ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 14-07-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


ยังวิกฤต "จับปลาเด็กในทะเลไทย" โมเดิร์นเทรด-ขายออนไลน์ตัวเร่งยุคโควิด ................. โดย จรัสรวี ไชยธรรม

สถานการณ์จับปลาเด็กในทะเลไทยยังวิกฤตต่อเนื่อง เผย "โมเดิร์นเทรด ขายออนไลน์" ตัวเร่งสำคัญกลางโควิด ตามด้วยปัจจัย ?ประมงพาณิชย์? เสนอ 4 ทางออก ท่ามกลาง "ความไร้หวัง" จากกลไกรัฐที่นิ่งเฉยมา 7 ปีแล้วในเรื่องนี้


(ภาพ : Greenpeace)


โมเดิร์นเทรด ขายออนไลน์ เร่งความต้องการซื้อ

วิโชคศักดิ์ นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การจับปลาวัยอ่อนในทะเลไทยล่าสุดว่ายังคงอยู่ในสภาวะวิกฤตต่อเนื่อง และน่าเป็นห่วงมาก

"ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆเรื่องการบริหารจัดการสัตว์น้ำวัยอ่อนประเทศไทย สถานการณ์ประมงในประเทศไทย ที่กระทบอย่างมากคือเรื่องการประมงดึงเอาสัตว์น้ำวัยอ่อนมาใช้ตั้งแต่การประมงถึงผู้บริโภค และพบว่าตลาดโมเดอร์นเทรด Modern Trade เป็นตัวกลางสำคัญรับซื้อสัตว์น้ำวัยอ่อนถึงมือผู้บริโภค เรื่องนี้กำลังเป็นสัญญาณอันตราย"

วิโชคศักดิ์ กล่าวในการเสวนาออนไลน์หัวข้อ "ปัญหาปลาเด็ก เรื่องไม่เล็กของทะเลไทย" ซึ่งจัดโดยสำนักข่าว WorkPoint TODAY วานนี้ 12 ก.ค. 64 เวลา 15.00 น.

"ผลการสำรวจตลาดขายสัตว์น้ำไม่โตเต็มวัย "ร้านโมเดิร์นเทรด" เป็นอันดับสูงสุดถึง 68% อันดับถัดมา ร้านค้าในตลาดของฝาก 60% และอันดับสุดท้าย ร้านค้าในตลาดสด 53%

เราสำรวจทั้งหมด 389 ห้าง และร้าน ใน 15 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี เชียงใหม่ นครราชสีมา ชลบุรี ระยอง นครศรีธรรมราช สงขลา ตราด เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี กระบี่ ชุมพร สมุทรสาคร และ สมุทรสงคราม โดยจ.ชลบุรี ขึ้นเป็นอับดับ 1 คือ 79% อันดับถัดมา จ.นครราชสีมา 78 % และ จ.กรุงเทพมหานคร 75 %

ประเทศไทยที่เราจับกลุ่มปลากระตักได้มากที่สุด คือปริมาณ 1,400,000 ตัน ต่อปี หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ รองลงมา ปลาหมึก 80,000 ตัน พวกปลา 1 หมื่นตัน หรือเรียกว่าการทำประมงแบบ ฟิชชิ่งดาวน์ฟู้ดเว็บ Fishing Down Food Webs ปลากระตักเป็นห่วงโซ่อาหารเกือบที่จะเล็กที่สุดของระบบนิเวศเมื่อคนจับมากินเอง

ผลกระทบที่เกิดปลาหมึกกินลูกตัวเอง หมึกแทนจะมีปลากระตักอยู่ท้อง มีลูกของอินทรีย์ เกิดภาวะแบบนี้กระพริบแดงอย่างรุนแรง เกิดภาวะช็อค ตัวปลาอื่นก็เริ่มลดน้อยถอยลง ปลาทูแทบจะหายไปจากไทยเลย เกิดภาวะแบบนี้ คนแรกที่ได้รับผลกระทบคือกลุ่มที่จับปลา จับได้น้อยลงกลุ่มประมงพื้นบ้าน

กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจทั้งหมด อย่างเช่นปลาทู นับเป็นตัวอ่อน หนึ่งพันตัวจะได้ 1 กิโล แต่ถ้าเรารออีก 6 เดือน หนึ่งพันตัวก็โตเต็มวัยประมาณ ราคาก็จะมีการเปลี่ยนพลิกทางตลาด เราศูนย์เสียมูลค่ามูลเศรษฐกิจเป็นร้อยเท่า ถ้าปล่อยปลากระตักปเขาเติบโต ก็จะมีประโยชน์และส่งผลกับราคาตลาดระยะยาว..

ภาวะที่เกิดขึ้น ฟิชชิ่งดาวน์ฟู้ดเว็บ Fishing Down Food Webs จะเกิดภาวะวิกฤตเลยการประมงไทย
ถ้าเราจัดการเรื่องนี้ไม่ได้มันอาจจะเกิดภาวะวิกฤตรุนแรงครั้งใหม่ของวงการประมงไทย คนไทยจะกินปลาที่แพงมากขึ้น" วิโชคศักดิ์ กล่าว โดยอ้างอิงถึงรายงานผลการวิจัย "การศึกษารูปแบบการจัดจำหน่ายสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่โตไม่ได้ขนาดในประเทศไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน" ของสมาคมฯ ที่ได้จัดทำขึ้นเมื่อกลางปี 2563 ที่ผ่านมา พร้อมข้อมูลอัพเดตจากการทำงานของสมาคมล่าสุด

สืบเนื่องมาจาก เมื่อโดย วิโชคศักดิ์ พบว่าตลอดการแก้ไขปัญหาจากเหตุการณ์ปี 58 สหภาพยุโรป EU ให้ใบเหลือง ประมงทะเลไทยประเทศที่ทำการประมงผิดกฎหมาย ไร้การควบคุม (IUU Fishing) ไทยมีความพยายามแก้ไขปัญหาโดยการออกกฎหมายใหม่ และส่งเสริมการทำประมงอย่างยั่งยืน


(ภาพ : สมาคมรักษ์ทะเลไทย)


เครื่องมือ ประมงพาณิชย์ อีกตัวเร่งวิกฤต

จิรศักดิ์ มีฤทธิ์ ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อธิบาย การประมงพื้นบ้าน ประมงไทยมีตั้งแต่ จับควบคู่อนุรักษ์ฟื้นฟู อีกส่วนจับตั้งแต่ ทำประมงคิดว่าเครื่องมือตัวเองไม่ได้ทำผิดกฎหมายทำลายสัตว์น้ำ ประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์แตกต่างกันที่ ขนาดปริมาณ ประมงพื้นบ้านออกวันละครั้ง

"เห็นได้ชัดว่าการปริมาณการจับประมงพื้นบ้านที่มีแค่ 5เครื่องมือ แต่เราเลือกจับสัตว์ที่โตเต็มวัย ดูได้จากเครื่องมือที่ตาอวนขนาดเครื่องมือ 2.5 เซ็นติเมตรขึ้นไป จนถึง 4-7 นิ้ว..

แต่ประมงพาณิชย์ใช้เครื่องมือ 2.7 เซ็นติเมตร วิธีการทำประมงต่างกัน ใช้อวนล้อม ปลาทุกชนิดจะอยู่ในอวนล้อมแล้วทุกตักขึ้นเรือ เอาน้ำแข็งลวกเลย แล้วไปคัดแยกที่ฝั่ง ถ้าเป็นอวนลาก เลือกในเรือ ก็จะเห็นปริมาณชัดเจนว่าใครทำร้ายมากกว่ากัน

ถ้าเป็นปลากระตักจะเอาขึ้นมาทั้งปลาทู ทั้งอวน เอามาทำเป็นปลาแห้ง แล้วค่อยเลือก ขณะที่ปลาทูส่วนหนึ่งไปแปรรูปเป็นปลาแห้ง ปลาทูมันเขาจะเปลี่ยนชื่อทันทีจากลูกปลาทู กลายเป็นปลาทูมัน เพื่อที่จะเอามาขายตามท้องตลาด ส่วนอวนลาก ถูกแปรรูปไปเป็นปลาเป็ด ปลาไก เอาไปหมักเป็นน้ำปลา ซึ่งเราเห็นตอนขึ้นมาซึ่งก็รู้สึกเสียดาย ผู้บริโภคแยกไม่ออก ปลาเหล่านี้เป็นปลาเด็กไม่โตเต็มวัย" จิรศักดิ์ กล่าว


4 ข้อเสนอปลดล็อค

ในเวทีฯ ได้มีการนำเสนอทางออก 4 ข้อ คือ การรณรงค์สาธารณะ การแจ้งแหล่งที่มา-Seafood Guide การบังคับใช้กฏหมายประมงมาตรา 57 และ ความร่วมมือ ?ประมง-ผู้บริโภค-ธุรกิจ-รัฐ? จากวิทยากรทั้งสี่

ธารา บัวคำศรี ผู้อำนวยการองค์กร Greenpeace พูดถึงข้อเสนอกับภาวะวิกฤตเปิดพื้นที่สาธารณะเพื่อสื่อสารเรื่องภาวะวิกฤตประมงทะเลไทยพร้อมทั้งทำกิจกรรมแคมเปญรณรงค์ที่เชื่อมโยงกับประมงค์พื้นบ้าน ให้ผู้บริโภคร่วมกันตระหนักและงดบริโภคสัตว์ทะเลวัยอ่อน

"การเปิดเวทีให้คนเข้ามามีส่วนร่วมเยอะโดยเฉพาะผู้บริโภค คนกิน เรียกว่ามีส่วนสำคัญที่จะกำหนดชะตากรรมของทะเลไทย แล้วก็กิน เอามาจากผู้ผลิต ชาวประมง เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานที่มีความซับซ้อน พูดถึงคนที่เข้ามาขับเคลื่อนให้ทะลไทยมีความยั่งยืน

จำเป็นต้องมีแคมเปญ ที่ดึงดูดใจทำอย่างไรให้ผู้บริโภคที่อยู่ในเมือง เข้ามาไปโมเดิร์นเทรดมองว่าอาหารหรือปลาแปรรูปสัตว์น้ำต่างๆ พลังของผู้บริโภคในเมืองมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งทำให้ทะเลไทยจะไปทางไหน ทำแคมเปญหวือหวาเร้าใจเพื่อคนนับแสนมาเพื่อกดดัน รัฐบาล คนที่เป็นคนออกมาขายในโฒเดิร์นเทรดได้ตระหนักถึงเรื่องนี้มีกฎกติการ่วมกันว่าเราจะทำอย่างไรเรื่องนี้ ทะเลอุดมสมบูรณ์ มันจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเวทีอย่างนี้" ธารากล่าว

ดวงใจ พวงแก้ว Producer Outreach Manager ? SE Asia องค์กร ASC เปิดเผยถึงวิธีการแก้ไขปัญหากรณีต่างประเทศ ลดผลกระทบที่เกิดโดยการใช้ การควบคุมแหล่งที่มาของปลาป่นที่เอามาใช้การผลิตปศุสัตว์ มีการตรวจสอบแหล่งที่มา ด้วยวิธีการอย่างยั่งยืน และมีการศึกษาที่ไม่ได้ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

"ปลาป่น บางครั้งมีการเอาสัตว์น้ำวัยอ่อนมาทำ ต้องมีงานวิจัยมารองรับว่า การจับปลาประเภทนั้นที่ไม่ได้ส่งผลความุรนแรง ไม่ได้มีการจับสัตว์น้ำวัยอ่อนยังไม่ถึงระยะโตเต็มวัย นำมาใช้การผลิตหรือว่าทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศภาพรวม เพราะฉะนั้น ASC เป็นองค์กรดูแลเรื่องการตรวจสอบทำประมงโดยเฉพาะ ตรวจสอบชัดเจนเขาคุมซับพลายเออร์ตัวเองได้ชาวประมงแหล่งที่มาของปลาแต่ละชนิดไม่ได้เอาสายพันธุ์ใกล้ศูนย์พันธุ์ ไม่ได้เอาสัตว์ใกล้ศูนย์พันธุ์เต็มที่

การเอาปลาวัยอ่อนมาทำเป็นอาหารสัตว์ เรามาพูดถึงการเอาสัตว์น้ำวัยอ่อนมาทำเป็นอาหารมนุษย์ วิจัยการบริโภคอาหารทะเลในไทย เราขาดความเข้าใจการใช้ชื่อแบบอื่นทำให้ คนบริโภคเองก็หลงว่าเป็นที่สายพันธุ์หรือเปล่า อย่างหนึ่งที่เราทำได้ที่เมืองนอกร่วมกันคือ ซับพลายเชนทำแคมเปญให้ผู้บริโภคซื้อถ้าไม่มีดีมานด์ ก็ไม่มีซับพลาย

เราให้ความรู้ความเข้าใจอำนวยความสะดวก การทำซีฟู้ดเพื่อที่จะบอกว่า คนในเมืองไม่รู้ว่าสัตว์แต่ละชนิดขนาดไหนโตเต็มวัย ตัวไหนที่ห้ามรับประทาน หลายประเทศทำเป็นซีฟู้ดไกด์ (Seafood Guide) อธิบายสัตว์แต่ละชนิดไหนที่ควรหลีกเลี่ยง ยกตัวอย่างเช่น ทูน่ามีหลายสายพันธุ์ เติบโตเต็มวัยแตกต่างกัน ถ้าเราเป็นคนบริโภคเฉยๆ ไม่มีความรู้เรื่องอาหารทะเล ทูน่าที่เขาวางขายอยู่เป็นสายพันธุ์ไหน อย่างน้อยทำให้ผู้บริโภคตระหนักรู้ว่าสายพันธุ์ไหน

สร้างประโยชร์ทุกฝ่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน จับมือกับทุกฝ่ายเพราะว่าปัญหามีความซับซ้อนเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ผู้ผลิตทำฝ่ายเดียวหรือว่าผู้บริโภค มันต้องเดินหน้าแก้ปัญหาไปพร้อมกันถึงแก้ไขปัญหาได้" ดวงใจ อธิบาย


ชาวประมงพื้นบ้าน จับปลาโตเต็มวัย (ภาพ : สมาคมรักษ์ทะเลไทย)

จิรศักดิ์ อธิบายถึง ข้อเสนอการจับประมงแบบยั่งยืน ชาวประมงประกอบความรู้ไปด้วยเรื่องปลา แต่อยากให้ตระหนักถึงช่วงระยะเวลาที่ไม่ควรหว่านออกหาปลา โดยนึกถึงว่าความคุ้มค่าของตนเองฝ่ายเดียวเป็นหลัก

"เราใส่ใจทำประมงทะเล จะส่งต่อรุ่นหลานได้ ถ้าชาวประมงรุ่นใหม่ทำประมงแล้วรับผิดชอบ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่จับลูกปลา ไม่ทิ้งขนะลงทะเล ผมคิดว่าทะเลมันจะอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ เราก็ใช้ทะเลเป็นอาชีพ เป็นเครื่องมือมาหากิน ตอนนี้ถ้ากฎหมายจะบังคับมาตรา 57 เราก็ยินดีให้กฎหมายมาบังคับ

ชาวประมงส่วนใหญ่รู้ว่าปลาที่เราจับเป็นปลาชนิดใด ปลาตัวเล็ก ตัวใหญ่ สามารถแยกขนาดได้ว่าเป็นป่าอะไร ยิ่งมีเครื่องมือที่พัฒนาขึ้นระบบโซนาร์ ประมงพาณิชย์ระดับไต๋จะรู้เลยว่า ออกจับปลาแต่ละรอบกี่หมื่น ? พันกิโล ปลาชนิดอะไรขนาดเล็กหรือใหญ่

แต่ระหว่างที่ช่วงไม่ควรหว่านปลา เขาเลือกที่จะหว่านก็เพราะนั้นคือค่าน้ำมัน ค่าลูกน้อง ถ้าเรายั้งใจไว้ รออีก 6 เดือนเราจะได้ทั้งประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ ผมก็อยากเห็นนะครับ มาตรา 57 ประชุมที่กรงประมง กระทรวงเกษตร ได้ออกมาบังคับใช้เพื่อที่จะท้องทะเลอุดสมบูรณ์" จิรศักดิ์ กล่าว


(มีต่อ)
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม