อเต่าที่อยู่เชิงควนของที่ทำงาน ลอยล่องขึ้นมาถึงตึกที่ทำงานบนควนนี่เอง ใครทำงานนี้เนี่ยความอดทนเป็นเลิศจริงๆ (หรือไม่ก็เป็นริดสีดีดวงจมูกไปแล้ว) หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: frappe ที่ ตุลาคม 26, 2008, 05:53:15 AM :-* :-* :-*
ขอบคุณพี่สองสายสำหรับเรื่องราวน่าสนใจอีกครั้งหนึ่ง อ่านแล้วนับถือพี่แม่หมูน้ำและทีมงานทุกๆท่านเลยนะคับ สำหรับการปฎิบัติงานที่ทั้งเหนื่อย หนัก ไม่สวย และ ไม่หอม แต่มีค่ายิ่ง เป็นกำลังใจให้นะคับ :-* หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ ตุลาคม 26, 2008, 08:04:00 AM ก๊ากกกก.....ริดสีดวงจมูก.... :-X :-X :-X ดูจากภาพ....น้องก้องยังหัวเราะฮ่าๆเห็นฟันขาวอยู่หน้าซากวาฬได้นี่ คนนี้หรือเปล่าคะที่เป็น ริดสีดวงจมูก.... :) ;D :) หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๊กแกผา ที่ ตุลาคม 27, 2008, 03:50:14 AM ขุดหลุมฝังทั้งตัว........งานช้าง(หรือจะเรียกใหม่เป็น.....งานวาฬดีค่ะพี่)เลยน๊ะค่ะเนี่ย
เขาทำยังไงค่ะพี่(เป็นเด็กขี้สงสัยค่ะ)หรือเขาแยกชิ้นส่วนแล้วรวมกันในหลุมเล็กๆค่ะ?......อยากรู้จริงๆ หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: นกกินเปี้ยว ที่ ตุลาคม 27, 2008, 04:42:28 AM การฝังที่ปากพนัง โดยไม่มีหน่วยงานของทช.เข้าไปดูแล หรือเก็บข้อมูล
(http://siamensis.org/images/webboard_images/OthersPics_reply_20741.jpg) http://siamensis.org/board/7195.html (http://siamensis.org/board/7195.html) หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๊กแกผา ที่ ตุลาคม 27, 2008, 05:02:57 AM โอ้โห!!!!งานวาฬ(ใหญ่กว่าช้าง)จริงๆด้วย.......ใช้รถแมคโครตักดินกันเลยทีเดียว :-X
ขอบคุณค่ะที่มาแก้ข้อสงสัย :) หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: lonely sea ที่ ตุลาคม 27, 2008, 09:19:19 AM 8)8)รีบๆตามมาอ่าน...มาดูรูป...และมาเก็บเกี่ยวความรู้...หลังจากมีเสียงกระซิบจากญี่ปุ่นว่าตอนที่ 2 เอามาลงในเวบแล้ว...และแม่หมูน้ำเองก็ยังจำ password ตัวเองไม่ได้สักที...อิอิ... :) :)
เคยมีโกาส dissec ซากโลมาอยู่พักนึง...ส่วนใหญ่ก็เจอตัวอย่างสดเพิ่งตายมาใหม่ๆ...เลยไม่ต้องอดทนกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์...ยกเว้นมีอยู่ตัวหนึ่งที่มาเกยตื้นในสภาพที่เละพอสมควร...กลิ่นงี้สุดๆ...กลับบ้านไปกลิ่นยังติดจมูกอยู่เลย :( :( ต้องขอแสดงความชื่นชมและความเสียสละของบุคคลากรในกลุ่มสัตว์หายากจริงๆค่ะ..ที่ทุ่มเททั้งแรงกาย...แรงใจในการทำงานเพื่อท้องทะเลและสัตว์ทะเลที่น่ารักทั้งหลาย.. ขอบคุณพี่สองสายนะคะที่นำมาโพสต์ให้พวกเราชาว SOS ได้รับความรู้กันทั่วหน้า...และก็ที่ลืมไม่ได้คือแม่หมูน้ำที่น่ารักเป็นที่สุด...ขอบคุณมากๆค่ะ :-* :-* หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ ตุลาคม 27, 2008, 09:56:11 AM ยินดีและมีความสุขที่ได้รับใช้พี่ๆน้องทุกท่าน....จากทุกหน่วยงานราชการเสมอค่ะ น้อง lonely sea ..... :-* เคยได้กลิ่นแอมโมเนียจากซากฉลามวาฬที่ติดโป๊ะตายที่คลองด่าน สมุทรปราการ.....รู้สึกแซบจมูก...แซบตา มากๆ (อ่านเรื่องได้จาก http://www.saveoursea.net/boardsmf/index.php?topic=183.0) แต่ฟังๆดู....กลิ่นของวาฬเน่าคงไม่เหมือนกลิ่นฉลามวาฬเน่าใช่ไหมคะ.... ;) หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: แม่หอย ที่ พฤศจิกายน 04, 2008, 09:48:16 AM :) กรี๊ดรูป #4 ..
นอกจากทั้งคุณ KA และ KK จะยังหุ่นเพรียวลม สวย+หล่อ กันทั้งคู่แล้ว ยังดูสวีทวี้ดวิ้วกันด้วยนะ แหม.. ช่วยกันดึงเชือกดึงซาก โรแมนติคจริ๊ง.. ฮ่า ฮ่า.. หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: แม่หมูน้ำ ที่ พฤศจิกายน 08, 2008, 08:12:38 AM นึกแย้ว....ว่าแม่หอยต้องกรี๊ดกับรูปนี้... ตั้งใจเลือกสรรมาลงเพื่ออารมณ์นี้โดยจำเพาะคะ อิ๊..อิ๊ :)
หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายชล ที่ พฤศจิกายน 08, 2008, 10:55:31 AM ชอบภาพนี้เหมือนกันค่ะน้องแม่หมูน้ำ....ขนาดยืนอยู่ใกล้ชิดกับซากวาฬที่คงส่งกลิ่นฉุนเฉียวชวนเป็นลม แต่น้องๆก็ยังยิ้มหวานจ๋อยกันได้อยู่เลย.... :P ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ.... :-* หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: lonely sea ที่ ธันวาคม 20, 2008, 12:45:16 PM ;Dรออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ...
เมื่อไหร่พี่สองสายจะว่างเอามาลงเอ่ย? หรือว่าต้องรอจากแม่หมูน้ำคะเนี่ย? เอาใจช่วยให้ทุกคนว่างเร็วๆนะคะ น้องๆจะได้มาเก็บความรู้ หัวข้อ: Re: การล่าหัวกะโหลกวาฬบรูด้า ตอนที่ 2 เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ ธันวาคม 21, 2008, 01:43:09 AM จบแล้วครับ แม่หมูน้ำเขียนมาแค่ 3 ตอนเท่านั้น คงต้องรอเรื่องต่อไปเมื่อแม่หมูน้ำมีเวลาว่างพอครับ |