![]() |
บ้านที่ผนังมีฐานหินผสมดิน ยังมีให้เห็นได้ทั่วไป มีคนบอกว่า บ้านบางหลังสร้างมาตั้งแต่สมัยอินคา และมีคนอยู่อาศัยมาจนถึงทุกวันนี้...น่าเสียดาย ที่ไกด์ไม่ได้บอกว่าเป็นหลังไหน http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_22.jpg ฉันชอบร้านค้า ที่เป็นตึกดินแถวหน้าโรงแรมของเรามาก http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_24.jpg โบสถ์ที่ตึกจะเป็นอาคารสูงใหญ่ แต่กำแพงก็ยังทำด้วยหินและดินอยู่ดี http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_26.jpg |
เอาอีก เอาอีก เอาอีก...อ่านเพลินแบตเหลือ6%แล้วคร๊าบบบ พี่น้อยสู้ๆ น้องๆและมิตรรักแฟนเพลงรอติดตามตอนต่อไปอยู่เด้อค่ะ^^
ปอลอ: ลุงก้อยขอรับ...เหมาคุ่ยอยู่คนเดียวยังจะมาโทษเฮา ชริ! |
การคมนาคมของคนพื้นเมือง...ถ้าเป็นทางไกลระหว่างเมือง ก็จะใช้รถตู้ ที่มีชุมทางแถวๆจตุรัสหน้าเมือง http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_22.jpg ถ้าเป็นการเดินทางในเมือง ถ้าไม่ไกลก็จะใช้การเดิน ถ้าไกลหน่อย ก็จะอาศัยรถสามล้อเครื่อง ที่หน้าตาไม่เหมือนตุ๊กๆบ้านเรา เพราะจะปิดด้านข้างไว้หมด เพื่อกันความหนาว http://i835.photobucket.com/albums/z...ad-View_29.jpg ส่วนรถเก๋งที่เห็น ส่วนมากเป็นของนักท่องเที่ยว ที่ขับมาเที่ยวกันที่เมืองนี้.. http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_28.jpg |
เขาว่าตัวเมืองของโอลันไทตัมโบสร้างอยู่บนแม่น้ำปาตากันชา (Patakancha River) บริเวณที่ไหลไปบรรจบกับแม่น้ำอูรูรัมบา http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_27.jpg ตามถนนในเมืองนี้ จะมีรางน้ำไหลผ่านกลางถนนบ้าง หรือข้างถนนบ้าง... http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_31.jpg น้ำนี้เป็นน้ำสะอาด ที่นำไปใช้ในครัวเรือนต่างๆได้ http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_32.jpg |
ในทางประวัติศาสตร์...โอยันไทตัมโบ เป็นเมืองที่ถูกสร้างโดย ปาชากูตี (Pachacuti) จักรพรรดิ์ผู้ยิ่งใหญ่ของอินคา บนยอดเขาสูงถูกสร้างเป็นราชวัง ลักษณะเช่นเดียวกับที่ปิแซค http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_02.jpg แผนผังของราชวัง ที่แสดงจุดสำคัญต่างๆไว้ชัดเจน ซึ่งประกอบด้วยส่วนพักอาศัย วิหารสุริยเทพ ป้อมปราการ นาขั้นบันได ฯลฯ http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_01.jpg เมื่อสเปนเข้าครอบครองอินคา ได้ยกเมืองโอลันไทตัมโบ ให้เป็นเมืองหลวงชั่วคราวของ แมนโคอินคา ยูปันกุย (Manco Inca Yupanqui) ที่ยังพยามยามหาทางต่อต้านพวกสเปนผู้รุกราน เพื่อจะได้ควบคุมได้ง่ายๆ http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_06.jpg เมืองนี้มิได้ถูกทำลายมากนัก จึงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด เมื่อเทียบกับโบราณสถานอื่นๆของอินคา http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_09.jpg |
ทางขึ้นไปบนซากโบราณสถานโอยันโตตัมโบนั้น จัดเรียงหินไว้เป็นห้องๆ เหมือนให้เป็นทหารที่รอเข้าเวรยาม http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_08.jpg การจะเดินขึ้นไปบนเขตราชฐานและป้อมปราการ จะต้องเดินผ่านขึ้นไปตามนาขั้นบันได ที่กว้างขวาง ปัจจุบันไม่ได้ใช้เป็นที่ปลูกพืชผลทางการเกษตรแต่อย่างใด http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_07.jpg ฉันเกิดอาการปวดเข่าขึ้นมา จึงขอนั่งคอยอยู่ที่บริเวณนาขั้นบันไดแถวที่สอง ที่มีหินตั้งไว้ให้นั่งสบายๆ ปล่อยให้บัดดี้และเพื่อนๆขึ้นไปชมข้างบนกับไกด์ http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_07.jpg คนเดินขึ้นไปเที่ยวกันมาก...เห็นแล้วก็กลัวค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_04.jpg |
ระหว่างนั่งคอยอยู่นั้น...ฉันก็นั่งถ่ายภาพตัวเมืองโอยันไทตัมโป ที่มองเห็นจากมุมสูง เห็นได้ชัดว่า เมืองนี้เป็นเมืองในหุบเขา ที่มีเขาล้อมอยู่ถึงสามด้าน.... http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_12.jpg บ้านเรือนอยู่กันค่อนข้างหนาแน่น แต่ความสูงของอาคารนั้น ไล่เลี่ยกัน และไม่สูงเกินสองชั้น http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_13.jpg ที่พื้นมุมซ้ายด้านตะวันออก มีกลุ่มอาคารหมู่ใหญ่ ซึ่งฉันเล็งไว้ว่าจะลงไปชมตอนขาลง http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_11.jpg |
ฉันมองไปทางหน้าผาด้านตะวันออก...ได้เห็นเป็นภาพหน้าเหมือนสิงโต มีหู ตา และ ปาก ชัดเจน แต่ได้อ่านพบว่า นั่นเป็นหน้าเทพเจ้าของอินคา ที่เรียกว่า Viracocha ซึ่งเป็นเทพเจ้าผู้สร้างจักรวาล พระอาทิตย์ โลก ดวงจันทร์ และดวงดาว เชื่อว่าเทพเจ้าองค์นี้ได้ผุดขึ้นมาจากทะเลสาบ ติติคาคา (Titicaca) เป็นที่เคารพของชาวอินคาโบราณ และคนที่อยู่ในทวีปอเมริกาใต้มาก ด้านบนของภาพเทพเจ้า ที่เหมือนแกะสลักลงบนหน้าผากว้างถึง 140 เมตร นี้ ด้านบนมีการก่อสร้างอาคาร จนเหมือนมงกุฎ ด้านขวาที่เหมือนบริเวณไหล่ มีรอยขีดบนหินเหมือนอาร์มบนบ่า ต่อด้วยสิ่งก่อสร้างเป็นเรือนแถว ซึ่งใช้เป็นยุ้งสำหรับเก็บพืชไร่ http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_14.jpg ภาพเทพเจ้าบนหน้าผานี้ ดูเหมือนก้มลงมาดูแลปกป้องคนในเมืองโอยันไทตัมโบ ให้มีความสุขสงบร่มเย็น ฉันเห็นแล้วก็รู้สึกดีใจและสุขใจ จนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_14.jpg |
ตามที่ว่างบนเขาและเชิงเขา มีต้นป่านศรนารยณ์และต้นหนวดฤๅษีขึ้นอยู่เต็ม เหมือนที่เราได้เห็นตามริมทางรถไฟ ระหว่างที่ไปมาชูปิกชู http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_20.jpg มองไปด้านบนเห็นแดดอ่อนลงแล้ว ผู้คนยังเดินกันขวักไขว่ แต่ไม่เห็นพวกเราสักคน คงไปดูอะไรกันอยู่หลังหินก้อนใหญ่ๆ ที่ใช้สร้างอาคาร ซึ่งไม่รู้ว่าชาวอินคาขนขึ้นเขาไปได้อย่างไรจากที่ไกลๆ ทั้งที่ไม่มีเครื่องทุ่นแรงอะไรเหลือไว้ให้เห็น สักพักเดียว...ฉันเห็นไกด์วิ่งลงบันไดผ่านไปอย่างรวดเร็ว คงจะต้องนั่งรถกลับไปคุสโกอีกเหมือนเดิม...อีกไม่นานนัก บัดดี้ฉันก็เดินลงมา ได้ความว่า เดินขึ้นไปได้ไม่ไกล เตร็ดเตร่อยู่แถวนั้น เราเลยลงไปสำรวจหมู่อาคารที่อยู่ด้านล่างกัน ที่เห็นอยู่ด้านหน้านั้น เป็นประตูทางเข้า และหมู่อาคารที่ดูเหมือนจะสร้างขึ้นใหม่ เป็นที่ทำการของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสถานที่นี้อยู่ http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_21.jpg หมู่อาคารด้านตะวันตก เป็นอาคารที่เป็นเหมือนกองบัญชาการของหน่วยทหาร http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_18.jpg |
ที่พื้นราบทางด้านตะวันออกของนาขั้นบรรได ยังมีกองหินที่ยังทำค้างไว้ กองระเกะระกะอยู่ http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_27.jpg บางก้อนได้ถูกตัดไว้ราบเรียบแล้ว ในขณะด้านที่เหลือยังขรุขระตะปุ่มตะป่ำ ถ้าไม่มีเลื่อยไฟฟ้าตัดหินอย่างที่ใช้อยู่ ชาวอินคาใช้อะไรตัดหินได้เรียบเนียนมุ่มมืออย่างที่เห็น http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_26.jpg แล้วการต่อหินให้เรียบเนียน ไม่มีช่องว่างให้เห็นอีก ชาวอินคาทำได้อย่างไร ลองเทียบกับของที่ทำขึ้นใหม่ ที่ฉันไปยืนอิงอยู่ดูสิคะ...ดูไม่ได้เลย http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_25.jpg |
เดินต่อไปอีกนิด เป็นที่อาบน้ำ ที่ทำใหญ่โต มีน้ำส่งตามท่อมาให้ใช้ได้ตลอดเวลา http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_17.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_19.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_29.jpg |
ฉันเก็บความประทับใจ ที่ได้เห็นได้รับรู้ไว้ในความทรงจำ...ก่อนที่จะเดินไปทางประตูทางออก... http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_28.jpg |
ด้านนอกโบราณสถานของอินคา...เป็นลานขายสินค้าพื้นเมือง ที่ราคาสูงกว่าที่ปิแซค และไม่มีของให้เลือกมากนัก http://i835.photobucket.com/albums/z...the-Sun_30.jpg เราเดินออกไปจากลานขายของ เดินไปตามถนน มีร้านขายตุ๊กตาอยู่ริมถนน คนขายนั่งปักและเย็บตุ๊กตาด้วยมืออยู่อย่างตั้งใจ....ต้องขออุดหนุนหน่อยแล้วค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_23.jpg เราเดินไปจนถึงลานหน้าที่ทำการเมือง ซึ่งเป็นวงเวียนกว้าง ที่ทำเป็นสวนสาะารณะ...จากมุมนี้ เราสามารถมองเห็นยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของโบราณสถานของอินคาได้อย่างชัดเจน http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_17.jpg ถึงโรงแรมที่พักเสียทีค่ะ....ฉันนั่งนิ่งสงบ และหายใจเอาอากาศที่สะอาดและบริสุทธิ์เข้าปอด เพียงเท่านี้ ก็ทำให้มีความสุขแล้วค่ะ.... http://i835.photobucket.com/albums/z...n-Hotel_11.jpg |
น้องอ้อย lazyoctopussy จ๋า....ขอบคุณที่ติดตามแบบตามติด เป็นปลื้มมากๆ แต่พี่มานั่งเล่าเรื่องประกอบภาพนี่ เหนื่อยเหมือนกับไปเที่ยวอีกรอบเลยจ้ะ อย่างไรก็ตาม...ใกล้จะกลับไปคุสโก แล้วบินไปดำน้ำที่กาลาปากอสแล้วจ้ะ...:) |
555^____^ พี่น้อยน่ารักที่ซู๊ดดดด อ่านเพลิน รูปสวย เหมือนได้กลับไปเที่ยวอีกรอบแถมไม่เหนื่อยด้วยฮับ...
|
เป็นชนเผ่าที่หินจริงๆครับ....ไม่รู้ว่าทำไมเทคนิคการตัดหินถึงไม่สืบทอดมายังรุ่นปัจจุบัน มันสูญหายไปโดยไม่มีคนสืบทอดเลยแม้แต่คนเดียวเลยหรือครับเนี่ย? ไม่อยากนึกเลยว่าคนที่สกัดหิน ขนหิน คงเสียชีวิตกันไปมากเลยนะครับนั่นกว่าจะได้เมืองขนาดนี้ อืม....สงสัยเหตุที่ไม่มีการสืบทอดเทคนิคการตัดหินคงเป็นเพราะแรงงานทาสนี่เอง หลังจากใช้งานเสร็จแล้วคงถูกฆ่าตายหมด เหมือนอย่างพิรามิดที่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้ทางเข้าเพราะถูกปิดปากไปหมดแล้ว
ตอนแรกเปิดหน้าที่มีตัวกินคุ่นโผล่..ฮ่าๆๆ(ขออภัยครับ)เห็นแล้วน้ำลายไหล แต่พอเปิดย้อนกลับไปดูหน้าแรกๆ....กินม่ายลงฮือๆๆๆ แต่ถ้าไปด้วยได้กลิ่นแล้วคงห้ามใจม่ายไหว...ฮ่าๆๆๆ |
55555....ด้วยควาามยินดีที่ได้เหนื่อย เพื่อน้องๆที่รักจ้ะ น้องอ้อย... พี่จ๋อมทำภาพทริปกาลาปากอส ไปถึง San Cristobal ใกล้จะได้ลงน้ำแล้วจ้ะ...:) |
น้องเก่งจ๊ะ...เผ่าอินคานี่ปัญญาเลิศล้ำ เหมือนพวกอิยิปต์ จนมีการสันนิษฐานว่า พวกอินคาอพยพมาจากแถวอิยิปต์ หรือไปรับศิลปวัฒนธรรม และวิทยาการมาจากอียิปต์ ค่ะ แต่เรื่องการหายไปหมดอย่างลึกลับของอินคานี่ เห็นว่าไม่จริง แต่เป็นเพราะชาวเผ่าอินคาถูกโรคฝีดาษคุกคาม จนล้มหายตายจากกันไปหมด และเนื่องจากอินคาไม่มีภาษาเขียน ใช้การพูดถ่ายทอดต่อๆกันมา เมื่อมาตายกันไปหมด เลยทำให้ไม่รู้ว่าการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ที่เป็นหินของอินคานั้นทำกันได้อย่างไร.... |
ขอบคุณครับพี่น้อย...แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีละครับ 555 ยิ่งอพยพมาจากอิยิปส์ด้วยยิ่งสงสัยเข้าไปอีก ในเมื่ออิยิปส์นั้นเชี่ยวชาญด้านวิชาการและมีภาษาเป็นของตัวเองอีกแล้วด้วย วัฒนธรรมชนเผ่านี่น่าสนใจจริงๆนะครับ
|
55555...ไปค่ะ ไปลุยค้นหาอินคากันอีกสักรอบสองรอบนะคะ น้องเก่ง เผื่อจะได้เข้าใจชีวิตความเป็นอยู่ของอินคากันมากขึ้น...:) |
ซัคไซวามัน, คุสโก (Sacsayhuaman, Cusco) http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_48.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...usco-Map-4.jpg |
เช้าวันที่ 7 ของการเดินทางในเปรู...เราออกเดินทางจากโอลันไทตัมโบ ย้อนขึ้นเหนือกลับขึ้นไปยังเมืองคุสโกอีกครั้ง... เมื่อรถไปถึงคุสโก ก็วิ่งผ่านเมืองแล้วตรงดิ่งขึ้นเขา ระยะทางเพียง 2 กิโลเมตร จากจตุรัสพลาซาเดอาร์มาส (Plaza de Armas) จุดหมายปลายทางของเรา คือ "ซัคไซวามัน (Sacsayhuaman)"...ป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิ์อินคา คำว่า Sacsayhuaman นั้น แปลาว่า "เหยี่ยวด่าง Speckled Falcon)" หรือ "หัวด่าง (Speckled Head) แต่ที่เขาพูดกัน บริเวณที่ซัคไซวามัน อยุ่นั้น เป็นส่วนที่เป็น "หัวพูม่า" http://i835.photobucket.com/albums/z...coMap_Puma.jpg ซัคไซวามัน ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของตัวเมืองคุสโก บนความสูง 3,701เมตร จากระดับน้ำทะเล ได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1983 http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_01.jpg อาณาเขตของซัคไซวามัน อยู่ติดกับยอดเขาที่มีรูปปั้นพระเยซูสีขาว ที่เราเคยเห็นจากตัวเมืองคุสโก... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_02.jpg ไกด์ให้รถจอดริมถนน บนยอดเนินเขาสูง และจะให้เราเดินไปตามทางเดินที่มุ่งตรงไปยังซากป้อมปราการ ที่เห็นอยู่ลิบๆ... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_13.jpg |
เดินจากถนนไปตามทางเดิน เราเห็นหินก้อนใหญ่ ถูกแกะสลักเป็นป้อมปราการและอาคารบ้านเรือน ถามไกด์ว่าเป็นภาพจำลองของที่ไหน เขาตอบว่าไม่ทราบเหมือนกัน...ไม่แน่ใจว่ากวน หรือไม่ทราบจริงๆ http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_03.jpg มีอัลปากา และ วิกุนยา นั่งๆนอนๆอยู่หลายตัว เราแวะไปทักทาย แต่ก็ต้องเตรียมทางหนีทีไล่ เผื่อมันจะวิ่งไล่อีก http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_10.jpg ลูกๆของมัน น่ารักน่าเอ็นดูดีค่ะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_11.jpg เจ้าตัวเล็กเดินเข้ามาทักทายพวกเราอย่างใกล้ชิด http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_12.jpg |
สองข้างทางมีไม้ดอกปลูกไว้ตลอดทาง....สวยมากค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_07.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_04.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_05.jpg |
ถึงแดดจะร้อนแรง และทางเดินยาวไกล แต่ลมที่โชยพัดมา และดอกไม้สวยๆข้างทาง ทำให้ฉันเดินไปได้อย่างมีความสุข http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_09.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_08.jpg |
เราเริ่มเดินลงไปในสนาม ที่มีซากอาคารซึ่งเหลือเพียงฐาน ไกด์บอกว่า สเปนเอาหินจากซากอาคารและป้อมปราการที่นี่ ไปสร้างอาคารและถนนหนทางในเมืองคุสโกหมด http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_14.jpg ไกด์บอกว่า บริเวณที่เป็นตัวอาคารของป้อมปราการ ถูกพวกสเปนผู้รุกราน ทำลายจนเหลือเพียงซาก http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_15.jpg สี่คนตั้งใจฟังไกด์พูด...อีกคนเอาแต่ถ่ายภาพ...ส่วนอีกสองคนอยู่ห่างออกไป กำลังซุบซิบๆกันอยู่นะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_16.jpg ไกด์เริ่มพาเราเดินต่อ... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_17.jpg |
ไกด์บอกว่า อาคารที่เคยอยู่บริเวณนี้ ตั้งใจจะสร้างเพื่อให้เห็นเมืองคุสโก ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ ที่อยู่เบื้องล่างได้ชัดเจน http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_18.jpg แต่เมื่อเรามองออกไป...ก็มองเห็นตัวเมืองด้านที่ว่าเพียงเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะตัวอาคารสูงถูกทำลายไปหมด แต่ที่เห็นชัดคือหน้าผา ที่มีคนขึ้นไปเขียนข้อความเลอะเทอะไปหมด http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_19.jpg แท่นที่อยู่ในบริเวณนี้ เหมือนแท่นที่ใช้บูชาเทพเจ้า http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_20.jpg ดอกไม้สีเหลือง ที่ขึ้นอยู่ในบริเวณซากอาคาร ไม่แน่ใจว่าขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือถูกปลูกขึ้นมา ดูแล้วสดชื่นดี ฉันชอบมากค่ะ http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_21.jpg |
ที่กลางสนาม...น้องอ้อยเจอของดี เลยอ้าปากกว้างตั้งใจจะงับ...เราไม่อยากห้ามเลย แต่เกรงน้องอ้อยจะต้องอยู่คุสโกต่อ เพราะติดใจเจ้าของดี จนไม่อยากกลับเมืองไทย... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_06.jpg เราเบี่ยงเบนความสนใจของน้องอ้อย โดยการพาไปถ่ายภาพหมู่... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_23.jpg |
[CENTER]ที่กลางสนาม...น้องอ้อยเจอของดี เลยอ้าปากกว้างตั้งใจจะงับ...เราไม่อยากห้ามเลย แต่เกรงน้องอ้อยจะต้องอยู่คุสโกต่อ เพราะติดใจเจ้าของดี จนไม่อยากกลับเมืองไทย...
http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_06.jpg ป้าอ้อยกินคุ่ยแล้วยังจะกิน_ ด้วยเหรอ ภาพสวยและแจ่ม รายละเอียดพร้อมพรั่งจริงๆครับพี่สองสาย |
55555....น้องอ้อยยังไม่ได้กินเนื้ออัลปากา ก็เลยจะลองกินผลผลิตของอัลปากา หรือเปล่าคะ...:) |
มีหินก้อนใหญ่ที่ถูกตัดให้เป็นเหมือนกับบันไดและเวที ไกด์บอกว่า อาจจะเป็นแท่นทำพิธีทางการทหาร เช่นการทำพิธีสวนสนาม หรือพิธีการทางศาสนา ฉันไม่สนใจว่าเอาไว้ทำอะไร แต่สนใจวิธีการตัดหินให้ราบเรียบ และประณีตได้อย่างนั้น ใช้เครื่องมืออะไรในการตัดกันนะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_24.jpg พอขึ้นมายืนบนจุดนี้ เราก็ได้เห็นภาพความยิ่งใหญ่ ของป้อมปราการแห่งเมืองคุสโก...ซัคไซวามัน http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_25.jpg มนุษย์ที่อยู่แถวนั้น เมื่อเทียบกับหินก้อนมหึมา ที่เรียงเป็นฐานกำแพงแล้ว เหมือนตุ๊กตาตัวจิ่ว http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_27.jpg เราพากันเดินลงไปที่สนามหน้าป้อมปราการ ยิ่งเข้าไปใกล้ ก็ยิ่งเห็นความยิ่งใหญ่ของก้อนหินยักษ์ แห่งป้อมปราการซัคไซวามัน http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_29.jpg |
ฉันแหงนคอตั้งบ่า มองดูกำแพงหินที่ถูกวางซ้อนกันขึ้นไปสามชั้นอย่างทึ่ง... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_38.jpg ไกด์ไปยืนในตำแหน่งที่มีหินรูปร่างหลายมุมวางซื้อกันอยู่ แล้วเริ่มเล่าว่า หินที่เราเห็นเป็นเพียงฐานที่เหลืออยู่เพียง 3 ชั้น ส่วนที่เหลือซึ่งสูงขึ้นไป ถูกสเปนบุกทำลาย นำหินไปทำถนน อาคารบ้านเรือน โบสถ์คริสต์ และที่ทำการรัฐบาล หินพวกนี้ เมื่อมองดูใกล้ๆ จะไม่เห็นร่องระหว่างหินเลย ตรงรอยต่อตัดมุมหินให้มนเนียนมือ จนมีคนบอกว่า ชาวอินคามีน้ำยาที่ราดลงไปแล้วอ่อนนิ่ม ตัดให้เรียบเนียนได้ง่าย แล้วนำมาต่อให้เข้าเหลี่ยมมุมกัน ก่อนจะปล่อยให้แข็ง....อ่านแล้ว คุณเชื่อไหมคะ |
ไกด์ให้ความสำคัญกับก้อนหินก้อนที่ด้านล่างโค้งมน เหมือนรูปโล่ สอดรับกับหินที่มารองรับด้านล่างสองก้อน โดยปลายโค้งที่มาบรรจบกันนั้น อยู่ระหว่างเส้นต่อของหินสองก้อนล่าง ได้อย่างพอดิบพอดี ดูแล้วก็น่าอัศจรรย์ใจจริงๆค่ะ ไม่เหมือนฝีมือมนุษย์เลย... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_34.jpg หินแต่ละก้อนไม่ใช่เล็กๆเลยนะคะ แต่ลูกตัดและนำมาต่อกันอย่างนี้ได้อย่างไร เขาว่า ที่นี่ใช้คนงานก่อสร้างราว 20,000 ถึง 30,000 คน และใช้เวลาก่อสร้างถึง 60 ปี http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_35.jpg กำแพงสร้างเป็นกำแพงสามชั้น ขนานกันเป็นรูปซิกแซก ยาวราว 400 เมตร พื้นที่รวม 6,000 ตารางเมตร หินความสูงเฉลี่ยราว 6 เมตร น้ำหนักอยู่ะระหว่าง 128 ถึง 200 ตัน แต่มีหินก้อนที่ใหญ่ที่สุด มีความสูง 8.5 เมตร น้ำหนักสูงถึง 300 ตัน ตั้งอยู่ที่มุมกำแพงด้านนอก |
หินก้อนที่ใหญ่ที่สุดในซุคไซวามัน http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_40.jpg อีกหนึ่งมุมมองของหินยักษ์ http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_37.jpg นายแบบกับนางแบบ....กับหินยักษ์ http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_39.jpg หินที่เป็นแผ่นสี่เหลี่ยมที่ใหญ่ที่สุด... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_41.jpg |
ไกด์บอกให้เรามองหินนี้ ถ้ามองดีๆ จะเป็นภาพเสือพูม่า... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_43.jpg ความสูงใหญ่ของกำแพง เมื่อเทียบกับมนุษย์ที่ตัวไม่เล็กเลย... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_44.jpg ความยาวของกำแพง http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_49.jpg น้องๆกระโดดถ่ายภาพกันสนุกสนาน โดยมีไกด์เป็นตากล้อง http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_52.jpg |
เปลี่ยนตากล้อง...ถ่ายท่ากระโดดใหม่... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_50.jpg แปรอักษร...อ่านว่าอะไรคะ... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_54.jpg |
เราเดินไปตามทางเดินที่จะขึ้นไปด้านบน ผ่านหินตรงมุม ที่ถูกขัดให้กลมมน เหมือนฐานป้อม...ส่วนล่างสุด ถูกตัดให้สอบลงเพื่อรับกับฐานหินข้างล่าง การต่อหินด้านบน ก็น่าสนใจดี มีดอกไม้ขึ้นอยู่บนยอดด้วย http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_57.jpg มุมกำแพงอีกมุมหนึ่ง http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_46.jpg ประตูทางขึ้นด้านบน http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_61.jpg |
เมื่อเรายืนอยู่ที่ประตู ทำให้เราเห็นเมืองคุสโกอยู่ด้านล่าง และรูปปั้นพระเยซูอยู่ด้านซ้าย http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_62.jpg เราเดินออกไปตามทางเดิน จนสุดทาง ก็เห็นรั้วกั้นเหวลึก และไม้กางเขน...เบื้องล่างคือเมืองคุสโก... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_64.jpg เห็นเป็นภาพเสือพูมาไหมคะ...เขาบอกว่าส่วนที่เป็นพลาซาเดอาร์มาส นั้น คือหัวใจของพูมา และส่วนของซัคไซวามัน คือส่วนหัวของพูมา http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_65.jpg |
ลองจินตนาการว่าส่วนที่เป็นตัวเสือพูมา คือสีส้มของหลังคาอาคารต่างๆ... http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_66.jpg ภาพนี้จะเห็นพลาซาเดอาร์มาส อย่างชัดเจน...ส่วนโรงแรมของเราที่อยู่ทางด้านซ้าย ใกล้ๆกันนั้น ก็สามารถมองเห็นได้เช่นกัน http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_67.jpg รูปปั้นพระเยซู ที่สง่างาม ทางยอดเขาด้านซ้ายมือ http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_70.jpg เพิ่งสังเกตว่า เที่ยวกันมา 6 วัน...สมาชิกก๊วนนี้ก็หน้าดำเกรียมแดดกันไปหมดค่ะ เพราะที่นั่นแดดแรงแต่อากาศเย็นสบาย จนเรานึกว่าแดดไม่ร้อน เลยเปิดหน้ารับแดดกันเต็มที่ http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_69.jpg |
เราเดินกลับไปทางป้อมปราการอีกครั้ง เพื่อ ร่ำลาความยิ่งใหญ่ของซัคไซวามัน กันอีกครั้ง.. http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_42.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_84.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...yhuaman_85.jpg |
| เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:58 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger