ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
ประเทศใดร้อนและหายใจยากสุดในภูมิภาค แล้วประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ไหม?
ความร้อนระอุในยุคโลกเดือดที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วเอเชียต่างทำลายสถิติกันอย่างถล่มทลาย

โดยในเดือนที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ มีอุณหภูมิสูงจนรู้สึกได้ว่าร้อนถึง 45 องศาเซลเซียส จนต้องปิดโรงเรียนไป 47,000 แห่ง กัมพูชา ก็มีอุณหภูมิสูงแตะ 43 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงสุดในรอบ 170 ปี เมียนมา ก็มีการวัดในบางพื้นที่พบว่าอุณหภูมิบางพื้นที่เกือบแตะ 50 องศาเซลเซียส เวียดนาม มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนเกิดไฟไหม้ป่ากินบริเวณกว้าง และยิ่งทำให้เพิ่มความร้อนขึ้นไปอีก ส่วน ประเทศไทย ก็ไม่แพ้ใคร เพราะบางพื้นที่ทางภาคเหนือวัดได้ว่ามีอุณหภูมิแตะ 44 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนมากกว่าปีที่แล้ว 1-3 องศาเซลเซียส ทำให้ดูเหมือนเราจะก้าวข้าม 1.5 C หรือ 1.5 องศาเซลเซียส ที่เราตั้งเป้าหมายไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่านเลขาธิการ UN คงจะกล่าวผิดไปที่ว่า "มวลมนุษยชาติได้แง้มประตูสู่ขุมนรกอเวจีแล้ว" เพราะที่จริงน่าจะบอกว่า "มวลมนุษยชาติได้ทลายประตูสู่ขุมนรกอเวจี และก้าวลงไปขาหนึ่งแล้ว" น่าจะสะท้อนสถานการณ์จริงมากกว่า
นอกจากอากาศที่ร้อนจัด มาดูเรื่อง "มลพิษในอากาศ" ว่า ประเทศใดติดอันดับเมืองที่หายใจไม่ออกมากที่สุด จากการรายงานของ IQAir องค์กรที่จับตามองสภาพอากาศในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกแบบ Realtime โดยมีอุปกรณ์วัดสภาพอากาศใน 120 เมืองใหญ่ทั่วโลก รายงานล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 เอาไว้ว่า 10 อันดับเมืองที่อากาศมีมลพิษสูงสุด จนแทบหายใจไม่ได้ ได้แก่ อันดับ 1 เดลี ประเทศอินเดีย มีความเข้มข้นของ PM 2.5 อยู่ที่ 70.5 หน่วย สูงกว่ามาตรฐาน WHO 14.1 เท่า อันดับ 2 หางโจว ประเทศจีน มีความเข้มข้นของ PM 2.5 อยู่ที่ 47 หน่วย ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน WHO 9.4 เท่า อันดับ 3 ฮานอย ประเทศเวียดนาม มีความเข้มข้นของ PM 2.5 อยู่ที่ 46.9 หน่วย ใกล้เคียงเมืองหางโจว อันดับ 4 กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล มีความเข้มข้นของ PM 2.5 อยู่ที่ 42.1 หน่วย สูงกว่ามาตรฐาน WHO 8.4 เท่า อันดับ 5 ย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา มีความเข้มข้นของ PM 2.5 อยู่ที่ 38 หน่วย สูงกว่ามาตรฐาน WHO 7.6 เท่า และตามมาด้วย อันดับ 6 ธากา ประเทศบังกลาเทศ อันดับ 7 นานามา ประเทศบาห์เรน อันดับ 8 ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อันดับ 9 โดฮา ประเทศกาตาร์ และอันดับ 10 คือ เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
โชคดีที่กรุงเทพฯ ไม่ติดอันดับ 1 ใน 10 และเราน่าจะมีความเข้มข้นของ PM 2.5 อยู่ที่ราว 18 หน่วย แม้ว่าจะดีกว่าสุดยอดเมืองหายใจไม่ออกทั้ง 10 อยู่มาก แต่ก็ยังสูงกว่ามาตรฐานความปลอดภัยของ WHO อยู่ 3-4 เท่า ดังนั้นถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะร่วมมือกันช่วยให้การมีชีวิต Outdoor เย็นขึ้น ปลอดภัยขึ้น มีคุณภาพที่ดีขึ้น ไม่อย่างนั้นปีหน้าเราอาจจะใช้ชีวิตอยู่นอกอาคารไม่ได้ หรือ
ทุก ๆ บ้านอาจจะต้องมีชุดอวกาศขององค์การนาซา ที่สามารถกันความร้อน และต้องอุ้มเครื่องปรับอากาศ กับมีถังออกซิเจนไว้หายใจ แบบนักบินอวกาศอีกด้วย
https://www.dailynews.co.th/news/3434577/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
|