
27-07-2021
|
 |
Senior Member
|
|
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
|
|
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
เฮดังๆ "กลุ่มป่าแก่งกระจาน" ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว
"แก่งกระจาน" ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 โดยถือเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของไทย

วันนี้ (26 ก.ค. 64) ในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ซึ่งมีสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเจ้าภาพ โดยจัดประชุมผ่านระบบทางไกล ได้มีมติขึ้นทะเบียน "กลุ่มป่าแก่งกระจาน" บรรจุเข้าไปเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ
การนำเสนอกลุ่มป่าแก่งกระจานเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก มีการนำเสนอมาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2553 โดยถูกเลื่อนการพิจารณามา 2 ครั้ง โดยครั้งแรกปี 2560 มีปัญหาเรื่องการปักปันเขตแดนไทย-เมียนมา จนต้องเลื่อนพิจารณามาแล้วรอบหนึ่ง ต่อมาในปี 2562 ในคราวการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 43 ณ กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ที่ประชุมฯ เลื่อนการพิจารณาเป็นครั้งที่ 2 และให้ไทยกลับไปทำเอกสารเพิ่มเติมและส่งกลับมาพิจารณาใหม่โดยให้เวลา 3 ปี
ทั้งนี้มติขอให้ไทยดำเนินการเกี่ยวกับชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน 3 เรื่อง ได้แก่ 1) ข้อเรียกร้องของชุมชนกะเหรี่ยง 2) การแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชน และ 3) การรับฟังความคิดเห็นต่อการเสนอพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก
กระทั่งเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลก สมัยสามัญครั้งที่ 44 ในปี พ.ศ. 2564 โดยในครั้งนี้ พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภายใต้เกณฑ์ข้อที่ 10 ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งนับเป็นความสำเร็จในการดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ถิ่นที่อยู่อาศัยที่มีความสำคัญสูงสุดสำหรับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในถิ่นกำเนิด รวมไปถึงการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนิดพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์ ที่มีคุณค่าโดดเด่นเชิงวิทยาศาสตร์ หรือ เชิงอนุรักษ์ระดับโลก
พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน นับเป็นมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย นับตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ ? ห้วยขาแข้ง ในปี พ.ศ. 2534 และ กลุ่มป่าดงพญาเย็น ? เขาใหญ่ ในปี พ.ศ. 2548
กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรีมีพื้นที่ครอบคลุม 3 จังหวัด คือ จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และ ประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วยพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 3 แห่ง และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 1 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี รวมพื้นที่ 2,938,909.84 ไร่
ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในเขตนิเวศอินโดมาลายันซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภูมิศาสตร์ย่อยของพืชพันธุ์สัตว์ป่าหลายเขตมาประจบกัน อีกทั้งยังเป็นผืนป่าขนาดใหญ่ที่ต่อเนื่องไปกับเทือกเขาตะนาวศรี ทำให้กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปเอเชีย และบริเวณต้นแม่น้ำเพชรบุรียังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์เลื้อคลานขนาดใหญ่ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์อย่างจระเข้น้ำจืด (Siamese Crocodile) ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
https://mgronline.com/travel/detail/9640000073173
*********************************************************************************************************************************************************
ฝนพันปี! ตกหนัก-น้ำท่วมขยายวงกว้าง! กรีนพีซ ชี้สัญญาณวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลกยกระดับรุนแรง

สภาพฝนที่ตกหนักและน้ำท่วมครั้งใหญ่ทางตอนกลางของมณฑลเหอหนานในจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เมืองเจิ้งโจวได้รับความเสียหายหนัก
นับเป็นเหตุการณ์ฝนตกหนักที่เหอหนานครั้งหนักที่สุดในรอบ 1,000 ปี รวมทั้งมีรายงานข่าวอีกว่าตรวจพบรอยร้าวที่เขื่อนซึ่งเสี่ยงต่อการพังทลาย
ก่อนหน้านี้ยังมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในหลายแห่งทั่วโลก เช่น ออสเตรีย เบลเยี่ยม เยอรมนี ลักแซมเบิร์ก อินเดีย จีน และล่าสุด คือจังหวัดชุมพร ของประเทศไทย ที่ได้รับผลกระทบ

ดร.หลิว จวินเอี๋ยน หัวหน้าโครงการสภาพภูมิอากาศและพลังงาน กรีนพีซเอเชียตะวันออก กล่าวว่า ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนได้กลายเป็นคุณลักษณะใหม่ของแบบแผนสภาพอากาศ ดังที่เรารู้กันว่าเมื่ออุณหภูมิผิวโลกร้อนขึ้นทำให้สภาพอากาศแปรปรวนและรุนแรงถึงชีวิตมากขึ้น
"รัฐบาลท้องถิ่นต้องรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน และจะต้องมีความกล้าหาญที่จะต่อสู้และกอบกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศด้วย ซึ่งหากเราไม่ทำอะไรเลยก็จะเกิดวิกฤตกว่าเดิมในอนาคต ซึ่งสร้างหายนะเหมือนกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งในภาพรวมเรายังมีความเข้าใจถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว และความเสี่ยงของปรากฎการณ์ดังกล่าวไม่เพียงพอ"
ประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน เจิมปากา ที่พัดถล่มตำบลพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร ฝนที่ตกหนักและน้ำป่าไหลหลาก ชุมชนต้องอพยพหนีออกจากพื้นที่ สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือน ทรัพย์สินและสวนผลไม้ของชุมชน
พายุหมุนเขตร้อนที่มีกำลังแรงมากขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสัญญาณเตือนที่เด่นชัดถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เรากำลังเผชิญ สิ่งที่น่ากังวลคือเรากำลังจะเจอปัญหาเรื่อง "ความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ" มากขึ้น เราจะเห็นว่ากลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรุนแรงนี้คือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มชายขอบ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึงทรัพยากรในการเอาตัวรอดจากวิกฤตดังกล่าวได้น้อยกว่ากลุ่มผู้มีรายได้สูงที่เข้าถึงทรัพยากรได้มากกว่า
คำประกาศว่าด้วยภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศ (climate emergency declaration) เป็นกลยุทธเชิงนโยบายที่รัฐบาลหลายประเทศทั่วโลกและชุมชนวิทยาศาสตร์นำมาใช้เพื่อรับรู้ร่วมกันว่ามนุษยชาติกำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ คำประกาศแรกมีขึ้นในเดือนธันวาคม พ.ศ.2559 จนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 รัฐบาลท้องถิ่นมากกว่า 1,400 แห่งใน 28 ประเทศทั่วโลกได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศขึ้น
https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000072805
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|