ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ผุดเกาะใหม่นอกชายฝั่งญี่ปุ่น หลังภูเขาไฟใต้ทะเลเกิดการปะทุรุนแรง
ญี่ปุ่นพบ "เกาะใหม่" ผุดขึ้นมากลางทะเล ภายหลังการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการสั่งห้ามเรือเข้าไปใกล้แล้ว ด้านนักธรณีวิทยาเฝ้าสังเกตปรากฏการณ์อย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เว็บไซต์ข่าว เดอะ การ์เดียน รายงานว่า หน่วยยามฝั่งของญี่ปุ่นเปิดเผยภาพถ่ายทางอากาศพบเกาะใหม่เป็นรูปทรงพระจันทร์เสี้ยว ผุดขึ้นมาจากใต้ทะเลนอกชายฝั่งทะเลของญี่ปุ่น ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางใต้เกือบ 1,200 กิโลเมตร โดยเกาะนี้ได้รับการตั้งชื่อว่าเกาะ "นีจิม่า" ที่แปลว่าเกาะใหม่ เพิ่งผุดขึ้นมาในทะเลกลางมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือ ได้เพียง 2 วันหลังการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเลที่มีชื่อว่า "ฟุคุโตขุ โอคาโนะบะ" เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า จนถึงตอนนี้ภูเขาไฟใต้น้ำลูกนี้ก็ยังคงมีการปะทุอยู่อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดของบรรดานักธรณีวิทยา และหน่วยยามฝั่งเนื่องจากเป็นการระเบิดครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ ล่าสุดได้มีการประกาศคำเตือนห้ามเรือเข้าไปใกล้บริเวณนี้แล้ว
โดยเกาะนีจิม่า แห่งนี้มีความกว้างประมาณ 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ยามฝั่งบินสำรวจทางอากาศมาพบเกาะนี้เข้า และกำลังจับตาดูว่ามันจะอยู่ได้นานแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ การระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำลูกนี้ ก็เคยทำให้มีเกาะใหม่ผุดขึ้นมา 3 เกาะ แต่ไม่นานก็เกาะใหม่ก็ยุบตัวลงไปในทะเลตามเดิม
ขณะที่ในอดีตที่ผ่านมาการผุดขึ้นของเกาะใหม่หลายเกาะของญี่ปุ่นมักทำให้เกิดปัญหากับเพื่อนบ้านทั้งฟิลิปปินส์ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพราะจะส่งผลต่อการกำหนดเขตน่านน้ำใหม่ที่อาจจะขยายออกไปล้ำน่านน้ำเพื่อนบ้าน อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นรายงานว่า เกาะนีจิม่าอยู่ใกล้กับเกาะอิโวจิม่าใต้ ซึ่งเป็นเกาะสุดเขตน่านน้ำของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ทำให้เชื่อว่าต่อให้เกาะนีจิม่าตั้งอยู่ได้นาน ก็คงจะไม่ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรต่อเขตน่านน้ำทางใต้ของญี่ปุ่นมากนัก.
ที่มา Guardian
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2171347
*********************************************************************************************************************************************************
แบคทีเรีย ช่วยให้ปะการังรอดจากความร้อน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้อุณหภูมิของมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้น นำมาซึ่งการขัดขวางความสัมพันธ์ระหว่างปะการังกับสาหร่ายสังเคราะห์แสงที่พึ่งพากัน และทำให้ปะการังเกิดการฟอกขาว บางกรณีอาจทำให้ปะการังตายไปในที่สุด
ล่าสุด นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคิงอับดุลลาห์ (KAUST) ในซาอุดีอาระเบีย ได้นำเสนอวิธีจัดการกับไมโครไบโอม (microbiome) หรือจุลินทรีย์ธรรมชาติที่พบอยู่บนผิวปะการัง ที่จะช่วยให้ปะการังรอดจากความร้อน อาจเพิ่มความทนทานต่อความเครียด ซึ่งทีมวิจัยได้เลือกแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ 6 สายพันธุ์โดยแยกออกมาจากปะการังแข็งชื่อ Mussismilia hispida จากนั้นก็นำแบคทีเรียเหล่านั้นไปใช้เพาะเลี้ยงเชื้อ ในเวลาเดียวกันปะการังก็ถูกบำบัดความเครียดด้วยความร้อน ให้อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเป็น 30 องศาเซลเซียสในช่วง 10 วัน ก่อนที่จะลดลงเหลือ 26 องศาเซลเซียส นักวิจัยได้ตรวจสอบสุขภาพของปะการังและวัดความหลากหลายของจุลินทรีย์ รวมถึงปัจจัยการเผาผลาญในการรักษาที่มีและไม่มีโปรไบโอติก ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่จัดเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดี รวมถึงความเครียดจากความร้อน
การวิจัยใหม่ระบุว่า การรักษาปะการังด้วยโปรไบโอติกของแบคทีเรียหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ได้ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตหลังปะการังเกิดการฟอกขาว ที่สำคัญคือเมื่อมีการคาดการณ์คลื่นความร้อน ก็สามารถทำวิธีการล่วงหน้าได้เพื่อช่วยให้ปะการังฟื้นตัวจากอุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น.
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2170952
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|