เรือหลวงสัตกูต ..... ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอยเรือหลวงปราบ
1 Attachment(s)
ถ้าสมาชิกที่เข้าเว็บ SOS วันนี้ คงจะได้ทราบรายงานข่าวจากคุณสายชลใน Chat ไปแล้วว่า ปฏิบัติการนำเรือหลวงสัตกูตลงสู่พื้นทะเลล้มเหลวไม่เป็นท่า สองสายได้ติดเรือของ Ban's ออกไปติดตามการนำเรือหลวงสัตกูตลงสู่พื้นทะเล ช่วงกลางวันวันนี้ .... เมื่อเรือเราไปถึงหมาย ที่คณะผู้ดำเนินการกำลังจัดการส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจมเรือ ก็ได้เห็นสภาพของเรือหลวงสัตกูตเอียงไปทางด้านขวาอยู่แล้วดังที่เห็นในภาพ |
1 Attachment(s)
ทางกองทัพเรือได้ติดตั้งปืนประจำเรือให้เช่นเดียวกับเรือหลวงปราบ ..... แต่วนไปอีกด้าาน ก็ยิ่งเห็นว่าเรือเอียงอย่างชัดเจน บทเรียนจากความผิดพลาดในอดีตที่เพิ่งจะผ่านมาเมื่อไม่นานนี้ ทางกลุ่มของผู้ดำเนินงานฯไม่ได้นำมาทบทวนหรือปรับปรุงวิธีการให้ดีและรอบคอบขึ้นกว่าเดิมเลย |
1 Attachment(s)
ทีมงานยังคงใช้วิธีการเปิดวาล์วเพื่อให้น้ำเข้าเรือเหมือนครั้งที่แล้ว และเมื่อเรือเอียงไปข้างหนึ่ง ก็ยังคงใช้วิธีการเดิมเหมือนครั้งที่แล้วเช่นกัน คือ ใช้เชือกมาดึงอีกข้างหนึ่ง โดยหวังว่าเรือจะปรับมาตั้งตรงชึ้นได้ แต่ผลก็คือ นอกจากเรือจะไม่ปรับระดับแล้ว เรือยังถูกลากเลื่อน สมอกราวน์ออกไปจากตำแหน่งเดิมอีกด้วย |
1 Attachment(s)
เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากการปิดวาล์วน้ำไม่ให้น้ำเข้าเรือเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง .... สุดท้าย ทางเรือต่างๆที่มาล้อมวงดูกัน ก็ได้รับวิทยุแจ้งว่า การนำเรือสัตกูตลงใต้ทะเลถูกระงับไว้ก่อน เรือทั้งหลายจึงพากันล่าถอยกลับเข้าฝั่ง เพื่อหนีลมและฝนที่กำลังจะเข้ามาถล่ม แต่ปรากฎว่า การแจ้งว่าขอหยุดดำเนินการดังกล่าว เป็นการลวงบรรดาไทยมุงฝรั่งมุง รวมทั้งนักข่าว ให้ล่าถอยกลับไปเท่านั้น พอบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ และผู้ชมทั้งหลายกลับไปกันหมดแล้ว ให้หลังเพียง 2 ชั่วโมง ทางทีมงานได้รีบปล่อยน้ำเข้าเรือ จนเรือจมลงสู่ใต้ทะเลในสภาพเดียวกับเรือหลวงปราบ คือ ตะแคง และคว่ำลงสู่พื้น ที่ได้ฟังจากทีมงานของ อ.ธรณ์ ที่ได้ดำน้ำลงไปเพื่อสังเกตการณ์หลังพายุฝนผ่านไปแล้วบอกเล่าว่า ที่เลวร้ายกว่าเดิมก็คือ เรือคงจะคว่ำลงไปกระแทกพื้นอย่างแรง จนเสาไฟกลางเรือและเสาเครนท้ายเรือหักสะบั้น และหลังคาของหอบังคับการกระเด็นหลุดออกไป และเรือตะแคงอยู่ในสภาพที่หอบังคับการยันพื้น และจมอยู่ในทรายปนเลนที่สูงพอสมควร และยังไม่สามารถหากล้องที่ติดลงลงไปกับเรือในตำแหน่งต่างๆ 5 ตัว แต่หาพบได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น เพราะน้ำขุ่นมาก และเข้าใจว่ากล้องจะจมอยู่ใต้ดินปนทราย ในเช้าวันพรุ่งนี้ สองสายจะออกไปดำเพื่อเก็บภาพในช่วงเช้า และคงจะนำภาพและเรื่องราวมารายงานให้ทราบต่อได้ในช่วงบ่ายครับ |
>.<
เสียใจ๊ |
ทำไมล่ะ อยากเห็นเรือรบหลวงสวยๆๆ ตั้งใต้น้ำอ่ะ
|
คนเป็นร้อยๆที่ไปเฝ้ารอชมการวางเรือสัตกูด... และที่ไม่ได้ไปชม...คงต่างคิดเหมือนกับสองสาย....เศร้าและเสียดาย....:( |
นึกว่าจะไม่ซำ้รอยเรือปราบ แต่ดูท่าจะเลวร้ายยิ่งกว่า เฮ้อ
|
เสียดายจังครับ:mad:
|
1 Attachment(s)
เช้านี้ สองสายได้ลงเรือ Speedboat โต้คลื่นออกไปดำชมเรือหลวงสัตกูตกันมาเรียบร้อยแล้วครับ .... เพียง 1 ไดฟ์ก็เกินพอ สภาพน้ำตอนลงไปใต้ผิวน้ำ ยังสามารถมองเห็นตัวเรือและพื้นทรายได้ ถึงแม้จะไม่ชัดเจนนักก็ตาม แต่พอลงไปถึงตัวเรือ น้ำกลายเป็นอีกสีหนึ่ง คือ เขียวผสมน้ำตาล เลข 742 ที่หัวเรือ พอจะเก็บภาพได้ อย่างที่เห็นครับ |
1 Attachment(s)
ปืนหัวเรือ เก็บภาพรวมๆ เห็นได้เพียงเท่านี้ ไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งชุดเหมือนของเรือหลวงปราบ ส่วนปืนท้ายเรือ หาไม่พบ เข้าใจว่า น่าจะจมลงไปอยู่ใต้พื้นทรายปนเลน |
2 Attachment(s)
มาดูสภาพของหอบังคับการกันครับ .... อย่างที่บอกให้ทราบตั้งแต่เมื่อวาน คือ เรือคว่ำลงกระแทกพื้น จนเสาไฟหักและหลังคาของหอบังคับการหลุดออกไป .... แต่ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ กองอยู่กับพื้นใกล้ๆกันนั่นเอง แต่ขุ่นเสียจนเก็บภาพไม่ได้ |
1 Attachment(s)
สภาพของเรือเหมือนกับไม่ได้รับการขัดสีฉวีวรรณมาก่อน สีลอกให้เห็นเป็นแผ่นๆ ไม่นานนัก ก็คงจะเห็นสีร่อนกันทั้งลำ |
1 Attachment(s)
คุณสายชลวัดความลึกที่พื้นทรายได้ 98 ฟุต .... ที่หอบังคับการประมาณ 90 ฟุต พอจะเริ่มลอยตัวขึ้นเหนือตัวเรือ เพื่อเกาะเชือกทุ่นขึ้นสู่ผิวน้ำ มองเห็นน้ำเป็น 2 layers ได้อย่างชัดเจน .... ใกล้ตัวเรือจะเป็นสีเขียวปนน้ำตาล พ้นขึ้นมาจะเป็นสีฟ้า เท่าที่ทราบ ในวันนี้ มีการหารือกันในกลุ่มคนเกาะเต่า ผลออกมาว่า จะไม่ยอมให้เรือหลวงสัตกูตอยู่ในสภาพนี้ จะช่วยกันกู้ให้กลับขึ้นมาตั้งตรงในเร็ววันนี้ เมื่อถึงเวลานั้น สองสายจะกลับมาเยี่ยมเรือหลวงสัตกูตอีกครั้ง |
คันในหัวใจ ไงไม่รู้....
|
ให้เฮียช่วยเกาใจดีไหมจ๊ะน้องกบ...อิๆ...:p ข่าวล่าสุด...จะมีการจับเรือสัตกูตตั้งแท่นใหม่ในไม่ช้านี้ค่ะ ถ้าตั้งเมื่อไรจะกลับมาดูใหม่อีกหลายๆครั้งค่ะ... ภาพใต้น้ำที่ลงให้ชม เป็นแค่น้ำจิ้มนะคะ...มีเวลาเมื่อไร ชุดใหญ่จะตามมาค่ะ |
สภาพแย่ยิ่งกว่าเรือปราบอีกครับ
|
เสียดายจัง...นึกว่าเรือปราบจะให้บทเรียนแล้วนำไปแก้ไข...
|
เสียดายจริงๆครับ เพราะเชื่อว่าการวางเรือครั้งนี้ คงได้มีการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องแล้วจากการทำงานต่างๆในครั้งที่ผ่าน แต่ข้อมูลที่ได้ทราบ และผลที่ได้รับกลับไม่เป็นอย่างนั้น ..
คงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจอีกครั้งในการแก้ไขปัญหาแล้วนะครับ เอาใจช่วยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านครับผม .. |
ทำไม ไม่คุย หรือสรุป กันก่อนว่าจะทำอย่างไร แล้วค่อยๆลง การเลื่อนเวลา ก็ไม่ได้หมายความว่า งานจะไม่สำเร็จ ใช่ไหมค่ะ
น่าเสียดาย งบประมาณจริงๆๆ ไม่รู้ว่ามาจากไหนดอกนะคะ แต่ว่าเสียดาย.... |
งบประมาณทั้งหมดเป็นของ CSR ของ ปตท.สผ. ครับ .... คุณต้อย จาก ปตท.สผ.ผู้รับผิดชอบโตรงการก็อยู่ด้วยกัน เธอกลุ้มจนนอนไม่หลับเลยครับ คิดหาวิธีแก้ไขตลอดเวลา ซึ่งผลสรุปคือ ทาง ปตท.สผ. จะประสานกับผู้ประกอบการ และหน่วยราชการของเกาะเต่า ดำเนินการยกเรือหลวงสัตกูตให้ขึ้นมาตั้งแท่นอย่างสง่างามให้ได้ ในไม่ช้านี้ และน้องเอ้และน้องมีน จาก Digitalay แจ้งเพิ่มเติมมาว่า กล้องที่ติดตั้งไว้เพื่อเก็บภาพตอนเรือลงใต้น้ำ ได้พบและเก็บกลับมาได้หมดทุกตัวแล้ว สำหรับป้อมปืนด้านท้ายเรือนั้น ไม่ได้จมลงไปในทราย แต่เนื่องจากเป็นบริเวณที่น้ำขุ่นจัดมาก จึงทำให้พบได้ยาก ซึ่งสองสายเองก็มีเวลาดำแค่ไดฟ์เดียว และเพียง 20 นาทีเท่านั้น จึงยังคลำไปไม่ถึงครับ .... เอาไว้ตอนที่ทางเกาะเต่าจับตั้งแท่นใหม่ สองสายจะกลับมาดำใหม่ครับ |
ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
ได้โทรไปหาคุณต้อยแล้ว เพื่อให้กำลังใจ ว่าไปก็น่าเห็นใจ สผ. เพราะไม่รู้จะเชื่อใคร ก็ต้องทำตามผู้ที่เราคิดว่ารู้ดีที่สุด ซึ่งการพลาดพลั้งก็เป็นเรื่องที่พบเห็นบ่อยสำหรับการทำงานในทะเล (แต่อันนี้เรียกว่าซ้ำสอง) ก็เลยได้ทราบว่าตอนนี้กำลังประสานงานกันอยู่ว่าจะตั้งขึ้นมาให้ได้ ก็เลยฝากไปด้วยว่าอย่างนั้นก็อย่าลืมเรือปราบด้วยครับ ก้เลยต้องคุยกับหัวหน้าไก่ก่อนว่าตัวพื้นที่และทางจังหวัดชุมพรจะเอาอย่างไร |
คอยรอชมเรือหลวงสัตกูตในสภาพตั้งนะคะ.. ให้กำลังใจทุกฝ่ายเร่งหาทางออกค่ะ..
|
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะคุณทงกานต์...สงสารน้องต้อย ปตท. สผ. เหมือนกันค่ะ ที่งานที่ลงแรงทั้งกาย ใจ และทรัพย์อย่างเต็มที่ กลับออกมาไม่ดียิ่งกว่าเดิม ถ้ากู้เรือทั้งสองลำมาตั้งแท่นได้ใหม่ก็จะดีหาน้อยไม่ ได้คุยกับผู้มีประสบการณ์การกู้เรือที่เกาะเต่าแล้ว เขาบอกว่า "ของหมูๆ" ยากกว่านี้ก็เคยทำกันมาแล้ว สำหรับเรือปราบเห็นว่าถ้ายกตั้งแท่นแล้วอยู่ที่เดิม เสากระโดงจะโผล่ ซึ่งจะเป็นอันตรายกับเรือปราบเอง และเรือที่แล่นผ่านไปมา ส่วนเรือสัตกูตกู้แล้วตั้งแท่นที่เดิมได้เพราะน้ำลึกมากพอ แต่คงต้องซ่อมหลังคาสะพานเดินเรือ และเสากระโดงที่เสียหายให้ดีดังเดิมด้วย จึงต้องลงทุนมากกว่า ทราบข่าวการกู้เรือทั้งสองลำเป็นประการใด คุณทงกานต์ช่วยแจ้งให้เราทราบด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ... |
เรื่องการกู้เรือ หาก ปตทสผ เป็นนายทุนเอง ผมว่าไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ ดูแล้วน่าจะทุ่มทุนเต็มที่ ผมว่าทุกอย่างในโลกทำได้หมดแหละครับ (ยกเว้นการห้ามตาย) เสียแต่ว่าจะจ่ายเท่าไหร่และใครเป็นคนจ่ายครับ
ผมมีเรื่องรบกวนคุณสายชลสองเรื่องครับ หนึ่ง ราวอาทิตย์หน้าเห็นว่า ปตทสผจะขอเชิญเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เรื่องการกู้เรือมาคุยกัน ผมอยากเชิญคนที่คุณสายชลบอกว่าเป็นเรื่องหมูๆมาคุยด้วยครับ น่าจะได้วิธีการที่ดี ราคาถูก สอง มีนักข่าวอยากได้ภาพเรือปราบใต้น้ำ ไปเขียนข่าว ไม่ทราบว่าใครพอจะอนุเคราะห์เขาได้ไหมครับ |
เห็นด้วยค่ะคุณทงกานต์...เงินถึง...งานก็มา...(แต่ถ้าเลือกคนไม่มีฝีมือและไม่มีความรับผิดชอบมาทำงาน เจ้าของเงินทุนก็อาจจะน้ำตาเช็ดหัวเข่าได้นะคะ) ขอตอบคำถามทั้งสองข้อที่ถามมาค่ะ... 1. ผู้ที่ตอบว่าการกู้เรือเป็นเรื่องไม่ยากนั้น อยู่ที่เกาะเต่าทั้งคู่ค่ะ ท่านแรกชื่อ "นายชัช" เป็นญาติกับเจ้าของ Ban's Resort วันที่สองสายลงดำน้ำสำรวจเรือสัตกูต ท่านก็ลงดำน้ำกับเราด้วย และได้ขึ้นมาคุยกันเรื่องกู้เรือกับน้องต้อย (อัจฉรา วรธรรมพินิจ) ปตท.สผ.ที่คอยอยู่บนเรือ และเมื่อขึ้นมาบนบก นายชัชก็ขึ้นมาคุยกับครูศรันต์ ผู้ที่เขานับถือ โดยมีสายชลนั่งฟังอยู่ด้วย ซึ่งท่านก็บอกว่าจับเรือตั้งได้ไม่ยากเลย ใช้เชือกผูกแล้วดึงๆหน่อย ก็พลิกเข้าที่แล้ว อีกหนึ่งท่าน คือ "น้องฮ้อ" หรือผู้ใหญ่ฮ้อ (โกศล พงศ์ผดุงเกียรติ) เป็นเจ้าของรีสอร์ตใหญ่ "เกาะเต่ารีสอร์ท" ซึ่งสองสายสนิทสนมด้วยมาร่วมยี่สิบปี เพราะตอนไม่มีเรือ Live-aboard เราจะไปพักที่นี่เป็นประจำ ไปเกาะเต่าคราวนี้ เราเลยแวะไปเยี่ยมเยือน น้องฮ้อเล่าว่า เคยให้บริษัทแห่งหนึ่งกู้เรือของตัวเองที่จมอยู่ที่ความลึก 45 เมตร (พร้อมรถบรรทุกน้ำมันและรถกระบะ) ได้สำเร็จมาแล้ว การตั้งแท่นเรือสัตกูตนั้น จึงดูจะไม่ยากเลย ถ้าให้บริษัทนี้ทำ (ชื่อบริษัทอะไร ต้องไปถามน้องฮ้อค่ะ) เวลามีประชุมผู้ประกอบการบนเกาะเต่า น้องฮ้อจะไปร่วมประชุมอยู่ด้วย ถ้าไม่ไปเอง ก็จะส่งภรรยา (น้องกระบุง) ไปประชุมแทน น้องต้อยก็น่าจะคุ้นเคยกันดีกับทั้งคู่นะคะ 2. ถ้าภาพเรือปราบของสองสาย ที่คุณทงกานต์ได้เห็นไปแล้วนั้น พอจะให้ท่านนักข่าวท่านนำไปใช้ได้ สองสายก็ยินดีจะให้นำไปใช้ค่ะ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ ก็คงต้องไปขอจากอาจารย์ธรณ์ ซึ่งมีภาพของน้องนัท และน้องก้อง (บารมี) ที่เป็นตากล้องอาชีพค่ะ ท่านน่าจะมีภาพสวยๆกว่าของสองสายให้กับนักข่าวได้นะคะ |
มาติดตามชม และเอาใจช่วยด้วยคนนะค่ะ
|
ขอสอบถามผู้เคยดำดูเรือสัตกูด ว่าพื้นที่เรือสัตกูดอยู่ เป็นโคลน (เลน) หรือ ทรายครับ ใครพอมีภาพถ่ายบริเวณพื้นที่เรือสัตกูดอยู่บ้างครับ จะขอเป็นข้อมูลหน่อยครับ ขอบคุณครับ
|
คุณskayoon คะ ขอบคุณที่แจ้งเรื่องบริษัทที่กู้เรือผู้ใหญ่ฮ้อมาให้ทราบค่ะ... ถ้าคุณอ่านเรื่องข้างบนแล้ว จะทราบว่า เรือสัตกูตนอนตะแคงขวาอยู่บนพื้นทรายปนเลน (ดูเหมือนเลนจะมากกว่าทรายเพราะเละมาก) สำหรับภาพเรือนั้น เราจะลงให้ชมเพิ่มจากที่ลงไปแล้วในไม่ช้านี้ค่ะ หรือจะขอดูได้โดยตรงที่ผู้ใหญ่ฮ้อ ที่ได้ขอภาพเราไปแล้วค่ะ และเนื่องจาก SOS ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกู้เรือ และไม่เกี่ยวข้องกับการค้าใดๆทั้งสิ้น จึงขออภัยที่จะต้องขอลบชื่อบริษัทที่คุณให้มา แต่หากทางการต้องการชื่อของบริษัทดังกล่าว เราจะแจ้งให้ทราบเป็นการส่วนตัวค่ะ... |
เอาใจช่วยให้กู้ขึ้นมาตั้งแท่นสวยงามได้เร็ววันนะคะ
|
วันนี้ได้ทราบข่าวดีจาก น้องต้อย ปตท.สผ. ว่า ทาง ปตท.สผ.ตัดสินใจจะจับเรือสัตกูตตั้งแท่นใหม่ให้สง่างามแน่นอนแล้วค่ะ โดยมีบริษัทที่อยู่ในเกณฑ์พิจารณาให้ดำเนินการจับเรือตั้งแท่นใหม่แล้ว (ถึงขนาดรับปากว่า ถ้าทำแล้วตั้งแท่นเรือสัตกูตไม่สำเร็จ ก็จะไม่คิดเงิน อย่างนี้แล้ว ก็น่าจะลองใช้บริการดูสักหน่อยนะคะ) ส่วนเรือปราบ..ยังจะต้องศึกษาในรายละเอียดว่า สมควรจะตั้งแท่นเรือหลวงปราบหรือไม่ และในจุดไหน (ไม่น่าจะเป็นจุดเดิม เพราะตื้นเกินไป เสาวิทยุจะอยู่ใกล้ผิวน้ำมาก จนเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ และตัวเรือปราบเอง) เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จึงจะตัดสินใจต่อไปค่ะ |
จะยกเรือปราบและเรือสัตกูตตั้งแท่นดีหรือไม่...??? เรื่องนี้....ดูจะเป็นที่สนใจใคร่รู้ของผู้คนในวงการดำน้ำอยู่ไม่น้อย บ้างก็บอกว่าอยากให้ตั้ง....จะได้ดูสวย...สง่างาม... บ้างก็ว่าจะตั้งไปทำไม ไม่เห็นจำเป็น และยังสิ้นเปลืองเงินทองเปล่าๆ... ใครอยากจะพูดอะไรก็พูดกันไปเถอะค่ะ... แต่เป็นที่แน่นอนแล้วว่า...ปตท.สผ. ได้ตัดสินใจภายใต้ความเห็นชอบของเจ้าของสถานที่ คือ อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะชุมพร (เรือปราบ) และจังหวัดสุราษฎร์ฯ (เรือสัตกูต)โดยจะเป็นสปอนเซอร์จับเรือทั้งสองลำคั้งแท่นให้สวยสง่างาม โดยในวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคมนี้...เรือสัตกูต จะถูกเรือเครนของบริษัทเอกชนที่ชำนาญการด้านกู้เรือจม (ที่ไปลอยลำคอยอยู่ที่เกาะเต่ามาหลายวันแล้ว) จับยกไปตั้งในสถานที่ใหม่ ใกล้ๆกับที่ตั้งที่ได้กำหนดไว้เดิม คือใกล้ๆกับกองหินขาว ส่วน เรือปราบ...จะดำเนินการโดยอุทยานฯเอง เห็นว่าจะใช้วิธีจับตั้งด้วยทุ่นลอย (Pontoon) และจะใช้สถานที่เดิม ไม่ย้ายไปที่ไหน ส่วนที่เกรงกันว่า เสาอากาศจะโผล่แล้วจะเกิดอันตรายต่อการสัญจรทางเรือและตัวเรือเองนั้น ทางอุทยานฯ บอกว่าจะจัดกาเรื่องความปลอดภัยเองค่ะ ทราบกันอย่างนี้แล้ว....คงไม่ต้องพูดกันไปพูดกันมา ให้เสียเวลานะคะ...เพราะเขาจะจับเรือปราบและเรือสัตกูต ตั้งแท่นแน่นอนแล้ว...:p |
พรุ่งนี้คุณสายน้ำจะมาเล่าเรื่องและลงภาพเรือสัตกูตให้ชมเพิ่มเติมค่ะ... |
OK ครับ .... ไหนๆก็ใกล้ถึงวันที่ ปตท.สผ.และชาวเกาะเต่า จะดำเนินการยกเรือหลวงสัตกูดที่ถูกทิ้งให้นอนตะแคงแอ้งแม๊งอยู่ใต้ท้องทะเลมาเดือนกว่าๆ ขึ้นตั้งแท่นให้สง่างามสมกับการเป็นเรือรบหลวงเสียที ก็ได้เวลาอันเหมาะสม ที่ผมจะมาโพสต์ภาพจากการดำน้ำลงไปชมเรือหลวงสัตกูดในวันที่ 19 มิถุนายน 2554 หลังจากวันที่นำเรือลงสู่พื้นทะเลเพียง 1 วัน http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_34.jpg |
การหาประวัติของเรือรบหลวงสัตกูด กลายเป็นเรื่องที่ยากเอามากๆ หรือแทบหาไม่ได้เลย ต้องอาศัยข้อมูลจากการแถลงข่าวของ อ.ธรณ์ มาบอกเล่าต่ออีกที ว่า "เรือหลวงสัตกูดเป็นเรือยกพลขนาดเล็ก สามารถบรรจุกำลังพลรวมทั้งสิ้น 62 นาย เรือหลวงสัตกูดเป็นเรือรบระดับสามดาว เข้าปฎิบัติภารกิจสำคัญ 3 ครั้ง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้แก่ การรบหมู่เกาะปาเลา สมรภูมิเกาะอิโมจิว่า และสมรภูมิเกาะอิโกนาวา จากนั้นสหรัฐอเมริกาจึงได้ส่งมอบเรือลำนี้ให้กับประเทศไทยเมื่อปี 2490 โดยได้รับพระราชทานชื่อสัตกูด จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สังกัดอยู่ในกองทัพเรือยกพลขึ้นบก กองเรือยุทธการ เรือหลวงสัตกูดปลดระวางเมื่อปี พ.ศ. 2550 ในการกำหนดตำแหน่งวางเรือเพื่อให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและตอบสนองความต้องการชุมชนในพื้นที่ จึงได้ข้อสรุปจุดวางเรือสัตกูดที่พิกัดละติจูด 10 องศา 6 ลิปดา 18.70 ฟิลิปดาเหนือ และ ลองติจูด 99 องศา 48 ลิปดา 49.97 ฟิลิปดาตะวันออก ใกล้บริเวณไวท์ร็อค ณ บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีระยะห่างจากปะการัง 300 เมตร เพื่อรักษาระบบนิเวศและไม่ทำลายปะการัง" และข้อมูลเพิ่มเติมจาก www.payanakmodel.com : ร.ล.สัตกูด เป็นเรือลำเลียงพลขึ้นบก ชั้น L.C.I ของ ท.ร.ไทย ที่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ในปี 2490 โดยชื่อเดิมคือเรือ L.C.I 739 โดยในช่วงแรกของการประจำการนั้น ใช้ หมายเลข 2 อยู่หลายสิบปี จนในระหว่าง 2530-2540 จึงได้เปลี่ยนเป็นหมายเลข 742 และได้รับการดัดแปลงอาวุธอีกหลายครั้ง ข้อมูลจำเพาะ เรือยกพลขนาดเล็ก ระวางขับน้ำ ปกติ 173 ตัน เต็มที่ 381 ตัน ความยาวตลอดลำ 48.46 ม. ความกว้างสุด 7.08 ม. กินน้ำลึก 1.4 ม. ความเร็วสูงสุด 15.5 นอต,ความเร็วมัธยัสถ์ 12 นอต รัศมีทำการที่ 12 นอต 6,087 ไมล์ กำลังพล 62 คน อาวุธ ปืนใหญ่อัตโนมัติ 20/70 มม. 5 กระบอก http://i835.photobucket.com/albums/z...riginal_01.jpg เป็นภาพตอนที่เรือหลวงปราบและเรือหลวงสัตกูดถูกปลดประจำการแล้ว และทอดสมออยู่ที่ท่าเรือพระจุลจอมเกล้า ของกองทัพเรือ |
ภาพด้านล่างเป็นภาพของเรือหลวงปราบและเรือหลวงสัตกูด เมื่อครั้งเรือหลวงปราบยังเป็น USS LCI(L)-670 และเรือหลวงสัตกูดยังเป็น USS LCI(L)-739 ประจำการอยู่ในกองทัพเรือของประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 บางภาพจะจอดรวมอยู่กับเรือในหมู่เดียวกัน http://i835.photobucket.com/albums/z...riginal_05.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...riginal_02.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...riginal_03.jpg |
ภาพของการปฏิบัติภารกิจยกพลขึ้นบกที่หาดนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ของเรือปราบ ในสงครามโลกครั้งที่ 2 http://i835.photobucket.com/albums/z...riginal_04.jpg |
ในวันที่ 18 มิถุนายน 2554 สองสายได้ไปสังเกตการณ์อยู่บนเรือของ Ban's ร่วมกับครูศรันต์ และแขกที่มาร่วมงานอีกหลายท่าน วันนั้น คลื่นลมค่อนข้างจัด ฟ้าครึ้ม และเมื่อได้ออกเรือจากท่าเรือแม่หาด ไปยังจุดที่เรือหลวงสัตกูดลอยลำอยู่ ก็ได้พบเรือหลวงสัตกูดอยู่ในสภาพเอียงอย่างที่เห็นเสียแล้ว นอกจากนี้ ยังมีเรือใหญ่น้อยมาลอยลำ เพื่อชมพิธีกันมากมายอีกด้วย http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_01.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_02.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_03.jpg |
เหลียวหลังกลับไปมองที่ท่าเรือ พระสงฆ์และบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมในพิธี ทะยอยกันลงเรือ ต226 ของกองทัพเรือ เพื่อไปยังเรือรบลำใหญ่ที่จะใช้เป็นที่ประกอบพิธี แต่คงจะเป็นเพราะไม่ชำนาญพื้นที่ หรือบรรทุกคนมากเกินไป จึงทำให้เรือ ต226 เกยหินติดตื้น ไม่สามารถนำเรือออกมาได้ หากไม่ได้เรือคริสตัลไดฟ์ 1 ซึ่งบรรทุกนักข่าวมาช่วยลาก พิธีเปิดงานคงจะล่าช้าออกไปอีก http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_04.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_05.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_07.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_08.jpg |
มาดูที่ตัวเรือ .... เช่นเดียวกับเรือหลวงปราบ ทางกองทัพเรือมอบปืนประจำเรือมาให้สองชุด ทั้งด้านหัวและท้ายเรือ http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_09.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_11.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_12.jpg http://i835.photobucket.com/albums/z...attakut_13.jpg |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:37 |
vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger