ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
นักวิจัยพบ 'แบคทีเรีย' ช่วยย่อยขยะพลาสติกในทะเล เปลี่ยนเป็นสารชีวภาพที่ปลอดภัย
หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์พบข้อกังขามานานว่า ขยะพลาสติกที่ถูกทิ้งลงทะเลนั้น หายไปไหนบ้าง ผลวิจัยใหม่นี้ ช่วยหาคำตอบได้ส่วนหนึ่ง และยังเป็นความหวังใหม่ในการกำจัดขยะพลาสติกในมหาสมุทร

แต่ละปีมีขยะพลาสติกที่โดนทิ้งลงสู่มหาสมุทรอย่างน้อย 14 ล้านตัน แต่มีการตรวจพบพลาสติกจากการเก็บตัวอย่างเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ก่อให้เกิดข้อสงสัยว่าขยะพลาสติกในทะเลหายไปไหนบ้าง?
เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีผลการศึกษาจากสถาบันวิจัยทางทะเล โดยสถาบันรอแยลเนเธอร์แลนด์ (NIOZ) ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Marine Pollution Bulletin ระบุว่า สามารถพิสูจน์ได้ว่า แบคทีเรียที่มีอยู่ทั่วไปในท้องทะเลชื่อว่า Rhodococcus ruber เป็นตัวย่อยขยะพลาสติก เปลี่ยนให้เป็นคาร์บอนไดออกไซด์และสารประกอบอื่น ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
Maaike Goudriaan นักศึกษาปริญญาเอกของ NIOZ ชี้ว่า กรณีศึกษานี้ นับเป็นครั้งแรกที่มีการพิสูจน์ได้ว่า แบคทีเรียนี้สามารถย่อยพลาสติกได้จริง อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหาขยะพลาสติกที่มีอยู่เกลื่อนมหาสมุทร แต่เป็นเพียงหนึ่งในคำตอบต่อคำถามที่ว่า "พลาสติกหายไปไหนบ้าง" เมื่อมันลงไปอยู่ในมหาสมุทร
ในการวิจัยครั้งนี้ ทีมงานได้ดำเนินการทดลองเชิงห้องปฏิบัติการหลายครั้ง ด้วยการป้อนพลาสติกให้แบคทีเรียในน้ำทะเลหลังจากที่นำไปผ่านแสงยูวีมาก่อนแล้ว เพื่อเลียนแบบสภาพการโดนแสงแดดในมหาสมุทร?
เป็นที่รู้กันดีว่า แสงอาทิตย์เป็นตัวทำให้พลาสติกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งทำให้แบคทีเรียดูดซึมชิ้นส่วนพลาสติกได้ง่ายขึ้น
ทีมวิจัยได้ประเมินว่า เพียงแค่แบคทีเรีย Rhodococcus ruber ชนิดเดียวก็สามารถสลายพลาสติกได้อย่างน้อย 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนพลาสติกที่โดนทิ้งลงทะเลต่อปี จึงมีความเป็นไปได้ว่า จะนำแบคทีเรียเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในการกำจัดขยะพลาสติกในมหาสมุทรได้มากขึ้น?
กระนั้น ก็ยังมีข้อควรระวัง หากใช้แบคทีเรียจำนวนมากกำจัดขยะพลาสติกที่มีอยู่หลายล้านตัน กระบวนการย่อยสลายพลาสติกจำนวนมหาศาล จะก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลเช่นกัน ซึ่งไม่เป็นผลดีโลก
Rhodococcus ruber?เป็นแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปและทั่วโลก มีอยู่ทั้งในพื้นดิน ในแหล่งน้ำจืดและน้ำทะเล ส่วนแบคทีเรียที่ใช้ในการทดลองของทีมวิจัย เป็นสายพันธุ์ที่คัดเลือกแล้วว่าสามารถเปลี่ยนสารที่เป็นมลพิษ เช่น สารเคมีจากธุรกิจอุตสาหกรรมและยาฆ่าแมลง ให้เป็นโมเลกุลของสารประกอบที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต
นอกจากนี้ยังพบในระหว่างการทดลองว่า แสงอาทิตย์มีส่วนช่วยอย่างมากในการกำจัดขยะพลาสติก เนื่องจากแสงแดดช่วยย่อยสลายพลาสติกให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หรือที่เรียกว่าไมโครพลาสติก ซึ่งทำให้แบคทีเรียย่อยพลาสติกเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น
ทีมวิจัยชี้ว่า จากข้อมูลที่มีอยู่แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ว่า แสงอาทิตย์เป็นตัวการสำคัญในการสลายขยะพลาสติกที่ล่องลอยอยู่ในทะเลตั้งแต่ยุคทศวรรษที่ 1950 และประเมินว่า แสงแดดสามารถทำลายขยะพลาสติกที่ลอยอยู่ในทะเลในอัตราปีละ 2% ของขยะทั้งหมด
แม้ว่าการค้นพบครั้งนี้ จะทำให้มีความหวังและช่องทางใหม่ที่นำไปสู่การกำจัดขยะพลาสติกในทะเล แต่หนทางที่ดีกว่าการ "ทำความสะอาดทะเล" ด้วยแบคทีเรีย ก็คือการป้องกันการทิ้งขยะลงทะเล ซึ่งมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่จะทำได้
https://www.dailynews.co.th/news/1925653/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|