ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-06-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


พบซากเรืออายุหลายร้อยปี นอกชายฝั่งสิงคโปร์



สิงคโปร์เป็นประเทศที่เป็นเกาะ มีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของเส้นทางเดินเรือทั่วโลก โดยเชื่อมต่อมหาสมุทรอินเดียและทะเลจีนใต้มาช้านาน ล่าสุด ได้มีการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการค้าในอดีตของภูมิภาคนี้ เมื่อคณะกรรมการ มรดกแห่งชาติสิงคโปร์และสถาบันเอเชียอาคเนย์ศึกษา ยูซุฟ อิสฮัค เผยว่าค้นพบซากเรืออายุกว่า 200 ปีลำที่ 2 นอกพื้นที่เปดรา บรังกา ซึ่งเป็นภูเขาหินตั้งอยู่ทางตะวันออกของสิงคโปร์

ก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ.2558 มีการขุดค้นใต้ท้องทะเลและได้พบซากเรือลำแรก เนื่องจากนักดำน้ำบังเอิญไปเจอแผ่นเซรามิก จนกระทั่งต่อมาก็ได้ค้นพบซากเรือลำที่ 2 คาดว่าจะเป็นเรือชาห์ มันชาห์ (Shah Munchah) ซึ่งเป็นเรือสินค้าที่ต่อขึ้นในอินเดียและอับปางลงในปี พ.ศ.2339 ขณะแล่นจากจีนไปยังอินเดีย ของที่กู้คืนจากซากเรือลำที่ 2 มีตั้งแต่เครื่องเซรามิกของจีน ไปจนถึงวัตถุทำจากแก้วและหินโมรา รวมถึงสมอ และปืนใหญ่ที่มักถูกติดตั้งบนเรือเดินสมุทรที่ใช้โดยบริษัทอินเดียตะวันออก ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าขนาดใหญ่ของจักรวรรดิอังกฤษที่ขยายออกไปในเอเชียช่วงศตวรรษที่ 18 และ 19

มีการตั้งข้อสังเกตว่าวัตถุบางชิ้นที่จมอยู่กับเรือ ดูคล้ายกับสิ่งประดิษฐ์ที่พบในการขุดค้นทางโบราณคดีบนบก นั่นแสดงให้เห็นว่าสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการค้าก่อนการมาถึงของยุคอาณานิคมอังกฤษ อย่างไรก็ตาม การสำรวจและการกู้คืนสิ่งประดิษฐ์จากซากเรือทั้ง 2 ลำดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้.




https://www.thairath.co.th/news/foreign/2122860


*********************************************************************************************************************************************************


หุ่นยนต์ขนาดแบคทีเรีย ใช้กำจัดไมโครพลาสติก



พลาสติกชิ้นเล็กจิ๋วนั้นแทรกตัวอยู่ทุกหนทุกแห่ง ตั้งแต่สภาพแวดล้อมในเมืองไปจนถึงถิ่นห่างไกลมลพิษ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายร้อยปีกว่าพลาสติกจะย่อยสลายได้อย่างสมบูรณ์ จริงอยู่ที่สารประกอบที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาซึ่งถูกกระตุ้นโดยแสงแดดสามารถเร่งกระบวนการได้ แต่การทำให้สารประกอบเหล่านี้ทำปฏิกิริยากับไมโครพลาสติกที่มีขนาดไม่ถึง 5 มิลลิเมตรนั้นทำได้ยาก

ล่าสุด มีรายงานใน ACS Applied Materials & Interfaces เผยว่า มีกลุ่มวิจัยได้พัฒนาไมโครโรบอทแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่สามารถว่ายน้ำและยึดติดกับพลาสติกจากนั้นก็ทำลายพลาสติกเหล่านั้นได้ ในรายงานระบุว่าในการเปลี่ยนวัสดุตัวเร่งปฏิกิริยาให้เป็น ?ไมโครโรบอท? ที่ขับเคลื่อนด้วยแสง พวกเขาได้สร้างอนุภาครูปดาวของสารประกอบอนินทรีย์ที่เรียกว่าบิสมัทวานาเดต (Bismuth vanadate-BiVO4) แล้วเคลือบโครงสร้างที่มีความกว้าง 4-8 ไมโครเมตรอย่างสม่ำเสมอด้วยเหล็กออกไซด์ ไมโครโรบอทนี้จะว่ายไปตามช่องว่างท่ามกลางความยุ่งเหยิงของไมโครพลาสติก เพื่อจัดการกับชิ้นส่วนไมโครพลาสติกตลอดความยาวของพวกมัน

นักวิจัยพบว่าภายใต้แสงที่มองเห็นได้ ไมโครโรบอทจะมุ่งไปที่พลาสติกทั่วไป 4 ประเภท ทีมได้ฉายแสงไปยังชิ้นส่วนพลาสติก 4 ประเภทที่เคลือบด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาไมโครโรบอทซึ่งอยู่ในสารละลายไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เจือจางเป็นเวลา 7 วัน ทีมสังเกตพบว่าพลาสติกสูญเสียน้ำหนักไป 3% และพื้นผิวเปลี่ยนจากเรียบเป็นหลุม ทั้งยังพบโมเลกุลจิ๋วและส่วนประกอบของพลาสติกในสารละลายที่เหลือ ชี้ให้เห็นว่าตัวเร่งปฏิกิริยาไมโครโรบอทที่ขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ ปูทางไปสู่ระบบที่สามารถดักจับและย่อยสลายไมโครพลาสติกในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก.




https://www.thairath.co.th/news/foreign/2122861

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม