ฉลามวาฬถูกกักบริเวณที่ดูไบ/ช่วยกันล็อบบี้ผู้บริหารโรงแรม Palm Atlantis หน่อยเร้ว

[เบิ๊ด]

เรียบโร้ยยยค่ะ

[G-girl]

คุณ G-girl ขา.....การคัดค้านต้องใช้ทั้ง E-mail ชื่อและนามสกุลจริง(ภาษาอังกฤษ)ค่ะ ถ้าคุณแจ้งให้สายชลทราบทาง PM ได้ สายชลก็ยินดีจะส่งชื่อคัดค้านให้ค่ะ

พี่สายชลค่ะ ก้อย PM ไปแล้วนะค่ะ รบกวนด้วยค่ะ 

[สายชล]

ส่งให้เรียบร้อยแล้วค่ะ น้องก้อย.....

ขอบคุณในน้ำใจที่ให้กับทะเลค่ะ....

[Reef]

เรียบร้อยเหมือนกันครับผม 

[สายชล]

อ่านเรื่องตาม link ข้างล่างนี้ประกอบนะคะ จะได้เห็นว่าไม่ใช่มีแต่แขกเท่านั้นที่จับฉลามวาฬมาลงถัง แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่ทำอย่างนี้ แถมยังทำการค้าส่งออกฉลามวาฬไปยังประเทศอื่นเป็นล่ำเป็นสันอีกด้วย....

http://www.saveoursea.net/boardapr2007/index.php?topic=467.0

[สายน้ำ]

“Free Sammy” เพื่อเพื่อนด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่



วิวใต้ท้องทะเลของอะควาเรียมจากห้องพักราคาคืนละ 30,000- 800,000 บาทของแอตแลนทิส


ขออนุญาตยืมชื่อภาพยนตร์ “Free Willy เพื่อเพื่อนด้วยหัวใจอันยิ่งใหญ่” มาเป็นชื่อเรื่องนี้

โดยมีพระเอกของเรื่องคือ แซมมี่ ฉลามวาฬวัยละอ่อนเพศเมีย ความยาว 4 เมตร

แซมมี่ถูกจับหลังจากเกยตื้นที่ชายฝั่งทะเลอ่าวเปอร์เซียเมื่อ 2 เดือนก่อน หลังจากนั้นมันก็กลายเป็นดาราประจำอะควาเรียมในล็อบบี้ของรีสอร์ทหรูเปิดใหม่ที่ดูไบชื่อ แอตแลนทิส ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรงแรมที่ใหญ่และดีที่สุดของดูไบที่ใช้งบก่อสร้างราว 5 หมื่นล้านบาทบนหมู่เกาะต้นปาล์ม หรือ The Palm Islands บริเวณอ่าวเปอร์เซีย โดยมีนักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้และบริษัทของรัฐบาลดูไบร่วมกันเป็นเจ้าของ

บรรดานักอนุรักษ์สัตว์และสื่อตะวัน ออกกลางพากันรณรงค์ให้ทางโรงแรมปล่อยแซมมี่ซึ่งเป็นฉลามวาฬสายพันธุ์ที่ต้องได้รับการสงวนไว้กลับคืนสู่ท้องทะเล และล่าสุดรัฐบาลของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็มีคำสั่งให้ปล่อยแซมมี่เป็นอิสระแล้ว

เจ้าฉลามวาฬสีเทาลายจุด ถูกเลี้ยงในอะควาเรียมรวมกับปลาและสัตว์ทะเลอีกกว่า 7 หมื่นชนิด พวกนักรณรงค์ประณามว่าการอยู่รวมกันอย่างแออัดอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของแซมมี่ เพราะธรรมชาติของวาฬเป็นสัตว์ที่ไม่ทำร้ายคน มันกินแพลงตอนและปลาเล็กเป็นอาหาร มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 100 ปีและโลดแล่นในท้องทะเลได้ไกลเป็นพันๆไมล์

การต่อสู้ระหว่างนักสิ่งแวดล้อม และเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ผู้มั่งคั่งถือเป็นเรื่องปกติในโลกตะวันตก แต่สำหรับที่ดูไบแล้วมันเป็นเรื่องใหม่มาก เพราะดูไบเป็นประเทศที่ไม่ค่อยมีการต่อต้านการก่อสร้างโครงการแสนล้าน และถึงจะมีการต่อต้าน โอกาสที่จะชนะบรรดานักพัฒนาอสังหาฯที่มีอิทธิพลก็ดูจะเป็นเรื่องยาก

“แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการกำหนดเวลาว่าจะปล่อยมันเมื่อไหร่ แต่ในที่สุดมันจะต้องถูกปล่อยเป็นอิสระ” ราชิด อาหมัด บิน ฟาฮัด รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมและน้ำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าว

เรื่องราวของแซมมี่กลายเป็นข่าวพาดหัวของสื่อดูไบทุกแขนง โดยมีหนังสือพิมพ์เดอะกัลฟ์นิวส์ ทำหน้าที่เป็นหัวหอกออกแคมเปญ “Free Sammy” กัลฟ์นิวส์ซึ่งตั้งชื่อให้มันว่า แซมมี่ ประณามการกักขังเจ้าฉลามวาฬว่าเป็นการกระทำที่อำมหิตผิดมนุษย์ และยังเปิดโปงว่าทางโรงแรมจ้างชาวประมงให้ไปจับปลาสายพันธุ์หายากมาเพื่อเอาไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยว

แคมเปญนี้ดำเนินไปอย่างคึกคัก มีการทำเข็มกลัด ป้ายผ้าและโปสเตอร์ ขณะที่ดีเจรายการวิทยุก็แต่งเพลง Free Sammy โดย ใช้ทำนองเพลง Heal the World ของราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ๊คสัน นอกจากนี้ยังมีการแคมเปญผ่านเฟซบุ๊คด้วย

ทางเจ้าของโรงแรมปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อคำสั่งปล่อยแซมมี่ โดยก่อนหน้านี้ตอนที่มีการจับแซมมี่ได้ ทางโรงแรมออกแถลงการณ์ว่ามีชาวประมงให้การช่วยเหลือมันไว้ ซึ่งขณะนั้นมันอยู่ภายใต้ภาวะกดดัน ทางโรงแรมจึงได้จัดสัตวแพทย์ดูแลปฐมพยาบาลเป็นอย่างดีและตั้งใจจะเก็บมันไว้เพื่อการศึกษา

เมื่อปีที่แล้วรีสอร์ทแห่งนี้ก็เคยถูกประท้วงมาแล้ว หลังจากที่สั่งซื้อปลาโลมา 28 ตัวจากหมู่เกาะโซโลมอนโดยบรรทุกพวกมันมาทางเครื่องบินที่ใช้เวลาเดินทางกว่า 30 ชั่วโมง เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยวได้ว่ายเล่นกับพวกมัน นอกจากนี้การถมทะเลเพื่อสร้างหมู่เกาะจำลองเพื่อทำรีสอร์ทก็ถูกต่อต้านว่า เป็นการทำร้ายปะการังและส่งผลต่อกระแสน้ำด้วย

คำสั่งคืนอิสระให้แซมมี่สร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆของมันเป็นอย่างยิ่ง พวกเขาสงสัยว่าความสำนึกในชุมชนอาจจะเปลี่ยนไป เพราะดูไบเป็นเมืองที่มีชาวต่างชาติที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากก็ได้

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นก่อนงานกาลาดินเนอร์เปิดตัวรีสอร์ทหรูในเดือนนี้ ซึ่งมีการเชิญคนดังร่วม 2 พันคน และคาดว่าจะเป็นปาร์ตี้ที่แพงที่สุดในศตวรรษ จึงเป็นที่น่าสงสัยว่า คำสั่งปล่อยแซมมี่น่าจะมาจากการที่ทางโรงแรมกลัวจะเสียชื่อเสียง และส่งผลกระทบต่องานเปิดตัวมากกว่า เพราะต่อมสำนึกน่ะมันเกิดขึ้นได้ง่ายๆซะที่ไหน

ที่มา : ไทมส์ ออนไลน์ และวอชิงตันโพสต์ 


จาก                  :               กรุงเทพธุรกิจ  วันที่ 22 พฤศจิกายน 2551

[สายชล]

ดีใจกับแซมมี่....ลูกฉลามวาฬ และพวกเราทุกๆคนที่ร่วมกันลงชื่อคัดค้านจนแซมมี่ได้รับอิสระค่ะ.... 

[Pursuit of Happiness~]

เย้ๆ ให้เค้าได้กลับไปอยู่ในบ้านเค้าซึ่งคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่นั้นดีที่สุดเลย  

[zmax]

สงสัยว่า คำสั่งปล่อยแซมมี่น่าจะมาจากการที่ทางโรงแรมกลัวจะเสียชื่อเสียง และส่งผลกระทบต่องานเปิดตัวมากกว่า เพราะต่อมสำนึกน่ะมันเกิดขึ้นได้ง่ายๆซะที่ไหน

ชอบไอ้ประโยคหลังนี่แหละ
ดีใจจริงๆที่แซมมี่ได้รับการปล่อย

[แม่หอย]

ดีใจด้วยค่ะ..

[ตุ๊กแกผา]

  ดีใจจังเลย ว่าแต่ว่าน่าจะมีภาพยืนยันการปล่อยน๊ะค่ะพี่ .....กลัวจะเป็นข่าวลือจังเลย 

[อยากดำน้ำ]

 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

[สายชล]

ไม่เห็นภาพตอนปล่อยฉลามวาฬค่ะ เห็นในข่าวเมื่อสองเดือนก่อนตอนว่ายไปว่ายมาอยู่ในสระน้ำทะเลหน้าโรงแรม...