ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 28-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


สหรัฐอนุมัติรื้อเขื่อนครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่ออนุรักษ์ แซลมอน ใกล้สูญพันธุ์



เขื่อน 4 แห่งซึ่งตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำ Klamath ในรัฐแคลิฟอร์เนียและโอเรกอนของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นแหล่งผสมพันธุ์ปลา แซลมอน กำลังจะถูกรื้อทิ้ง

หน่วยงานอนุรักษ์แหล่งที่อยู่อาศัยปลาใกล้สูญพันธุ์ของสหรัฐอเมริกาอนุมัติการรื้อเขื่อน 4 แห่งซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและโอเรกอน โดยนับเป็นการรื้อเขื่อนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา

การรื้อเขื่อนในครั้งนี้หวังจะพัฒนาคุณภาพของแม่น้ำ Klamath ซึ่งเป็นเส้นทางที่แซลมอนชินูก และแซลมอนใกล้สูญพันธ์อย่างแซลมอนโคโฮ ว่ายผ่านจากมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อขึ้นไปยังแหล่งผสมพันธุ์ที่อยู่ต้นน้ำ และลูกปลาจะใช้เส้นทางเดียวกันนี้ว่ายกลับสู่ทะเลในเวลาต่อมา

คณะกรรมการกำกับดูแลพลังงานแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งเรียกคืนใบอนุญาตดำเนินกิจการเขื่อน และยังเห็นชอบให้มีการรื้อถอนเขื่อนทั้ง 4 แห่ง

การรื้อถอนเขื่อนในครั้งนี้เป็นสิ่งเป็นสิ่งที่ชนเผ่าพื้นเมืองซึ่งบรรพบุรุษพึ่งพาแซลมอนในการหาเลี้ยงชีพมาหลายศตวรรษต่างคาดหวัง หลังจากวิถีชีวิตของพวกเขาถูกรบกวนจากการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรปและความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ชนบทในศตวรรษที่ 20

Joseph James หัวหน้าชนเผ่า Yurok ได้ให้ความเห็นถึงการรื้อถอนเขื่อนว่าถือเป็นชัยชนะของชนพื้นเมือง โดยหลังจากนี้พวกเขาจะกลับมาดำเนินภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์ต่อปลาที่หล่อเลี้ยงชีวิตพวกเขามาแต่ครั้งอดีตกาลได้อีกครั้ง เขากล่าวว่า "แซลมอนแห่งแม่น้ำ Klamath กำลังจะได้กลับบ้านแล้ว"

ภาวะโลกรวนและภัยแล้งได้เปลี่ยนแปลงสภาพแหล่งที่อยู่ของแซลมอน ทำให้แม่น้ำอุ่นเกินกว่าที่ปลาบางชนิดจะสามารถอยู่รอดได้ และยังมีพยาธิมากเกินไป

บริษัทผลิตไฟฟ้า PacifiCorp ซึ่งอยู่ในเครือบริษัท Berkshire Hathaway ของมหาเศรษฐี Warren Buffet จะคืนใบอนุญาตดำเนินกิจการเขื่อนทั้ง 4 แห่ง ซึ่งมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าสำหรับการใช้งานของประชากร 7,000 หลังคาเรือน

ก่อนหน้านี้ PacifiCorp ประสบค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากกฎระเบียบใหม่ที่บังคับสร้างแผงกั้นและบันไดปลา บริษัทจึงทำข้อตกลงกับชนเผ่าพื้นเมืองและรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะยุติการดำเนินกิจการเขื่อน

ทั้งนี้โฆษกของ PacifiCorp กล่าวว่า บริษัทได้ให้เงินสมทบการรื้อถอนเขื่อนเป็นเงิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเงินที่มาจากค่าบริการที่เก็บจากผู้บริโภคในรัฐโอเรกอนและแคลิฟอร์เนีย โดยเงินอีกส่วนหนึ่งเป็นจำนวน 250 ล้านเหรียญมาจากการออกพันธบัตรซึ่งเห็นชอบโดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในรัฐแคลิฟอร์เนีย


https://dxc.thaipbs.or.th/news_updat...8%ad%e0%b8%99/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม