ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
ส่งทีมแพทย์เฉพาะกิจดูแลช่วยเหลือ นทท.หมู่เกาะสุรินทร์-หมู่เกาะสิมิลัน

16 ธ.ค.63 พลเอกวิทวัส รชตะนันท์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานปล่อยทีมชุดเฉพาะกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข ออกจากท่าเรือฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เพื่อออกปฏิบัติการดูแลและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่หมู่เกาะสิมิลัน และหมู่เกาะสุรินทร์ โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พลเรือตรีสมพงษ์ นาคทอง ผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 นายนเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา ส่วนราชการ บุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ตลอดจนภาคเอกชนร่วมให้การต้อนรับ พร้อมกับเยี่ยมชมระบบเวชศาสตร์ใต้น้ำ (Hyperbaric Chamber) โรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา กล่าวว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา ได้กำหนดแผนปฏิบัติการสาธารณสุขทางทะเล ภายใต้วิสัยทัศน์ "การสาธารณสุขทางทะเลประเทศไทยมาตรฐาน สากล ดูแลคุ้มครองสุขภาพประชาชนในพื้นที่ทางทะเลอย่างมีคุณภาพ หนุนเสริมขีดความสามารถของประเทศ สร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ" โดยเน้นบูรณาการเครือข่ายเพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชนนักท่องเที่ยวในภาวะวิกฤติฉุกเฉินด้านการสาธารณสุขทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี 4 กิจกรรมหลัก คือ ระบบชายหาดปลอดภัย (Safety Beach) ระบบการเดินทางในทะเลที่ปลอดภัย (Safety Trip) ระบบรับแจ้งเหตุและสั่งการทางทะเล และการจัดตั้งหน่วยบริการทางการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลและเกาะต่างๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญโดยทีมแพทย์และพยาบาล เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยความร่วมมือระหว่างฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน และเอกชนผู้ประกอบการท่าเรือนำเที่ยว
สำหรับการจัดทีมแพทย์และพยาบาลเพื่อปฏิบัติการเฉพาะกิจ ที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวบนพื้นที่เกาะในครั้งนี้ แต่ละทีมจะประกอบด้วยแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลต่างๆในจังหวัดไม่เกิน 4 คน ประจำการบนเกาะประมาณ 4 วัน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนต่อเนื่องไปจนถึงช่วงระยะเวลาโลซีซั่นทางทะเล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนที่อาศัยบนเกาะ ผู้ปฏิบัติงานบนพื้นที่เกาะ ประชาชนที่ประกอบอาชีพในทะเล รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
https://www.naewna.com/likesara/538947
*********************************************************************************************************************************************************
อุตุฯโลกชี้ 'ก๊าซเรือนกระจก' พุ่งสูงต่อเนื่อง แม้ล็อกดาวน์โควิด-19

16 ธันวาคม 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงาน องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) แถลงว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2019 และเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ แม้อุตสาหกรรมจะชะลอตัวเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
องค์การฯ ระบุว่าระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นทุบสถิติใหม่ที่ 410.5 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) ในปี 2019 เพิ่มขึ้นจาก 407.9 ส่วนต่อล้านส่วนในปี 2018 และ 400.1 ส่วนต่อล้านส่วนในปี 2015 โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2020
"การประมาณการเบื้องต้นชี้ว่าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อปีของปี 2020 อยู่ที่ระหว่างร้อยละ 4.2-7.5? องค์การฯ กล่าว ?ตามมาตรฐานสากลแล้ว การลดการปล่อยก๊าซในระดับนี้จะไม่ช่วยให้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศลดลงแต่อย่างใด"
"การลดลงของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกี่ยวข้องกับมาตรการล็อกดาวน์เป็นเพียงจุดเปลี่ยนเล็กๆ ในกราฟระยะยาวเท่านั้น เราต้องการกราฟที่ชี้ว่าปริมาณก๊าซลดลงอย่างต่อเนื่อง" เพตเตรี ทาลัส เลขาธิการองค์การฯ เน้นย้ำ
"การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทว่ามันช่วยให้เรามีโอกาสดำเนินงานด้านสภาพอากาศที่ยั่งยืนและยิ่งใหญ่มากขึ้น เพื่อที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ผ่านการเปลี่ยนแปลงระบบอุตสาหกรรม พลังงาน และการขนส่งโดยสมบูรณ์"
https://www.naewna.com/inter/538903
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|