ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
เม็กกาโลดอน: ฉลามยักษ์นักล่าเหยื่อขั้นสุด กินกระทั่งพี่น้องมันเองตั้งแต่ในท้องแม่

ความน่ากลัวของเม็กกาโลดอนในภาพยนตร์ อาจไม่ได้เกินจริงนักที่มาของภาพ,GETTY IMAGES
ฉลามยักษ์เม็กกาโลดอน เป็นนักล่าขั้นสุดแห่งท้องทะเล เป็นไดโนเสาร์แห่งเผ่าพันธุ์ฉลาม ที่สูญพันธุ์จากโลกเมื่อหลายล้านปีก่อน แต่ความน่าสะพรึงกลัวของมัน อาจเหนือกว่าจินตนาการที่ฮอลลีวูดหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์เลยทีเดียว
ผ่านไป 5 ปี นับแต่ ภาพยนตร์ "เดอะ เม็ก" (The Meg) เข้าฉาย นำแสดงโดย เจสัน สเตแธม ต่อสู้กับฉลามยุคดึกดำบรรพ์ เวลานี้ ?เม็ก 2: อภิมหาโคตรหลาม ร่องนรก? กำลังเข้ามาฉายแล้ว นำแสดงอีกครั้งโดย สเตแธม ที่ปรากฏในตัวอย่างภาพยนตร์ ด้วยการเอาเท้าถีบขากรรไกรฉลามยักษ์ และฉากบู๊น่าเหลือเชื่ออีกหลายฉาก
ไม่ว่าผู้ชมจะคิดอย่างไรกับภาพยนตร์ฉลามยักษ์ภาคต่อนี้ แต่ในความเป็นจริงนั้น สิ่งที่ฮอลลีวูดฉายให้เห็นถึงฉลามไดโนเสาร์นั้น ค่อนข้างสอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะ เม็กกาโลดอน (Megalodon) เป็นสุดยอดนักล่าแห่งท้องทะเล เป็นเวลานานกว่า 20 ล้านปี ก่อนที่มันจะสูญพันธุ์ไปเมื่อราว 3.5 ล้านปีก่อน ซึ่งถือเป็นโชคดีที่มนุษย์ไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับมัน (ยกเว้นในภาพยนตร์)
เม็กกาโลดอน เป็นฉลามขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยปรากฏบนโลก และเป็นหนึ่งในนักล่าแห่งท้องทะเลขนาดใหญ่ที่สุด
แต่ปริศนาว่าฉลามดึกดำบรรพ์นี้ วิวัฒนาการจนมีขนาดมโหฬารเช่นนั้นได้อย่างไรนั้น เพิ่งเริ่มแน่ชัดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง จากผลงานวิจัยใหม่ที่ส่องให้เห็นแง่มุมใหม่ว่า ฉลามยักษ์นี้มีชีวิต ล่าเหยื่อ และหาอาหารอย่างไร
ฟันใหญ่ยักษ์
วงการวิทยาศาสตร์รู้จักฉลามเม็กกาโลดอนมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1840 จากการค้นพบซากฟันรูปทรงสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ของมัน โดยชื่อ เม็กกาโลกดอน มีความหมายว่า "ฟันใหญ่" ในภาษากรีกโบราณ ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์ของมัน คือ ออโตดุส เม็กกาโลดอน
ชื่อฟันใหญ่ของมัน ไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่น เพราะตัวอย่างฟอสซิลที่พบ เป็นฟันความ 16.8 เซนติเมตร (6.6 นิ้ว) ซึ่งถือว่าใหญ่มาก เพราะฟันของฉลามขาวอยู่ที่ 7.5 เซนติเมตร (3 นิ้ว) จึงแน่ชัดว่า เม็กกาโลดอน เป็นฉลามขนาดยักษ์ แต่มันใหญ่แค่ไหนล่ะ ?
หากนักวิทยาศาสตร์มีโครงกระดูกเต็มตัวของมัน ก็คงตอบคำถามนี้ได้ง่าย ๆ แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีการค้นพบโครงกระดูกสมบูรณ์ของมัน อีกทั้งฉลามเป็นปลากระดูกอ่อน ซึ่งกระดูกแบบอ่อนนั้น กลายเป็นซากฟอสซิลได้ค่อนข้างยาก ผลลัพธ์ คือ ฟอสซิลที่มนุษย์ค้นพบเกี่ยวกับเม็กกาโลดอน คือ ฟันของมัน รวมถึงกระดูกสันหลังบางส่วน
"อันที่จริง เราคาดเดารูปร่างของมันได้ค่อนข้างลำบาก" โซรา คิม นักธรณีเคมี มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ที่ศึกษาด้านเคมีเกี่ยวกับฟันเม็กกาโลดอน กล่าว
นั่นหมายความว่า ขนาดและรูปร่างที่แท้จริงของเม็กกาโลดอนนั้น ยังไม่แน่ชัด อย่างไรก็ดี นักบรรพชีวินวิทยา ยังพอจะประเมินขนาดมันจากขนาดฟันของมันได้ โดยเทียบกับฟันของฉลามสายพันธุ์อื่น ๆ ที่มนุษย์ทราบรายละเอียดขนาด ซึ่งในความเป็นจริง ก็ยังถือว่าเป็นการประเมินที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า ไม่ได้หมายความว่า มันเป็นแค่เวอร์ชันที่ใหญ่ขึ้นของสัตว์สายพันธุ์เดียวกันที่มีขนาดเล็กกว่า นำมาสู่การถกเถียงมากมาย
ผลการศึกษาหลายฉบับชี้ว่า เม็กกาโลดอน เติบโตจนมีขนาดใหญ่ได้ถึง 18 เมตร หรือถึง 20 เมตร อย่างไรก็ดี การศึกษาในปี 2019 โดย เคนชู ชิมาดะ นักบรรพชีวินวิทยา จากมหาวิทยาลัยดีพอล ในเมืองชิคาโก แย้งว่า การประเมินดังกล่าวมีข้อบกพร่อง และเขาเชื่อว่า จากขนาดฟันหน้าบนของเม็กกาโลดอน ประเมินได้ว่า มันมีขนาดยาวไม่เกิน 15.3 เมตรเท่านั้น
ปีต่อมา ทีมวิจัยนำโดย วิคเตอร์ เปเรซ จากพิพิธภัณฑ์ฟลอริดาว่าด้วยประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ในเมืองเกนส์วิลล์ มีความเห็นที่ต่างจาก ชิมาดะ เพราะพวกเขาได้ตรวจสอบความกว้างของฟัน มากกว่าความสูงของฟัน เพราะทำให้ประเมินขนาดการอ้าของขากรรไกรได้
ผลลัพธ์คือการประเมินว่า เม็กกาโลดอน เติบโตได้จนมีความยาว 20 เมตร ซึ่ง คาตาลินา ปีเมียนโต นักบรรพชีวินวิทยาทางทะเล มหาวิทยาลัยซูริกในสวิตเซอร์แลนด์ มองว่า "เป็นการวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือ" ขณะที่ ชิมาดะเองก็เห็นด้วยในระดับหนึ่ง
หากยึดตามหลักการประเมินขนาดล่าสุดนี้ หมายความว่า เม็กกาโลดอน มีขนาดยักษ์ จนฉลามในปัจจุบัน รวมถึงฉลามขาวยักษ์ ที่มีความยาวราว 4.9 เมตร เรียกว่าเป็นฉลามแคระได้เลยทีเดียว เพราะเม็กกาโลดอน มีขนาดใหญ่กว่า 3-4 เท่า
แต่วาฬบาลีน หรือวาฬกรองกินขนาดใหญ่ที่สุด ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าฉลามเม็กกาโลดอน ขณะที่สัตว์ใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลก คือ วาฬสีน้ำเงิน ที่มีขนาดยาวสูงสุด 30 เมตร
แม้เม็กกาโลดอน จะพ่ายแพ้ในแง่การเป็นสัตว์ใหญ่ที่สุดในโลก แต่มันถือได้ว่าเป็นฉลามใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยปรากฏ และอาจเป็นสัตว์นักล่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วย
นักล่าขั้นสูงสุด
เพียงฟันขนาดใหญ่อย่างเดียว ก็ชี้ได้ว่า เม็กกาโลดอน เป็นสัตว์นักล่า แต่มันกินอะไรเป็นอาหาร ? การจะตอบคำถามนี้ นักวิจัยได้ตรวจสอบผ่านการวิเคราะห์ทางเคมีจากฟันของมัน
วิธีการตรวจสอบหนึ่ง คือ ดูที่สารไนโตรเจน เพราะไนโตรเจนทั้งหมดในร่างกายสัตว์มาจากโปรตีนในอาหาร โดยไนโตรเจน มี 2 รูปแบบ หรือ "ไอโซโทป" เรียกว่า ไนโตรเจน-14 และไนโตรเจน-15
ร่างกายสัตว์เก็บรักษาไนโตรเจน-15 มากกว่าไนโตรเจน-14 จากการบริโภคเนื้อ ผลลัพธ์คือ สัตว์ที่เป็นสัตว์นักล่าที่อยู่ระดับสูงในห่วงโซ่มาอาหาร จะมีสัดส่วนไนโตรเจน-15 ในร่างกาย รวมถึงในฟัน มากกว่าสัตว์อื่น ๆ
ผลการศึกษาเมื่อปี 2022 นักวิจัย รวมถึง คิม เผยให้เห็นว่า ฟันของเม็กกาโลดอนมีระดับไนโตรเจน-15 ที่สูงมาก บ่งชี้ว่า มันเป็นสัตว์นักล่าขั้นสูง ที่กินเหยื่อที่มีขนาดใหญ่มาก ยกตัวอย่างเช่น วาฬนักล่า เหมือนวาฬเพชฌฆาตในยุคปัจจุบัน "มันจึงเป็นสัตว์ผู้ล่าขั้นสูงสุด" คิม กล่าว
อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาอีกฉบับเมื่อปี 2022 ที่มีชิมาดะและคิม ร่วมกันเขียน ได้ใช้การตรวจสอบไอโซโทปของสังกะสีแทน ซึ่งผลปรากฏว่า เม็กกาโลดอน เหมือนกับฉลามขาวยักษ์ แต่ยังไม่ถือเป็นผู้ล่าขั้นสูงสุด โดย คิม เสริมว่า ผลการศึกษาบ่งชี้ด้วยว่า เม็กกาโลดอนแต่ละตัว อาจกินอาหารไม่เหมือนกัน
ปีเมียนโต ระบุว่า ความไม่ชัดเจนนี้ อาจเป็นผลจากความแตกต่างระหว่างฉลามวัยเติบโต และตัวเต็มวัย "เราทราบดีจากสปีชีส์ในยุคสมัยใหม่ว่า ฉลามเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเมื่อมันเติบโตขึ้น" ยกตัวอย่าง สปีชีส์ฉลามในยุคสมัยใหม่ ฉลามวัยกำลังเติบโต หรือฉลามวัยรุ่น จะกินปลาเป็นหลัก ส่วนฉลามวัยเจริญพันธุ์ จะกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลด้วย
ฉลามเม็กกาโลดอนที่อายุยังไม่มาก อาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินระหว่างที่มันกำลังเติบโตด้วยเช่นกัน เพราะมีหลักฐานว่า เม็กกาโลดอน บางครั้งก็พุ่งเป้าไปที่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลขนาดเล็ก อย่างแมวน้ำ
"ผู้ล่าขั้นสูงสุด จะเป็นผู้ล่าขั้นสูงสุด ก็ต่อเมื่อมันโตเต็มวัยแล้ว" ปีเมียนโต กล่าว
อันที่จริง เม็กกาโลดอนวัยเยาว์ มีชีวิตที่แตกต่างจากพ่อแม่ของมันมาก โดยในปี 2010 ปีเมียนโต และทีมงานของเธอ ได้ค้นพบฟันเม็กกาโลดอนในภูมิภาคหนึ่งของปานามา ซึ่งเป็นฟันขนาดเล็กผิดปกติ บ่งชี้ว่า นี่เป็นฟันของเม็กกาโลดอนวัยเด็ก
ทีมวิจัยสรุปว่า ทะเลน้ำตื้น มีสถานะเสมือนสถานอนุบาลฉลามเม็กกาโลดอน เพื่อที่ฉลามวัยเยาว์จะได้หากินในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างปลอดภัย เพราะสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ จะเข้ามาในพื้นที่น้ำตื้นได้ยาก ซึ่งอีกทศวรรษต่อมา ก็มีการค้นพบสถานอนุบาลเม็กกาโลดอนอีกหลายจุดด้วยกัน
แต่คำว่า "อนุบาล" อาจฟังดูขัดกับความเป็นจริง เพราะก่อให้เกิดภาพเม็กกาโลดอน ประคบประหงมลูกของมัน ทั้งที่ "เม็กกาโลดอน จะปล่อยลูก ๆ เอาไว้ แล้วจากไป" ปีเมียนโต กล่าว
ฉลามยุคสมัยใหม่เอง ก็มีพฤติกรรมคล้ายกัน "เราไม่เคยพบฉลามเพศเมียที่ดูแลลูก ๆ ของมันเลย" คิม กล่าว
เบาะแสถึงการสืบพันธุ์ของเม็กกาโลดอน เปิดเผยออกมาในผลการศึกษาปี 2020 ของชิมาดะ และทีมงานของเขา ซึ่งศึกษากระดูกสันหลังที่หายากชุดหนึ่ง เป็นของเม็กกาโลดอนขนาดประมาณ 9.2 เมตร และพบว่า มันตายตอนอายุ 46 ปี หมายความว่า เมื่อคลอดออกมา พวกมันมีขนาดราว 2 เมตรเลยทีเดียว
ขนาดลูกฉลามเม็กกาโลดอนที่มีขนาดใหญ่นี้ บ่งชี้ว่า พวกมันฟักตัวในท้องแม่ ก่อนจะคลอดออกมา ไม่ใช่การฟักตัวจากไข่นอกท้องแม่ เหมือนปลาสปีชีส์อื่น ๆ ทีมวิจัยยังเชื่อว่า ตัวอ่อนเม็กกาโลดอนกินไข่ใบอื่นในครรภ์ ทำให้มันเติบโตจนมีขนาดใหญ่เช่นนี้ได้
อาจฟังดูน่าสะพรึงกลัว แต่ "พฤติกรรมกินพวกเดียวกันเองภายในมดลูก" ของเม็กกาโลดอน พบในฉลามยุคใหม่ด้วยเช่นกัน หมายความว่า แม่ฉลามจะคลอดลูกออกมาไม่กี่ตัว แต่ลูกฉลามที่คลอดออกมา จะได้รับสารอาหารเต็มเปี่ยม
นักล่าข้ามมหาสมุทร
ผลการสร้างแบบจำลองเม็กกาโลดอนแบบ 3 มิติ เมื่อปี 2022 ของปีเมียนโตและทีมวิจัยของเธอ โดยอ้างอิงจากฉลามขาวยักษ์และฉลามชนิดอื่น ๆ ?ผลการตรวจวัด ทำให้พบว่าเม็กกาโลดอนมีคุณลักษณะทางชีวภาพที่หลากหลาย? ปีเมียนโต กล่าว
คุณลักษณะหนึ่งคือ เม็กกาโลดอน เป็มฉลามจอมว่ายน้ำตัวยงที่สามารถว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วเฉลี่ยปกติ 1.4 เมตรต่อวินาที เร็วกว่าฉลามทุกชนิดที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน และเวลามันล่าเหยื่อ เม็กกาโลดอนสามารถพุ่งเข้าหาเหยื่อได้ด้วยความเร็ว 10 เมตรต่อวินาที
กรามของเม็กกาโลดอนยังมีขนาด "กว้างมากจนพอจะกินเหยื่อขนาดใหญ่ได้" โดยเม็กกาโลดอนตัวเต็มวัย สามารถกินสัตว์อย่างวาฬเพชฌฆาตได้หมดในไม่กี่คำ และการกินเหยื่อขนาดนี้ จะช่วยให้มันอิ่มท้องอยู่ได้นานระดับหนึ่ง
ไม่เพียงเท่านั้น ปีเมียนโต และทีมวิจัย เชื่อว่า เม็กกาโลดอนเป็น "นักล่าขั้นสูงข้ามมหาสมุทร" หมายความว่ามันว่ายน้ำข้ามระหว่างมหาสมุทรเป็นประจำ
เหตุที่มันสามารถเดินทางข้ามมหาสมุทรที่มีอุณหภูมิน้ำแตกต่างกันได้ เป็นผลจากความเลือดอุ่นของเม็กกาโลดอน หรือหมายความว่า มันสามารถควบคุมอุณหภูมิภายในได้ด้วยการสร้างความร้อนในร่างกายขึ้นมาเอง
ทำไมจึงสูญพันธุ์ ?
หลายคนอาจคิดว่าขนาดตัวที่ใหญ่เกินไปทำให้เม็กกาโลดอนหมดไปจากโลก แต่ที่จริงแล้วนักบรรพชีวินวิทยาพบว่า เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ระดับน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเมื่อหลายล้านปีก่อนมากกว่า
การที่ระดับน้ำทะเลลดลงส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศชายฝั่งที่เม็กกาโลดอนอาศัยอยู่ ทำให้พื้นที่ในการหาอาหารมีไม่เพียงพอ จนสัตว์ทะเลยุคโบราณ 36% ซึ่งรวมถึงฉลาม เต่า วาฬและโลมาหลายชนิดพันธุ์ต้องตายลง หลังเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่ล้านปี เปิดทางให้ฉลามขาวมีวิวัฒนาการขึ้นมาแทนจนเป็นยอดนักล่าแห่งท้องทะเลในปัจจุบัน
https://www.bbc.com/thai/articles/cg3wev6dvq5o
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|