ขอบคุณข่าวจาก มติชน
รมว.ทส. สั่งกรมทะเลชายฝั่ง-กรมอุทยานฯ เร่งลงพื้นที่สำรวจ เฝ้าระวังวาฬเผือกในกระบี่
รมว.ทส. สั่งกรมทะเลชายฝั่ง-กรมอุทยานฯ เร่งลงพื้นที่สำรวจ ศึกษา เฝ้าระวังวาฬเผือก ในพื้นที่กระบี่

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีเรือนำเที่ยวชื่อ Happy Ours Phuket พานักท่องเที่ยวออกไปท่องทะเลใกล้กับเกาะพีพี แล้วเจอ ?วาฬเผือก? ขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 7 เมตร โผล่ขึ้นมาโชว์ตัว จนนักท่องเที่ยวบนเรือต่างก็ตื่นเต้น เนื่องจากวาฬนั้นจะหาดูได้ยากแล้ว สีของวาฬยังเป็นสีขาวทั้งตัว ซึ่งวาฬตัวนี้ไม่เคยพบเห็นในพื้นที่มาก่อน โดย น.ส.ประภากร ลิ่มมณี นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวได้บันทึกภาพไว้ได้ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นวาฬชนิดใดนั้น
โดยวันที่ 6 มกราคม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากนายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
รายงานปฏิบัติการค้นหาวาฬโอมูระ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติฯ และพื้นที่ใกล้เคียง สืบเนื่องจากปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ได้นำเรือตรวจการณ์พร้อมอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ออกสำรวจพื้นที่ทางทะเล ตามที่ได้รับรายงานว่าพบเจอวาฬโอมูระ ในพื้นที่เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะปิกะนอก โดยการปฏิบัติการค้นหายังไม่พบวาฬ ดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ในวันที่ 7 มกราคม จะดำเนินการประสานงานร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำทีมโดย ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ในระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเรือตรวจการณ์ พร้อมอากาศยานไร้คนขับ (Drone) จัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในการร่วมสำรวจข้อมูลในพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่ามีการพบการปรากฏตัวของวาฬเผือก
วาฬโอมูระ เป็นสัตว์ป่าสงวน ตามพระราชบัญญัติ?สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า? พ.ศ.?2562 โดยวาฬโอมูระเป็นวาฬขนาดกลางที่เป็นวาฬซี่กรอง? มีลักษณะคล้ายวาฬบรูด้า? แต่ต่างกันที่จำนวนสันบนหัว? โดยวาฬโอ?มู?ระ?จะมี? 1 สัน? ส่วนวาฬบรูด้าบนหัวจะมี? 2 สัน? วาฬโอมูระสามารถพบได้บริเวณฝั่งตะวันออกของมหาสมุทร?อินเดียและ? ด้านฝั่งตะวันตกของมหาสมุทร?แปซิฟิก? ในประเทศไทย?มีการพบวาฬชนิดนี้บริเวณ?จังหวัดระนอง? หมู่เกาะสิมิลันและหมู่เกาะสุรินทร์? จังหวัดพังงา? จังหวัดภูเก็ต? และสามารถพบการเกยตื้นของวาฬโอมูระตลอดแนวชายฝั่งของประเทศไทย
นายปิ่นสักก์กล่าวว่า วันที่ 7 มกราคม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) นำโดย ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ในสังกัด ทช. จะร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจบริเวณดังกล่าว พร้อมนำเรือตรวจการณ์ และเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการสำรวจ นอกจากนี้ จะสำรวจสัตว์ทะเลหายากชนิดอื่นเพื่อรวบรวมเป็นฐานข้อมูล และกำหนดแนวทางการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเรือนำเที่ยว และเรือประมงในพื้นที่ ให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับเรือ ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายกับวาฬดังกล่าวด้วย ซึ่งการปรากฏตัวของวาฬสะท้อนให้เห็นว่าระบบนิเวศทางทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ และสามารถแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านทะเลชายฝั่ง รวมถึงสัตว์ทะเลหายากได้ตลอด ที่สายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร 1362
https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_4363087
******************************************************************************************************
กรมอุทยานฯ แจงภาพดำน้ำ ยัน จนท.เก็บกู้ขยะทะเล ไม่ได้สำรวจ 'วาฬเผือก'
จากกรณีที่มีภาพภารกิจสำรวจ วาฬเผือก ซึ่งเป็นภาพกลุ่มเจ้าหน้าที่กำลังดำน้ำอยู่ในทะเล ทำให้มีการเข้าใจผิดว่าเป็นปฏิบัติการสำรวจวาฬนั้น

เมื่อวันที่ 7 มกราคม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ขอชี้แจงว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2567 ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานใต้น้ำอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จ.ตรัง กำลังดำเนินการเก็บกู้ซากอวน หลังได้รับแจ้งจากนักดำน้ำในพื้นที่บริเวณอ่าวนุ้ย ด้านทิศตะวันตก พบเศษอวนที่ติดปะการังน้ำหนักรวมทั้งหมดประมาณ 30 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ทีมดำน้ำจึงได้เก็บกู้ขยะทะเลเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งขยะทะเลมีหลากหลายประเภทและส่วนใหญ่เป็นเศษเครื่องมือจากการทำประมง มีผลกระทบต่อสมดุลของระบบนิเวศ ก่อให้เกิดผลเสียต่อทรัพยากรทางทะเลในบริเวณแนวปะการังและบริเวณใกล้เคียง ไม่ใช่เป็นภาพดำน้ำเพื่อสำรวจวาฬแต่อย่างใด
สำหรับการสำรวจ วาฬเผือก นั้น ปฏิบัติการเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 2567 โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จ.ตรัง ได้นำเรือตรวจการณ์พร้อมอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ออกสำรวจพื้นที่ทางทะเล ในพื้นที่เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล เกาะปิกะนอก โดยการปฏิบัติการค้นหายังไม่พบวาฬดังกล่าว
โดยในวันนี้ (7 มกราคม) กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำทีมโดย ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ในระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเรือตรวจการณ์ พร้อมอากาศยานไร้คนขับ (Drone) จัดชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจในการร่วมสำรวจข้อมูลในพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่ามีการพบการปรากฏตัวของวาฬเผือกอีกครั้ง
https://www.matichon.co.th/local/qua...e/news_4363964
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|