SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   กิจกรรม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=3)
-   -   โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกไม้ชายเลน ที่ แหลมผักเบี้ย (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=416)

สายน้ำ 05-09-2009 08:04

โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกไม้ชายเลน ที่ แหลมผักเบี้ย
 
โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และปลูกไม้ชายเลน
ดำเนินงานร่วมโดย
www.saveoursea.net ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี
และ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์

ณ. แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี
วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2552




ที่มาของโครงการ

www.SaveOurSea.net (SOS) ซึ่งสมาชิกเป็นกลุ่มบุคคลซึ่งมีความรักในทะเลและมีความสนใจในการทำงานร่วมกันเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเล ได้ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์น้ำต่างๆที่มีต่อระบบนิเวศทางทะเล จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และ ป่าชายเลน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์ และ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กระบี่ ได้นำพันธุ์สัตว์น้ำหลายชนิด เช่น หอยมือเสือ ปลาการ์ตูน ปลาตะกรับ ฯลฯ ไปปล่อยลงสู่ทะเล ทั้งด้านอ่าวไทยและอันดามัน หลายครั้งด้วยกัน

ในครั้งนี้ www.SaveOurSea.net (SOS) ได้ร่วมกับ ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี และ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์ นำพันธุ์สัตว์น้ำ อันประกอบด้วย พันธุ์ปูม้า จำนวน 1 แสนตัว และพันธุ์หอยแครง จำนวน 1 ล้านตัว ไปปล่อยในทะเลปากคลองอีแอด แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี เพื่อให้สัตว์น้ำดังกล่าวได้แพร่ขยายพันธุ์ และเป็นสัตว์เศรษฐกิจของชาวแหลมผักเบี้ยต่อไป และจะร่วมกันปลูกไม้ชายเลนในพื้นที่ของศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี อีกด้วย

ทั้งนี้ ได้กำหนดการดำเนินงานไว้ในวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2552 ณ. แหลมผักเบี้ย จ.เพชรบุรี



วัตถุประสงค์

การดำเนินกิจกรรมดังกล่าวของสมาชิก SOS มีวัตถุประสงค์สำคัญดังนี้คือ

1. เพื่อให้ ปูม้า จำนวน 1 แสนตัว และพันธุ์หอยแครง จำนวน 1 ล้านตัว ได้แพร่ขยายพันธุ์ และเป็นสัตว์เศรษฐกิจของชาวแหลมผักเบี้ยต่อไป

2. การปลูกป่าชายเลน จะช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนที่มีประโยชน์เอนกอนันต์ต่อแผ่นดินให้มากขึ้น

3. การปฏิบัติงานดังกล่าวข้างต้นทั้ง จะช่วยส่งเสริมให้สมาชิกของ SOS ได้มีโอกาสบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคม และช่วยปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สัตว์น้ำและธรรมชาติทางทะเลให้เกิดแก่มวลหมู่สมาชิกของ SOS รวมทั้งเพื่อให้สมาชิก SOS ได้มีโอกาสร่วมพบปะสังสรรค์อันจะเป็นการเพิ่มพูนความรักความสามัคคีในมวลหมู่สมาชิกได้อีกทางหนึ่ง



ผู้ร่วมโครงการ

1. ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี เป็นผู้จัดพันธุ์ปูม้า จำนวน 1 แสน ตัว และ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง ประจวบคีรีขันธ์ เป็นผู้จัดพันธุ์หอยแครง จำนวน 1 ล้านตัว เพื่อนำไปปล่อย โดยจะมีนักวิชาการจากกรมประมง มาร่วมดำเนินการ และควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด

2. ชาวประมงแหลมผักเบี้ย ผู้ร่วมในโครงการพัฒนาประมงชายฝั่งพื้นบ้าน และธนาคารปู จัดหาเรือ และร่วมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ รวมทั้งคอยให้คำแนะนำ และตอบข้อซักถาม

3. สมาชิกอาสาสมัคร ของ SOS ที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 15 ท่าน (ไม่จำเป็นต้องดำน้ำเป็นมาก่อน)



แผนการดำเนินงาน

การดำเนินงานตามโครงการมีแผนการดำเนินงาน ในวันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2552 ดังนี้

อาสาสมัครออกเดินทางจากภูมิลำเนาที่อาศัย ไปพบกันที่ ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี โดยรวมกลุ่มนัดหมายตกลงเรื่องการเดินทางกันเอง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เวลาออกเดินทางจึงไม่ควรเกิน 07.00 น.)

09.00 น.... พร้อมกันที่ ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี
09.15 น......เยี่ยมชมธนาคารปู ของวิสาหกิจชุมชน แหลมผักเบี้ย
09.30 น. .....ทะยอยลงเรือที่ท่าเทียบเรือประมง คลองอีแอด
10.15 น. .....ถึงปากคลองอีแอด ดำเนินการปล่อยพันธุ์ปูม้า และหอยแครง
................... เยี่ยมชมกระชังธนาคารไข่ปูนอกทะเล และเดินบน Walkway เพื่อชมแนวป่าชายเลนปากคลอง
12.30 น. .....พักรับประทานอาหารกลางวัน
14.00 น. ....ร่วมกันปลูกไม้ชายเลนในบริเวณ ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี
16.00 น. ....แยกย้ายกันเดินทางกลับภูมิลำเนา

หมายเหตุ : รายการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยไม่จำต้องแจ้งล่วงหน้า



ประมาณการค่าใช้จ่าย

1. ผู้ร่วมโครงการจ่ายค่าเดินทางไป-กลับ เอง
2. ค่าอาหารกลางวันและน้ำดื่ม จะใช้เงินกองกลางของ SOS



สิ่งของจำเป็นที่ต้องนำติดตัวไป

1. เสื้อผ้าไว้ผลัดเปลี่ยน 1 ชุด
2. หมวก
3. ครีมกันแดด
4. ยาส่วนตัว


สายน้ำ 05-09-2009 08:13

1 Attachment(s)

การดินทางโดยรถยนต์ สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ

เส้นทางแรก

ไปตามถนนเพชรเกษม .... ผ่านตัวเมืองเพชรบุรี เข้าถนนเลี่ยงเมือง เรื่อยไปจนถึงสถานีไฟฟ้าแรงสูง (ด้านซ้าย)

เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางไป หาดเจ้าสำราญ จนสุดทางที่หาดเจ้าสำราญ แล้วเลี้ยวซ้าย ไปตามถนนอีกประมาณ 6 กม. .... ข้ามสะพานข้ามคลองอีแอด แล้วเตรียมเลี้ยวขวาเข้า ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี



สายน้ำ 05-09-2009 08:23

1 Attachment(s)

เส้นทางที่สอง เลียบทะเล

ออกจาก กทม.มาตามถนนสายธนบุรี-ปากท่อ จนเข้าเขต จ.สมุทรสงคราม

ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง จนถึงหลัก กม.ที่ 71 .... ชิดซ้าย เข้าทางแยกหน้า ปั๊มน้ำมันปตท. ขับรถเลยไปประมาณ 50 เมตร จะเห็นถนนแยกทางซ้ายมือ ที่มีป้ายบอกว่าไป ชะอำ - หาดเจ้าสำราญ - หาดปีกเตียน แล้ววิ่งไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกไปตลอดเส้นทาง อาจจะมีโค้งแยะ บางช่วงเลี้ยวไปมาบ้าง แต่ให้ยึดป้ายบอกทางไว้

ท่านจะผ่านทางแยกไปยี่สาร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระครูวชิรกิจโกศล แล้ววิ่งไปเรื่อยๆ ผ่านบางตะบูน - บ้านแหลม - บางขุนไทร - ปากทะเล - บางแก้ว - แหลมผักเบี้ย

เข้าเขตแหลมผักเบี้ยแล้ว ให้สังเกตป้ายบอกทางไป ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี ทางซ้าย ซึ่งใกล้จะถีงแล้ว ต้องคอยมองทางซ้ายให้ดี แต่ถ้าข้ามสะพานข้ามคลองอีแอดไป แปลว่าเลยแล้วครับ



สายน้ำ 05-09-2009 08:25


รายชื่ออาสาสมัคร

1. สายน้ำ...............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
2. สายชล...............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
3. Pern ...............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
4. hs4opb (ตี๋).......ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
5. Joy..................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
6. topping
7. แม่หอย ณ SOS
8. SeaMan ............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
9. zoopod.............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
10. แมลงปอ.............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
11...........
12...........
13...........
14...........
15...........


สายน้ำ 05-09-2009 08:45

2 Attachment(s)

มีภาพมาโพสต์ให้ชมเป็นน้ำจิ้มก่อนสักเล็กน้อยครับ ....

ทางเข้า ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี และบึงน้ำกร่อยอันร่มรื่นหน้าศูนย์ฯ



สายน้ำ 05-09-2009 08:47

2 Attachment(s)

ที่ตั้งของ "ธนาคารปู" ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือประมง ที่คลองอีแอด ครับ


สายน้ำ 05-09-2009 08:48

2 Attachment(s)

ผอ.ธเนศ พามาเยี่ยมชม "ธนาคารปู"


สายน้ำ 05-09-2009 08:49

1 Attachment(s)

ถังที่เห็นเรียงรายอยู่ภายในอาคารนั่นคือ ถังใส่ปูไข่ครับ


สายน้ำ 05-09-2009 08:53

1 Attachment(s)

ใช้วิธีและวัสดุง่ายๆ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านผสมคำแนะนำของ ผอ. ครับ

ถังใหญ่ เป็นถังเก็บน้ำทะเล ให้ตกตะกอน แล้วจึงนำไปถ่ายใส่ถังปูใบขาวๆอีกที

ส่วนน้ำที่เลิกใช้ก็จะปล่อยลงท่อ ที่ต่อไปลงคลองโดยตรง


สายน้ำ 05-09-2009 08:56

2 Attachment(s)

ชาวบ้านกำลังอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับ "ธนาคารปู" ด้วยความภาคภูมิใจ แต่อธิบายว่าอย่างไรบ้าง ขอไม่บอก อยากให้ไปฟังเอง

อีกรูป ... ผอ.ธเนศกำลังชวนชมแม่ปูที่อยู่ในถัง


สายน้ำ 05-09-2009 08:58

2 Attachment(s)

ถ้าสงสัยว่าในถังมีอะไรบ้าง ก็ชะโงกตามสองสายไปดูกันครับ ....


มีแม่ปูม้าอยู่ถังละ 1 ตัว พร้อมไข่ที่ลอยฟ่องเต็มถังจนทำให้น้ำขุ่น


สายน้ำ 05-09-2009 09:00

2 Attachment(s)

ผอ.ธเนศ ช้อนแม่ปูขึ้นมาให้ดู 1 ตัว ....

พลิกกลับขึ้นมาจะเห็นไข่มากมายจนล้นจับปิ้งออกมา


สายน้ำ 05-09-2009 09:04

1 Attachment(s)

ไข่สีเหลือง และสีส้ม จะเป็นไข่ที่ยังไม่พร้อมเป็นตัว ต้องเก็บไว้อีกสักระยะหนึ่ง


สายน้ำ 05-09-2009 09:08

2 Attachment(s)

จนกลายเป็นสีดำเต็มท้อง แล้วแม่ปูจะเขี่ยไข่ออกมาจากท้อง ลอยฟ่องเต็มน้ำ อย่างที่เห็นในถังขาว

เมื่อเขี่ยไข่หมดแล้ว ทรวดทรงของแม่ปูจะคืนสภาพเดิม แต่จะอวบอั๋นขึ้นมาหน่อย เพราะต้องสะสมอาหารไว้เยอะในช่วงที่ยังมีไข่ ดังนั้น ปูหลังไข่จึงจะเป็นปูที่มีเนื้อแน่นกว่าช่วงปกติ

และไข่ที่ถูกเขี่ยออกมาแล้ว ถ้าปล่อยลงทะเล จะถูกปลากินหมด จึงต้องนำไปอนุบาลให้ตัวโตขึ้นมาสักหน่อย แล้วนำไปปล่อย จึงจะมีเปอร์เซ็นต์การรอดสูงขึ้น เหมือนที่ ผอ.ธเนศ ได้เตรียมไว้ให้พวกเราไปปล่อยในวันที่ 18 นี้ครับ


สายน้ำ 05-09-2009 09:11

1 Attachment(s)

บนกระดาน จะเป็นรายชื่อชาวบ้านที่นำปูไข่มาเข้าธนาคาร


สายน้ำ 05-09-2009 09:13

1 Attachment(s)

ภาพของกระชังไข่ปู ที่อยู่ในทะเล ซึ่ง ผอ.ธเนศ จะพาเราไปชมด้วย


สายน้ำ 05-09-2009 09:15

2 Attachment(s)

พาหนะที่จะพาพวกเราออกไปปล่อยปูและหอย จะมี เรือสปีดโบ๊ต ของ อบจ.เพชรบุรี 1 ลำ และเรือจับปูของชาวบ้านอีก 1 ลำ ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ถ้ามีคนมามาก สามารถเพิ่มเรือได้อีก เพราะจอดกันอยู่แถวนั้นเอง


สายน้ำ 05-09-2009 09:17

1 Attachment(s)

คุณสายชล ผอ.ธเนศ และกรรมการวิสาหกิจชุมชนบางท่าน ถ่ายภาพร่วมกันที่ท่าเรือ


สายน้ำ 05-09-2009 09:22

1 Attachment(s)

ผอ.ธเนศ แนะนำร้านอาหารบริเวณหาดเจ้าสำราญร้านหนึ่งบอกว่า มีเมนูอร่อยอยู่ชุดหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วย ใบชะครามต้มราดกะทิ น้ำพริกกะปิ ปลาหมอเทศทอด และแกงส้มกุ้งใบชะคราม .... สองสายขอให้ 5 ดาวเลยครับ

วันที่ 18 หลังกลับเข้ามาจากทะเลแล้ว เราจะไปรับประทานอาหารกลางวันพร้อมๆกันทั้งหมดที่ร้านนี้ครับ


สายน้ำ 05-09-2009 09:26

3 Attachment(s)

ใบชะคราม เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน ถามเจ้าของร้านว่า มีตัวอย่างให้ดูหรือไม่ .... ท่านบอกไม่มีแบบสดๆ แล้วท่านก็หันไปนอกร้าน ชี้ไปบนที่ดินที่ไร้สิ่งปลูกสร้างฝั่งตรงข้าม พร้อมเดินไปเด็ดมาให้เราดู 1 กิ่ง

ผมเลยต้องข้ามฟากไปเก็บภาพมาให้รู้จักกัน แต่ปรากฎว่า ตามข้างทางที่เราเดินทางกลับนั้น มีขึ้นกันอยู่ทั่วไปหมด

ต้องลองชิมครับ ... ต้องลองชิม


สายน้ำ 05-09-2009 09:30

2 Attachment(s)

ข้างทางที่กลับออกมาจากร้านอาหาร มีเพิงหมักอะไรสีตุ่นๆออกกลิ่นตุๆเล็กน้อย

ผอ.ธเนศ บอกว่า เป็นเพิงหมักแมงกะพรุน ปกติต้องใช้เกลือหมัก คงพยายามลดต้นทุน นอกจากเกลือแล้ว ชาวบ้านก็เอาน้ำเค็มจากคลองนั่นแหล่ะครับ ลงไปแทนเกลือด้วย ... สีมันจึงตุ่นๆด้วยประการฉะนี้


สายน้ำ 05-09-2009 09:32

2 Attachment(s)

วันนั้น สองสายไม่รีบร้อน จึงแวะจอดรถกันไปตลอดทาง .... ใครชอบบรรยากาศสองข้างทางแบบเรีบยง่าย ไม่เร่งรีบ ขอแนะนำนะครับ

นาเกลือนี่ มีตลอดทาง


สายน้ำ 05-09-2009 09:34

1 Attachment(s)

แลมบอร์กินี่ เปิดประทุน แบบนี้ มีให้เห็นทุกนาเกลือเลยครับ


สายน้ำ 05-09-2009 09:40

2 Attachment(s)

หันไปอีกฝั่ง ถ่ายย้อนแสง แต่แสงกลับเริ่มหายไป มีเมฆมืดๆแบบมาคุแทน

.... สวยไปอีกแบบ


สายน้ำ 05-09-2009 09:45

2 Attachment(s)

มีโอกาสแวะเข้าไปที่จุดดูนกของบ้านปากทะเล .... ดูก็ไม่เป็น จึงไม่ค่อยเห็นนก

แต่เห็นแนวที่เค้าเคยปลูกไม้ชายเลนกัน แต่ .. แหะๆๆๆ ดูเหมือนจะตายเกือบหมด โดยเฉพาะที่เลยชายหาดออกไป เหลือแต่ไม้ปักโด่เด่


สายน้ำ 05-09-2009 09:47

1 Attachment(s)

จบการนำเสนอเอาดื้อๆ .... บรรยากาศที่เหลือ อยากให้ไปดูกันเองครับ


ตุ๊กแกผา 05-09-2009 09:57

แงๆๆๆๆๆๆๆอยากไปๆๆๆๆๆๆ....เดี๋ยวลองแลกเวรดูก่อนดีกว่าเรา

แม่หอย 05-09-2009 11:40

หนูตุ๊กแกพยายามหน่อย งานลุยๆ เลอะๆ ยังงี้ไม่มีหนูตุ๊กแกได้ไง นอกจากนั่งเรือหางยาวไปดูธนาคารปูกลางทะเลแล้ว ยังบรรยากาศทางเดินวอล์กเวย์ผ่านไปในป่าชายเลนอีก ดูนกอีก.. งานของคนรักธรรมชาติล้วนๆ .. ไปเหอะ

แม่หอยนอกจากจะชอบป่าชายเลนแล้ว ยังชอบและอยากถ่ายภาพบรรยากาศนาเกลือมาก ..
ครือว่า.. อยากถ่ายให้ออกมาสวยๆ แบบมืออาชีพ (โดยใช้กล้องมือสมัครเล่น) น่ะค่ะ
ไม่มีโอกาสสักที .. มีโอกาสผ่านไปบ่อยๆ แต่ไม่มีโอกาสถ่ายภาพให้มันสวยๆ
คราวนี้ท่านปรมาจารย์นักซื้อ..อุ๊ย.. เล่นกล้องทั้งหลายจะช่วยแนะนำมั่งได้ไหมเนี่ย

สายชล 05-09-2009 23:11



ไปร่วมทำงานกันได้ก็ไปนะจ๊ะ.....พี่น้อง....


topping 06-09-2009 00:36

โย่ว ๆ ได้เลอะกันอีกแล้วครับท่าน http://emoticon.siamha.com/onion/70bff581.gif

สายชล 06-09-2009 11:10

ของดีที่แหลมผักเบี้ย...."นกทะเล"


ลองอ่านดูนะคะ



มติชน


นกแหลมผักเบี้ย :

คอลัมน์ ประสานักดูนก โดย น.สพ.ไชยยันต์ เกษรดอกบัว

http://www.matichon.co.th/news-photo...03060952p1.jpg


"ทั่วฟ้าเมืองไทย จังหวัดเพชรบุรีมีนกในธรรมชาติมากชนิดที่สุด เรียกได้ว่าเป็นจังหวัดที่ดีที่สุดในการดูนก"

ไม่ เฉพาะจำนวนชนิดเท่านั้น ความหลากหลายของกลุ่มนกก็หาจังหวัดอื่นเทียบไม่ได้ เนื่องจากสภาพพื้นที่มีความแตกต่างอย่างมาก ตั้งแต่ทุ่งนา พื้นที่กสิกรรม ชายทะเล หาดทรายและหาดเลน ตลอดจนป่าดิบชื้นตามแนวเทือกเขาฝั่งตะวันตก นับเป็นสวรรค์ของนักดูนก

ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดส่อง อาจเริ่มศึกษานกน้ำ นกทุ่งตัวง่ายๆ ตามท้องทุ่งนาหรือพื้นที่กสิกร นกป่าหลากสี ตัวดึงดูดและตัวช่วยย้ำรอยประทับใจให้กับนักดูนก สนุกกับการส่องนกมากยิ่งขึ้น ในป่าแก่งกระจานอันเป็นผืนป่ารอยเชื่อมต่อระหว่าง "ป่าเหนือ" จากเทือกเขาหิมาลัย และ "ป่าใต้" จากคาบสมุทรมาเลเซีย

ตลอดจนนกอีก สองกลุ่มที่จัดว่า "หิน" หรือยากในการจำแนก และมักถูกละเลยจากนักดูนกจำนวนมาก กระทั่งเมื่อตะลอนดูนกทั่วไทยจำนวนมาก จนรายชื่อนกชนิดอื่นที่ไม่เคยเห็นเหลือน้อยเต็มทีนั่นแหละ ถึงจะเบือนหน้าหันกล้องมาส่องดูนกกลุ่มนี้ ได้แก่ นกชายเลนและนกล่าเหยื่อ

ซึ่ง ก็ไม่ใช่ที่อื่นใด จังหวัดเพชรบุรีอีกน่ะแหละที่ "ณ วันนี้ เป็นแหล่งดูนกนกชายเลนและนกล่าเหยื่อ โดยเฉพาะประดาขาใหญ่ เช่น นกอินทรีอพยพ ที่ดีที่สุดในเมืองไทยก็ว่าได้"

ยิ่งไปกว่านั้นจากสภาพ ภูมิประเทศของจังหวัดเพชรบุรี เฉกเช่น "ป่าแก่งกระจาน เป็นจุดเชื่อมรอยต่อระหว่างภาคเหนือ ตะวันตก อีสานและภาคกลาง กับภาคใต้ จึงเป็นทางผ่านของบรรดากองทัพนกอพยพหนีหนาวจากประเทศรัสเซียและจีน เพื่ออพยพผ่านไปยังภาคใต้ ประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย เรียกว่าตลอดปี มีนกให้ดูทุกเดือนที่เพชรบุรี"

ณ ป่าชายเลนฝั่งอ่าวไทย ตอนใน ของอำเภอบ้านแหลม เป็นที่ตั้งของ "โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราช ดำริ"

พื้นที่โครงการ ประกอบด้วยบ่อบำบัดน้ำเสีย ป่าชายเลน หาดทรายยื่นสู่ทะเลอ่าวไทย ชื่อว่า ""แหลมผักเบี้ย"" กลายเป็นแหล่งพักพิงชั่วคราวของนกอพยพนานาชนิด ที่ใช้ชายทะเลฟากนี้เป็นทางผ่านไปยังบ้านในฤดูหนาว

"แหลมผักเบี้ย กลายเป็นแหล่งดูนกคุ้นหูในวงการดูนก เนื่องจากเป็นแหล่งดูนกชั้นยอดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ" และเป็นแหล่งสำรวจนกตั้งแต่ พ.ศ.2536

โดย "ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฟิลลิป เดวิด ราวด์" นักปักษีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยมหิดล จากงานดักจับนกเพื่อติดเครื่องหมายด้วยการใส่ห่วงขาแล้วปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ กลายมาเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักดูนกและประชาชนทั่วไป ได้สัมผัสและรับประสบการณ์ตรงจากนกหลายชนิด ระดับ in-hand ได้จับตัว คลี่ปีก นับขนเป็นเส้นๆ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวโครงสร้างของนกมากขึ้น จนผลิดอกออกผลออกมาเป็นหนังสือคู่มือดูนกสำหรับแหล่งดูนก ซึ่งเป็นหนังสืออีกแนวที่ยังมีน้อยนักในวงการดูนกไทย

"นกแหลมผัก เบี้ยเป็นหนังสือคู่มือดูนกที่รวบรวมชนิดนกภายในโครงการแหลมผักเบี้ยและ พื้นที่ใกล้เคียง" พบนก 243 ชนิด ส่วนใหญ่เป็นนกชายเลน และนกน้ำ กึ่งหนึ่งเป็นนกอพยพที่เข้ามาอาศัยพื้นที่เป็นแหล่งอาศัยในฤดูหนาว หรืออพยพผ่านไปภาคใต้ เช่น นกจับแมลง หรือนกกระจิ๊ด จากความร่วมมือของนักดูนกชั้นยอดของเมืองไทย อย่างผู้ช่วยศาสตราจารย์ฟิลลิป และกองบรรณาธิการ

กอปรด้วยคุณ วิเชียร คงทอง คุณพินิจ แสงแก้ว คุณสมชาย นิ่มนวล และอาจารย์นฤชิต ดำปิน กับนักถ่ายภาพนกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย คือคุณวิชา นรังศรี และคุณสมิทธิ์ สุติบุตร์ ช่วยเพิ่มแง่มุมของความงามจากท่วงท่าและอิริยาบถของนกในธรรมชาติให้กับ หนังสือเล่มนี้ที่พิมพ์สี่สีด้วยภาพนกในธรรมชาติ และภาพนกในมือจากการใส่ห่วงขา ประกอบเนื้อหาอันแน่นและเนียนด้วยข้อมูลของนกในพื้นที่แหลมผักเบี้ยจากฝีมือ การเรียบเรียงของคณะผู้เขียน ที่รวบรวมตลอด 15 ปี อีกทั้งยังเป็นหนังสือสองภาษา มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้เลือกอ่าน

หนังสือ หนา 288 หน้า ภาพสีกว่า 500 ภาพ ด้วยราคาหน้าปก 450 บาท มีจำหน่ายแล้วที่ร้านนายอินทร์ และสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย (www.bcst.or.th)

"...........หากสงสัยใคร่รู้เรื่องราวความเป็นมาของหนังสือเล่มนี้จากวาจาของคณะผู้จัดทำ ก็พบกันได้ที่สยามพารากอน วันเสาร์ที่ 12 กันยายนนี้ จะมีการเปิดตัวหนังสืออย่างเป็นทางการ โดยมูลนิธิชัยพัฒนา"




เห็นทีจะต้องไปหาหนังสือเล่มนี้มาอ่าน....เตรียมตัวไปดูนกที่แหลมผักเบี้ยกันนะคะ....


สายชล 07-09-2009 11:32

มีเรื่องโครงกการพระราชดำริที่แหลมผักเบี้ย มาเล่าให้ฟังค่ะ

ข้อมูลที่ได้นำมาจาก http://www.chaipat.or.th/chaipat/ind...d=48&Itemid=71


แหลมผักเบี้ย


เรียบเรียงโดย ศุลีพร บุญบงการ



เป็น ที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ทฤษฎีการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นั้น เน้นความเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย และใช้ธรรมชาติบำบัด


โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในจังหวัดเพชรบุรี เป็น ตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเรียบง่าย และการใช้ธรรมชาติบำบัดอย่างเห็นได้ชัด โครงการนี้เรียกสั้นๆ ว่า โครงการแหลมผักเบี้ย ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า The Laem Phak Bia Environmental Study and Development Project ดูแลในเรื่องของการบำบัดน้ำเสีย และกำจัดขยะ โดยยึดตามพระราชกระแสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “...ให้ใช้ธรรมชาติช่วยธรรมชาติ เป็นเทคโนโลยีอย่างง่าย ใครๆ ก็สามารถทำได้ และมีวัสดุหาได้ในท้องที่...”



เทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียที่เรียบง่ายและใช้ธรรมชาตินี้ แบ่งออกเป็น 4 ระบบ

ระบบแรก คือ ระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย หรือที่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Lagoon Treatment คำว่า Lagoon แปลตรงตัวจะหมายความว่าทะเลสาบ หรือจะหมายความว่า ทะเลสาบเล็กๆ บึง บ่อน้ำ ซึ่งคำว่า lagoon ก็แปลว่าทะเสสาบขนาดเล็ก หรือบ่อน้ำได้ด้วยนั่นเอง ส่วนคำว่าบำบัดภาษาอังกฤษใช้คำว่า treatment ซึ่งคำว่า treat แปล ได้หลายความหมายแต่อีกความหมายหนึ่งก็คือ รักษา หรือบำบัดก็ได้ ระบบนี้ใช้วิธีการพึ่งพาธรรมชาติ ให้สาหร่ายสังเคราะห์แสง เพื่อเติมออกซิเจนให้จุลินทรีย์หายใจและย่อยสลายสาร อินทรีย์ (organic matter) ในน้ำเสีย ซึ่งบ่อบำบัดมีทั้งหมด 5 บ่อ ประกอบไปด้วย บ่อตกตะกอน 1 บ่อ บ่อผึ่ง 3 บ่อ และบ่อปรับสภาพ 1 บ่อ

ระบบที่สอง คือ ระบบพืชและหญ้ากรองน้ำเสีย หรือ Plant and Grass Filtration ซึ่งคำว่า plant และ grass แปลว่าพืชและหญ้า การบัดบัดน้ำเสียแบบนี้ใช้พืชและหญ้าเป็นตัวกรองน้ำเสีย คำว่า filtrate แปลว่ากรอง ดังนั้น คำว่า filtration จึง แปลว่าการกรอง ซึ่งแปลงหรือบ่อจะเก็บกักน้ำเสีย และปลูกธูปฤาษี กกกลม และหญ้าแฝกอินโดนีเซีย หรือปลูกหญ้าอาหารสัตว์ พืชเหล่านี้มีคุณสมบัติกรองและดูดซับของเสียที่อยู่ในน้ำ


สองระบบสุดท้าย เป็นระบบที่อาศัยธรรมชาติในการบำบัด หรือใช้พืชในการบำบัดทั้งสิ้น

ระบบที่สาม มีชื่อว่า ระบบพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม หรือ Constructed Wetland ระบบบำบัดแบบนี้เป็นการจำลองพื้นที่ทางธรรมชาติ จึงใช้คำว่าเทียม ซึ่งสามารถแปลได้แบบไม่ตรงความหมายนักว่า สร้างขึ้นมา คำว่า construct แปล ว่าสร้าง ดังนั้นสิ่งที่สร้างขึ้นมาจึงเป็นสิ่งที่ทำจำลองขึ้น ไม่ใช่ของจริง หรือเป็นของเทียมนั่นเอง ส่วนคำว่า พื้นที่ชุ่มน้ำ นั้น ใช้คำว่า wetland คำว่า wet แปลว่าเปียก หรือชุ่ม ส่วนคำว่า land นั้นแปลได้หลายความหมาย ไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์ อาณาจักร หรือพื้นดิน แต่ในที่นี้แปลว่าพื้นที่ ดังนั้น คำว่า wetland จึง เป็นว่าพื้นที่ที่เปียกชุ่ม หรือพื้นที่ที่มีน้ำขัง การบำบัดน้ำเสียแบบนี้ใช้วิธีการปล่อยน้ำเสียผ่านบ่อดินตื้นๆ ที่ภายในปลูกพืชประเภทกก รากของพืชเหล่านี้จะช่วยดูดซับสารพิษ (toxin) และอินทรีย์สารให้ลดน้อยลง และย่อยสลายให้หมดไปในที่สุด


ระบบสุดท้าย คือ ระบบแปลงพืชป่าชายเลน หรือ Mangrove Forest Filtration คำว่า mangrove แปลว่า ต้นไม้จำพวกโกงกาง แต่เมื่อเติมคำว่า forest แปล ว่าป่าชายเลน แต่หลายคนเรียกป่าชายเลนว่าป่าโกงกางด้วยเช่นกัน ระบบนี้ใช้หลักการบำบัดจากการเจือจางระหว่างน้ำทะเลกับน้ำเสีย สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับชุมชนหรือกิจการเพาะเลี้ยงกุ้งที่มีพื้นที่ติด กับป่าชายเลนได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีการสร้างแปลงพืชป่าชายเลน


โครงการ แหลมผักเบี้ยนี้นับว่าเป็นแบบอย่างแก่ชุมชนทั่วประเทศในการแก้ไขปัญหาน้ำ เสียได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะเป็นแบบที่เรียบง่าย แล้วยังเข้าใจง่าย จึงสามารถนำไปใช้ปฏิบัติตามได้ง่าย มีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง และใช้เทคโนโลยีที่ไม่สูงนัก ซึ่งความเรียบง่ายนี้เองที่จะนำชุมชนไปสู่ความยั่งยืนได้ในที่สุด


สายชล 08-09-2009 15:58



Update จากข้อมูลที่ห้องนั่งเล่นค่ะ

1. สายน้ำ...............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
2. สายชล...............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
3. Pern ..............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
4. hs4opb (ตี๋)......ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
5. Joy................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
6. topping
7. แม่หอย ณ SOS
8. SeaMan .........ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
9. zoopod..........ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
10. แมลง.............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
11.แบงค์..............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
12. นุ๊ก...............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
13. เพื่อนนุ๊ก.........ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
14.
15.

-Oo- 08-09-2009 16:37

Updateต่อ จากข้อมูลที่ห้องนั่งเล่นค่ะ

1. สายน้ำ......................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
2. สายชล.....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
3. Pern .....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
4. hs4opb (ตี๋).............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
5. Joy........................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
6. topping
7. แม่หอย ณ SOS
8. SeaMan ................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
9. zoopod..................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
10. แมลงปอ.................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
11.Poseidon..............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
12. Nuk....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
13. เพื่อน Nuk..............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
14. เบย์ .....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
15.


Nuk 08-09-2009 17:56

ขอลงชื่อไป 3 คนค่ะ Nuk+เพื่อน+Posedon ไปเช้ากลับเย็นค่ะ ไม่แน่ใจว่าลงชื่อเข้าร่วมถูกหรือเปล่านะคะ เพิ่งใช้ครั้งแรกค่ะ

สายชล 08-09-2009 21:08



ลงชื่อให้น้องนุ้กและเพื่อนแล้วเรียบร้อย....ส่วนน้องแบงค์ก็ลงชื่อเองแล้วเช่นกันค่ะ....:)


เด็กน้อย 09-09-2009 09:37

มาขอไปด้วยครับ นับต่อเลยนะครับ
1. สายน้ำ......................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
2. สายชล.....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
3. Pern .....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
4. hs4opb (ตี๋).............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
5. Joy........................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
6. topping
7. แม่หอย ณ SOS
8. SeaMan ................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
9. zoopod..................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
10. แมลงปอ.................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
11.Poseidon..............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
12. Nuk....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
13. เพื่อน Nuk..............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
14. เบย์ .....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
15. เด็กน้อย ................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.

สายชล 09-09-2009 10:36


ดีใจจริงๆ....ครบ 15 คนตามเป้าหมายแล้วค่ะ

แต่เนื่องจากเราจะมีเรือมาเพิ่มอีก (เห็นบอกว่ามีเรือประมงในชุมชน 30 ลำ คอยรับเราอยู่) จึงขอเปิดสมัครรับสมาชิกไปทำงานเพิ่มอีกนะคะ เรียกว่างานนี้มาเท่าไรรับไม่อั้นค่ะ


ว่าแล้วก็มีเพื่อนน้องจอยที่เคยไปทำงานปล่อยปลา ทัศนศึกษาที่กระบี่กับเรา ขอไปร่วมงานอีกครบทีมค่ะ


Update ค่ะ

1. สายน้ำ......................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
2. สายชล......................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
3. Pern ......................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
4. hs4opb (ตี๋)..............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
5. Joy.........................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
6. topping
7. แม่หอย ณ SOS
8. SeaMan .................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
9. zoopod...................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
10. แมลงปอ..................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
11.Poseidon...............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
12. Nuk.....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
13. เพื่อน Nuk...............ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
14. เบย์ ......................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
15. เด็กน้อย ..................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
16. David...................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
17. Nuch....................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.
18. Ti........................ไปเช้า-กลับเย็น 18 กย.


แม่หอย 09-09-2009 16:31

ดีใจที่ซู้ดดดด.. ที่จะได้เจอน้องเต้ของป้า
และน้องๆ หลานๆ น่ารักๆ อีกจำนวนมาก

ปล. น้องเด็กน้อยถ้าขืนทำตัวห่างหายไม่ได้เจอกันนานกว่านี้ ป้าจะเปลี่ยนใจไปทุ่มเทให้น้องดอกปีบ(ที่ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนเป็นฝาแผดน้องเด็กน้อย)นะ ฮึ..
น้องวาฬเผือกไม่ต้องมาทำตาเขียวน่า .. ขอยืมอ้างอิงหน่อย อิอิ..

-Oo- 09-09-2009 18:16

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ แม่หอย (โพส 6622)
ปล. น้องเด็กน้อยถ้าขืนทำตัวห่างหายไม่ได้เจอกันนานกว่านี้ ป้าจะเปลี่ยนใจไปทุ่มเทให้น้องดอกปีบ(ที่ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนเป็นฝาแผดน้องเด็กน้อย)นะ ฮึ..

แม่หอย ไม่สนใจ อวบๆ แบบ Poseidon - น้องแบงค์ ของนุก บ้างเหรอคะ อิอิ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:21

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger