ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
นทท.อินเดียชี้ วัตถุปริศนาที่ภูเก็ต คล้ายจรวดโครงการจันทรายานฯ

นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย กล่าวเป็นภาษาอินเดีย วัตถุคล้ายชิ้นส่วนอากาศยาน ลอยเกยหาดกะรน อาจเป็นชิ้นส่วนจรวดขับเคลื่อนยานอวกาศ สำรวจดวงจันทร์ในโครงการ "จันทรายานฯ" ตกลงมาในมหาสมุทรอินเดียแล้วคลื่นซัดเข้ามาเกยหาดที่ภูเก็ต
จากกรณีเมื่อเช้าวันที่ 30 ส.ค. 66 เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ประจำหาดกะรน จ.ภูเก็ต ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ เดินตรวจการเล่นน้ำของนักท่องเที่ยว บริเวณริมหาด ได้พบซากชิ้นส่วนคล้าย "อากาศยาน" ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาด บริเวณหน้าสนามวอลเลย์บอล หาดกะรน จากนั้นนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด ได้ช่วยกันลากซากดังกล่าวนี้ขึ้นมาจากน้ำทะเล เพื่อรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบอีกครั้ง ว่า วัตถุดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนของ "อากาศยาน" หรือไม่
ล่าสุดบ่ายวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณที่พบซากชิ้นส่วนคล้าย "อากาศยาน" หาดกะรน พบว่ามีเจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลกะรน นำชิ้นส่วนดังกล่าว ขึ้นมาจากริมหาดแล้ว นำมาตั้งไว้ข้างริมขอบฟุตปาทริมถนน จากการตรวจสอบในเบื้องต้น เป็นซากไฟเบอร์กลาส สีดำ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กก. วัตถุดังกล่าวอุ้มน้ำและมีสายคล้ายสายไฟสีฟ้าติดอยู่ภายใน มีเลขรหัสบางอย่างที่เป็นภาษาอินเดีย และบางส่วนมีร่องรอยคราบสนิมติดอยู่ มีหอยกระติบจำนวนมากเกาะติดอยู่รอบชิ้นส่วนดังกล่าว
เมื่อนักท่องเที่ยวที่เดินผ่านมา ได้ถ่ายภาพ เซลฟี่ และวิพากษ์วิจารณ์ โดยมีนักท่องเที่ยวอินเดียรายหนึ่งระบุว่า น่าจะเป็นชิ้นส่วนจรวด RLV-TD ของอินเดีย ใช้ส่งยานอวกาศทดลองขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ ในโครงการจันทรายานฯ (channdrayaan-3) และชิ้นส่วนจรวดได้ตกในมหาสมุทรอินเดีย ถูกคลื่นซัดลอยมาถึงภูเก็ต
ด้านเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดประจำหน้าหาดกะรนที่พบชิ้นส่วนลอยมาเกยหาด กล่าวว่า เจอชิ้นส่วนลอยขึ้นมาบริเวณชายหาดจึงใช้เชือกรัดไม่ให้ลอยไปหลังจากน้ำลดลงก็ไปนำขึ้นมาบนชายหาด ตนเห็นอยู่ในทะเลลอยเข้ามาเกยชายหาดหลังจากนั้นช่วงเที่ยงน้ำลดลง มีเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลกะรนช่วยกันขนมาบริเวณชายหาด ตอนแรกที่เจอกันคิดว่าเป็นซากเครื่องบิน
https://www.thairath.co.th/news/local/south/2721378
******************************************************************************************************
เจ้าหน้าที่เร่งช่วยชีวิต "ลูกเต่า" ที่ฟักออกจากไข่ ก่อนปล่อยกลับคืนทะเล
กรมทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่เกาะนกเภา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อช่วยเหลือ ลูกเต่าฟักขึ้นมาจากพื้นทราย สำรวจพบไข่เต่าจำนวน 113 ฟอง

วันที่ 30 สิงหาคม 2566 มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ศวทก.) ได้เข้าตรวจสอบหลุมไข่เต่าตนุ ที่เกาะนกเภา ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านเกาะนกเภาว่า มีการพบลูกเต่าขึ้นมาบริเวณพื้นทราย ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2566
จากการตรวจสอบพบว่ายังมีลูกเต่าติดอยู่ในหลุมจำนวน 5 ตัว ซึ่งได้ช่วยขึ้นมาและให้ชาวบ้านปล่อยในช่วงค่ำ โดยพบไข่ทั้งหมด 113 ฟอง ฟักเป็นตัว 76 ฟอง คิดเป็นร้อยละ 67 ไข่ไม่ฟัก 36 ฟอง คิดเป็นร้อยละ 32 และลูกเต่าตายในไข่เนื่องจากเจาะไข่ออกมาไม่สำเร็จ 1 ฟอง คิดเป็นร้อยละ 1 ไข่ที่ไม่ฟักเกิดจากเป็นไข่ที่ไม่ได้ผสม 33 ฟอง และลูกเต่าตายในระหว่างการพัฒนา 3 ฟอง
ซึ่งพบเชื้อราในไข่เต่า ระยะเวลาในการฟัก 49 วัน ซึ่งสั้นกว่าปกติ (55-65 วัน) โดยสันนิษฐานว่าบริเวณรังไข่เต่าได้รับแสงแดดในช่วงเช้า ทำให้อุณหภูมิในรังสูง ซึ่งจะทำให้ช่วงเวลาเพาะฟักเร็วขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บเปลือกไข่เพื่อทำการวิจัยต่อไป.
https://www.thairath.co.th/news/local/2721172
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|