ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ทส.เตรียมประกาศพื้นที่กว่า 7 หมื่นไร่ เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์

กาญจนบุรี - บิ๊ก ทส.ประชุมมีมติเห็นชอบนำที่ราชพัสดุ 3 ตำบล กว่า 7 หมื่นไร่ ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ ติดแค่กรมธนารักษ์เห็นชอบ
นายประวุธ เปรมปรีดิ์ หัวหน้าหน่วยควบคุมพื้นที่เตรียมการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า (ผอ.สอส.) สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Video Conference) โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน มีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง รองประธาน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานฯ เลขาฯ นางรุ่งนภา พัฒนวิบูลย์ รองอธิบดีกรมอุทยานฯ รวมทั้งนายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ผลการประชุมคณะกรรมการมีมติ
1.เห็นชอบการกำหนดพื้นที่ที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ในท้องที่ตำบลนาสวน ตำบลด่านแม่แฉลบ ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เนื้อที่ 72,877 ไร่ เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยให้รอผลการพิจารณาจากกรมธนารักษ์ และผลตรวจสอบความถูกต้องของท้องที่การปกครอง และแนวเขตการปกครองกับกรมการปกครอง
2.เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดพื้นที่ที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ ในท้องที่ตำบลเขาโจด ตำบลนาสวน ตำบลด่านแม่แฉลบ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ.ศ. ... พร้อมแผนที่และบัญชีชนิดสัตว์แนบท้ายประกาศกระทรวงดังกล่าว และ 3.เห็นชอบ และรับรองให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการตามขั้นตอนการประกาศเขตห้ามล่าสัตว์ป่า โดยไม่ต้องรอรายงานการประชุม ขณะเดียวกัน กองทัพบก โดยกองพลทหารราบที่ 9 จังหวัดกาญจนบุรี ได้เห็นชอบการนำที่ดินราชพัสดุ แปลง กจ.209 อำเภอศรีสวัสดิ์ ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าศรีสวัสดิ์อีกด้วย
นายประวุธ เปรมปรีดิ์ หัวหน้าหน่วยควบคุมพื้นที่เตรียมการ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของเราได้มีการทำงานในรูปแบบมวลชนด้วยการเดินสำรวจพื้นที่ร่วมกับผู้นำชุมชน และทำความเข้าใจกับประชาชนที่มีที่ดินอยู่ติดกับแนวเขต รวมทั้งประชุมชี้แจงกับส่วนราชการ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชน และได้ข้อยุติตลอดแนวเขตที่สำรวจ การดำเนินการดังกล่าวจึงไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่แต่อย่างใด
ซึ่งการทำงานมวลชนได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ประกอบด้วย มูลนิธิสืบนาคะเสถียร คณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน และมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตไทรโยค เข้ามาส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน เช่น การสนับสนุนให้ชาวบ้านเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลาดุก เอาไว้กินเอง เพื่อลดการลักลอบล่าสัตว์ป่า รวมทั้งตรวจและฉีดวัคซีน ให้ความรู้ผู้เลี้ยงโค กระบือ เพื่อป้องกันการเกิดติดต่อโรคระหว่างสัตว์ป่ากับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
https://mgronline.com/local/detail/9650000119545
******************************************************************************************************
ภาพถ่ายดาวเทียมชี้เวียดนามถมทะเลขยายพื้นที่ครั้งใหญ่ หนุนอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้

รอยเตอร์ - องค์กรคลังสมองของสหรัฐฯ ระบุว่า เวียดนามได้ดำเนินการขยายงานขุดลอกและถมที่ครั้งใหญ่ยังฐานที่มั่นหลายแห่งในทะเลจีนใต้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ที่นับเป็นการส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะยืนยันการอ้างกรรมสิทธิ์ของประเทศในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทแห่งนี้
ศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศ (CSIS) ระบุว่า งานในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่จีนและประเทศอื่นๆ อ้างกรรมสิทธิ์เช่นกันนั้น ได้สร้างพื้นที่ขึ้นใหม่ราว 420 เอเคอร์ และทำให้พื้นที่โดยรวมทั้งหมดที่เวียดนามถมทะเลในช่วงทศวรรษที่ผ่านมารวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 540 เอเคอร์
จากการค้นพบในภาพถ่ายดาวเทียมเชิงพาณิชย์ โครงการริเริ่มเพื่อความโปร่งใสทางทะเลเอเชีย (AMIT) ของ CSIS ระบุว่า ความพยายามดังกล่าวประกอบด้วยงานถมทะเล 4 แห่ง และงานขุดลอกทรายใหม่อีก 5 แห่ง
"พื้นดินมากกว่า 3,200 เอเคอร์ ในระหว่างปี 2556-2559 แต่ก็นับว่ามากกว่าความพยายามในครั้งก่อน และยังแสดงถึงความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่มุ่งสนับสนุนตำแหน่งของประเทศในหมู่เกาะสแปรตลีย์" รายงานระบุ
สถานทูตของเวียดนามในวอชิงตันไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของรอยเตอร์ต่อรายงานดังกล่าว
AMTI ระบุว่า ฐานทหารขนาดกลางของเวียดนามที่เกาะนามยิต (Namyit) เกาะปะการังเพียร์สันรีฟ (Pearson Reef) และเกาะปะการังแซนด์เคย์ (Sand Cay) กำลังอยู่ระหว่างการขยายครั้งใหญ่
เกาะนามยิต มีขนาด 117 เอเคอร์ และเกาะปะการังเพียร์สันรีฟ 119 เอเคอร์ ทั้ง 2 เกาะตอนนี้มีขนาดใหญ่กว่าเกาะสแปรตลีย์ ที่มีขนาด 97 เอเคอร์ ที่เคยเป็นฐานใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ส่วนเกาะปะการังเทนเนท์รีฟ Tennent Reef) ที่ก่อนหน้ามีเพียงโครงสร้างเสาขนาดเล็ก 2 ต้น เวลานี้ มีพื้นที่ถมใหม่ 64 เอเคอร์ รายงานระบุ
AMTI ระบุว่าเวียดนามใช้เรือขุดแบบหัวงับดินตักส่วนปะการังน้ำตื้นและกองตะกอนถมทะเล กระบวนการที่สร้างความเสียหายน้อยกว่าการขุดดูดลอกดินที่จีนใช้สร้างเกาะเทียม
"อย่างไรก็ตาม กิจกรรมขุดลอกและถมทะเลของเวียดนามในปี 2565 มีความสำคัญ และเป็นสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะสนับสนุนการครอบครองพื้นที่ในหมู่เกาะสแปรตลีย์" รายงานระบุ
จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ และตั้งฐานทหารบนเกาะเทียมที่จีนสร้างขึ้น ขณะเดียวกัน ไต้หวัน เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และฟิลิปปินส์ ต่างอ้างสิทธิทับซ้อนในทะเลดังกล่าว ที่เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญและยังเป็นแหล่งก๊าซและแหล่งประมงที่อุดมสมบูรณ์.
https://mgronline.com/indochina/detail/9650000119387
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|