SaveOurSea.NET

SaveOurSea.NET (http://www.saveoursea.net/forums/index.php)
-   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม (http://www.saveoursea.net/forums/forumdisplay.php?f=13)
-   -   สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน 2565 (http://www.saveoursea.net/forums/showthread.php?t=5966)

สายน้ำ 30-06-2022 02:44

สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน 2565
 
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อนึ่ง พายุดีเปรสชันที่ปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2?3 ก.ค. 65


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 30 มิ.ย. ? 2 ก.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ในช่วงวันที่ 3 ? 5 ก.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2 ? 3 ก.ค. 65 โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ส่วนในช่วงวันที่ 30 มิ.ย. ? 5 ก.ค. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย โดยเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 3 ? 5 ก.ค. 65



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน ? 2 กรกฎาคม 2565)" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2565

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (30 มิ.ย. 65) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 15.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 2?3 ก.ค. 65 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 มิ.ย. ? 2 ก.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่อาจเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้


วันที่ 30 มิถุนายน 2565


ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ และน่าน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต


วันที่ 1 กรกฎาคม 2565

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลกและเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี

ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่


วันที่ 2 กรกฎาคม 2565

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล


ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่


ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง




https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds


https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

สายน้ำ 30-06-2022 03:10

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


หายนะโลกร้อน! เพนกวินสีน้ำเงิน ตายเกลื่อนชายหาดนิวซีแลนด์

https://hosting.photobucket.com/imag...720&fit=bounds

พบซากเพนกวินสีน้ำเงิน หรือเพนกวินโคโรรา ( Korora) เกลื่อนชายหาดเกาะเหนือนิวซีแลนด์ราวๆ 500 ตัว ในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา และมากกว่าครึ่งหนึ่งถูกพบในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญในนิวซีแลนด์ ยืนยันถึงสาเหตุการตายว่าเป็นผลจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป จนทำให้หาแหล่งอาหารยาก

เพนกวินสีน้ำเงินตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นสายพันธุ์นกเพนกวินที่เล็กที่สุดในโลก กำลังเกิดดังกล่าวบ่อยขึ้นท่ามกลางรูปแบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป พวกมันเป็นนกที่บินไม่ได้ มีถิ่นกำเนิดในนิวซีแลนด์และเป็นนกเพนกวินสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดในโลก

ปกติภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดของพวกมันคือสุนัข สัตว์กินเนื้อ และยานพาหนะบนท้องถนน ซึ่งทราบกันดีอยู่แล้วว่าจะโจมตีนกขณะที่พวกมันขึ้นฝั่งระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน พวกมันเดินเตาะแตะจากทะเลได้ไกลถึง 1.5 กิโลเมตร เพื่อสร้างรัง

แกรม เทย์เลอร์ ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของกรมอนุรักษ์นิวซีแลนด์ กล่าวว่า ซากนกหลายร้อยตัวถูกพบในภาคเหนือของนิวซีแลนด์ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ถึงแม้ว่าจำนวนที่แน่นอนจะระบุได้ยากและตามรายงานยังคงพบอยู่อย่างต่อเนื่อง

"แทบไม่มีร่องรอยการถูกโจมตีเลย เมื่อทำการพิสูจน์ซาก ทดสอบโรคและสารพิษทางชีวภาพ แต่ดูเหมือนว่านกเหล่านี้กำลังอดตายจากความอดหยากอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น"

"นกทุกตัวมีน้ำหนักลดลงร่วมครึ่งหนึ่งของน้ำหนักปกติ พวกมันไม่มีไขมันเลย และเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อของพวกมันก็สูญเสีย"

"ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่นกทะเลจะเสียชีวิตเป็นจำนวนมากเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่การเสียชีวิตจำนวนมากในหมู่นกเพนกวินสีน้ำเงินตัวเล็ก ๆ ซึ่งเคยเกิดขึ้นประมาณหนึ่งครั้งต่อทศวรรษ บัดนี้ได้เกิดขึ้นถึงสามครั้งในรอบหกปี" เทย์เลอร์กล่าว

ถือว่านกเพนกวินสีน้ำเงิน "ตกอยู่ในภาวะเสี่ยง" คาดว่าจะมีการเสียชีวิตในฤดูร้อนนี้เนื่องจากลานีญา ซึ่งเป็นรูปแบบภูมิอากาศที่ส่งผลต่อสภาพอากาศทั่วโลก และมักเกิดขึ้นทุกๆ สามถึงห้าปี

นักพยากรณ์จาก National Oceanic and Atmospheric Administration บอกว่างานที่กำลังดำเนินอยู่จะดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปี ลานีญาทำให้เป็นฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวติดต่อกันเป็นครั้งที่สามซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก

เมื่อลา นีญา ผสมผสานกับคลื่นความร้อนจากทะเล มันสร้าง "คลื่นความร้อนเป็นสองเท่า" สำหรับเพนกวิน ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น จะทำให้พวกมันหาปลาตัวเล็กๆ ที่พวกมันกินได้ยากขึ้น

เทย์เลอร์ กล่าวว่า ปลาอาจเคลื่อนตัวไปทางใต้หรือลงสู่แหล่งน้ำที่เย็นกว่าใต้แนวดำน้ำของนกเพนกวิน "สภาวะโลกร้อน อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น เป็นภัยคุกคามต่อเพนกวินสีน้ำเงิน พวกมันจะต้องดำน้ำหาอาหารลึกกว่าปกติ และอาจจะลึกเกินกว่าที่เพนกวินจะดำลงไปได้"


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9650000062008



เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:07

vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger