ดูแบบคำตอบเดียว
  #10  
เก่า 09-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation


เศร้า "พะยูน" ตรัง จากโลกตัวที่ 4 ของปี เกิดอะไรขึ้นกับทะเลไทย ............... ต่อ



"อ.ธรณ์" โพสต์ 10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิกฤตหญ้าทะเล/พะยูน

ขณะที่ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า

1.หญ้าทะเลตรัง/กระบี่ตายเป็นจำนวนมากจากโลกร้อน อาจมีรายงานเรื่องขุดลอกหรือทรายกลบที่ลิบง แต่เป็นเฉพาะพื้นที่ในอดีตและการขุดลอกหยุดไปหลายปีแล้ว

2.หญ้าตายหนนี้เริ่มตายปี 65-67 ยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้น และอาจขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ เนื่องจากโลกร้อนไม่หยุด

มีรายงานหญ้าเสื่อมโทรมในลักษณะคล้ายกันในพื้นที่อื่นๆ เช่น เกาะพระทอง (พังงา) อีกหลายพื้นที่กำลังสำรวจเพิ่มเติม

ภาพที่เห็นคือหญ้าทะเลไหม้เนื่องจากน้ำลงต่ำผิดปรกติ น้ำยังร้อน/แดดแรง ปัจจุบันในพื้นที่นั้นหญ้าตายหมดแล้ว

หญ้าทะเลยังตายจากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนรุนแรง บางแห่งเน่าจากปลาย บางแห่งเน่าเฉพาะโคนก่อนใบขาด ยังมีความเป็นไปได้ในเรื่องโรค (เชื้อรา)

3.พะยูน 220 ตัวอยู่ที่ตรัง/กระบี่ (ศรีบอยา) เป็นแหล่งหญ้าทะเลที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด

4.กรมทะเลมีงบศึกษาวิจัยสัตว์หายากน้อยมาก แม้เริ่มมีอุปกรณ์และทีมงานดีขึ้น แต่งบปฏิบัติการยังน้อยและทำการสำรวจได้ไม่เต็มที่

ในด้านสัตวแพทย์ทะเล ฯลฯ ยังมีบุคลากรจำกัด การศึกษาที่จำเป็น เช่น ตรวจฮอร์โมน ศึกษา DNA การย้ายถิ่น ฯลฯ เพิ่งเริ่มต้น และคงต้องใช้เวลาอีกนานด้วยความจำกัดในหลายด้าน

5.คาดว่าพะยูนอาจเคลื่อนย้ายไปหาแหล่งที่ยังมีหญ้าเหลือ โดยมีเส้นทางขึ้นเหนือ (กระบี่ตอนบน/พังงา/ภูเก็ต) หรือเส้นทางลงใต้ (สตูล) แต่ยังบอกไม่ได้ชัดเจน

บอกไม่ได้เพราะการสำรวจทำตามงบจำกัด ไม่สามารถสำรวจต่อเนื่องเป็นพื้นที่กว้างในช่วงเวลาเดียวกัน

6.ในอดีตไม่เคยมีสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน ตั้งแต่เริ่มต้นสำรวจหญ้าทะเลที่ตรังเมื่อ 40 ปีก่อน หญ้าไม่เคยหายไปเยอะแบบนี้
เนื่องจากหญ้าตายเพราะโลกร้อน/สิ่งแวดล้อม การแก้ที่ต้นเหตุจึงยากมาก

7.การปลูกฟื้นฟูจำเป็นต้องเลือกพื้นที่เหมาะสม พันธุ์หญ้าที่เหมาะสม (DNA) ภูมิต้านทานโรค ฯลฯ ไม่สามารถทำได้ทันที เพราะสภาพแวดล้อมแปรปรวน

คณะประมงตั้ง "หน่วยวิจัยหญ้าทะเลต้านโลกร้อน" และมีโรงเพาะเลี้ยงหญ้าทะเลเพื่อเรื่องนี้ตั้งแต่ 4 ปีก่อน

8.การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องพะยูน คือการสำรวจให้กว้างที่สุด ดูการอพยพ (หากมี) เพื่อดูแลแหล่งหญ้าใหม่ที่พะยูนอาจไป

แนวทางใหม่ๆ เช่น การติดตามสัตว์แบบ tracking ด้วยดาวเทียม การตรวจสุขภาพแบบจับมาตรวจ การให้อาหารเฉพาะหน้า ฯลฯ อาจต้องเริ่มคิดกัน

9.กรมทะเลตั้งคณะทำงานแล้วตั้งแต่ต้นปี ทำงานต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ (บางคนก็อยู่ในทะเลตอนนี้) ประชุมกันเกือบทุกวัน เราไม่มีผู้เชี่ยวชาญดีกว่านี้อีกแล้ว

10.ทางออกที่สำคัญสุดคือการสนับสนุนงบประมาณให้โครงการต่างๆ ที่กรมทะเลเสนอไป เพื่อให้งานเดินหน้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของพะยูน

ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะได้งบหรือไม่ ? (งบไม่ใช่หลายล้าน ทั้งหมดที่เสนอไป ราคาใกล้เคียงรถ EV จากจีน)

ทั้งหมดนั้นคือที่สรุปมาให้เพื่อนธรณ์ ในฐานะคนในคณะทำงานครับ (ไม่ได้ตังค์ ไม่มีเบี้ยประชุม ไม่มีโครงการวิจัยในส่วนนี้ ฯลฯ)

จะพยายามต่อไปเท่าที่ทำได้ ยังไงก็ต้องหาทางช่วยน้องครับ

ต่อมา "อ.ธรณ์" ยังได้โพสต์ ผลสำรวจพะยูนเบื้องต้นที่ตรัง โดยระบุข้อความว่า

ผลสำรวจพะยูนเบื้องต้นที่ตรังออกมาแล้วครับ คงถึงเวลาต้องร้องไห้

กรมทะเลบินสำรวจทุกปีที่เดิม ในเดือนเดียวกัน (มีนาคม) ด้วยวิธีเดิมๆ นักบินช่างภาพก็คนเดิมๆ

เมื่อเทียบตัวเลขปีก่อนกับปีนี้ คำว่าตกใจอาจไม่พอ

ปีที่แล้วพบไม่น้อยกว่า 180 ตัว แม่ลูก 12 คู่

ปีนี้พบ 24 ตัว (ลิบง 17 มุกด์ 7) ไม่พบแม่ลูกเลย

เน้นย้ำว่าเป็นผลขั้นต้น ยังต้องสำรวจอีก 2 วัน แต่แค่นี้ก็พอบอกได้ว่าพะยูนตรังน้อยลงมาก ขนาดช่างภาพอาสาสมัครที่มาช่วยสำรวจเป็นสิบๆ ปียังแทบร้องไห้

ปีที่แล้วยังพบพะยูนรวมเป็นฝูง แต่ปีนี้ไม่พบฝูงพะยูนเลย กระจายกันออกไปเป็นตัวเดี่ยวๆ เพราะหญ้าเหลือน้อยมาก

ผลชันสูตรพะยูนที่ตาย พบว่าป่วย ในทางเดินอาหารแทบไม่พบหญ้าทะเล (หากเราไม่มีอะไรกิน เราก็ป่วยตาย ผลชันสูตรคงไม่สามารถระบุได้ว่าอดตาย)

ตัวเลขสำคัญสุดจึงย้อนมาที่ผลสำรวจทางอากาศ พะยูนลดน้อยลงมาก

แล้วพะยูนไปไหน ? เราไม่ได้มีพะยูนตายเป็นร้อยๆ

ดังที่เคยบอกเพื่อนธรณ์ เมื่อหญ้าทะเลหมด พะยูนคงไม่รอให้อดตาย หากตัวไหนไปได้ก็ไป

แต่ไปไหน ? นั่นคือสิ่งที่ผมบอกไว้ในโพสต์ก่อน

เราต้องการโครงการขนาดใหญ่สำรวจต่อเนื่องทั้งพื้นที่ กระบี่/ตรัง/สตูล หรือจะครอบคลุมทั้งอันดามันยิ่งดี

คณะทำงานสัตว์หายากเสนอไปแล้ว หากได้รับความสนับสนุน นักวิจัยของกรมทะเลพร้อมทำงาน

สำหรับทางออก การแก้ปัญหา ฯลฯ ยังบอกไม่ได้ เอาแค่ว่าพะยูนหายไปไหนแค่นี้ก่อน

180 เหลือ 24 ไม่มีแม่ลูกเลย แค่นี้ผมก็พูดอะไรไม่ออก คิดอะไรไม่ออก มันตื้อไปหมด

ได้แต่ภาวนาว่าในการสำรวจอีก 2 วัน เราจะเจอน้องพะยูนเยอะขึ้น แม้รู้ดีว่าไม่มีทางเท่าปีก่อน แต่อย่างน้อยก็ขอให้เยอะกว่านี้สักนิด

24 ตัวมันเป็นตัวเลขที่โหดร้ายและทำร้ายจิตใจเกินไปครับ

หมายเหตุ - เป็นผลสำรวจขั้นต้น รอผลเป็นทางการจากกรมทรัพยากรทางทะเลอีกครั้ง แต่จำนวนคงน้อยลงมากเมื่อเทียบกับปีก่อน


ขอขอบคุณ : เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat , กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง , ขยะมรสุม MONSOONGARBAGE THAILAND


https://www.nationtv.tv/news/social/378941233

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม