ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 11-07-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ


เปิดอันดับ ประเทศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ปี 2024


Photo: Stefan Hiienurm/unsplash


ดัชนีประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Performance Index : EPI) ของ Yale University ถูกจัดทำเป็นประจำทุกปี เพื่อหาสถิติผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวมของประเทศต่าง ๆ

โดยใช้ชุดข้อมูลทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีล่าสุด ที่ทำให้การประเมินสถานะของความยั่งยืนครอบคลุมที่สุด สำหรับดัชนีปี 2024 เป็นการสำรวจสถานะของความยั่งยืนของ 180 ประเทศ โดยใช้ตัวบ่งชี้ประสิทธิภาพ 58 ตัว ในมิติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สุขภาพสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และการส่งเสริมอนามัยสิ่งแวดล้อม

EPI เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ในการติดตามความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals) ความตกลงปารีส (Paris Agreement) 2015 และกรอบงานคุนหมิง-มอนทรีออลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของโลก (Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework)?โดยช่วยระบุว่าประเทศใดที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการจัดการกับประเด็นต่าง ๆ ทั้งความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม การให้ความสำคัญกับผู้นำด้านความยั่งยืน และผู้ล้าหลังในการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม


Top 10 ประเทศเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด

อันดับ 1 เอสโตเนีย 75.3 คะแนน
อันดับ 2 ลักเซมเบิร์ก 75.0 คะแนน
อันดับ 3 เยอรมนี 74.6 คะแนน
อันดับ 4 ฟินแลนด์ 73.7 คะแนน
อันดับ 5 สหราชอาณาจักร 72.7 คะแนน
อันดับ 6 สวีเดน 70.5 คะแนน
อันดับ 7 นอร์เวย์ 70.0 คะแนน
อันดับ 8 ออสเตรีย 69.0 คะแนน
อันดับ 9 สวิตเซอร์แลนด์ 68.0 คะแนน
อันดับ 10 เดนมาร์ก 67.9 คะแนน


Top 10 ประเทศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

อันดับ 180 เวียดนาม 24.5 คะแนน
อันดับ 179 ปากีสถาน 25.5 คะแนน
อันดับ 178 ลาว 26.1 คะแนน
อันดับ 177 เมียนมาร์ 26.9 คะแนน
อันดับ 176 อินเดีย 27.6 คะแนน
อันดับ 175 บังกลาเทศ 27.8 คะแนน
อันดับ 174 เอริเทรีย 28.6 คะแนน
อันดับ 173 มาดากัสการ์ 29.9 คะแนน
อันดับ 172 อิรัก 30.4 คะแนน
อันดับ 171 อัฟกานิสถาน 30.7 คะแนน

ทั้งนี้ ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 90 ของ 180 ประเทศ ด้วยคะแนน 45.4


กรณีศึกษาเอสโตเนีย จากผู้ปล่อย CO2 มากสุดอันดับ 2 ในสหภาพยุโรป?สู่อันดับ 1 ในดัชนีโลก EPI

ประเทศเอสโตเนียเป็นผู้นำในดัชนีจัดอันดับ EPI ปี 2024 ด้วยผลงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลดลง 40% ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนจากเผาไหม้หินน้ำมันหรือน้ำมันที่เกิดจากการทับถมของซากพืช-ซากสัตว์อยู่ใต้ชั้นหินดินดานเพื่อผลิตไฟฟ้า มาเป็นพลังงานที่สะอาดกว่า นอกจากนั้น เอสโตเนียกำลังร่างข้อเสนอเพื่อให้บรรลุความเป็นกลางด้านคาร์บอนไดออกไซด์?และสร้างเครือข่ายการขนส่งสาธารณะที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนไดออกไซด์ในเมืองใหญ่ ๆ ภายในปี 2040

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เอสโตเนียเป็นผู้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อหัวที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในสหภาพยุโรป โดยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของเอสโตเนียมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์มาจากการเผาไหม้หินน้ำมันเพื่อผลิตไฟฟ้า (ตามรายงานของ CEE Bankwatch Network ปี 2018)?และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจคาร์บอนเข้มข้นมากที่สุดในกลุ่มประเทศ OECD เหตุผลก็คือหินน้ำมันซึ่งเป็นหินตะกอนที่มีการขุดในเอสโตเนียเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1950 และยังได้ถูกนำมาใช้เพื่อการผลิตเชื้อเพลิงดีเซลเหลวอีกด้วย

มลพิษที่มีความเข้มข้นสูงสร้างปัญหาสุขภาพให้กับคนในท้องถิ่น เด็ก ๆ ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการเผาไหม้หินน้ำมัน ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ และอาจมีอายุเฉลี่ยขัยสั้นกว่าคนทั่วไปสี่ปี ดังนั้น เอสโตเนียจึงสร้างแผนพัฒนาพลังงานของประเทศ โดยมุ่งมั่นที่จะลดจำนวนการเสียชีวิตก่อนกำหนดอันเนื่องมาจากมลพิษลงร้อยละ 50 ภายในปี 2573

"คริสตี้ คลาส" รองรัฐมนตรีกระทรวง Green Transition ของเอสโตเนีย กล่าวว่า?เอสโตเนียได้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 59% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภาคพลังงานจะเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากเรามีเป้าหมายที่จะผลิตไฟฟ้าที่ใช้จากพลังงานหมุนเวียนได้ 100% ภายในปี 2573

อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยเยลระบุว่า?การพึ่งพาพลังงานชีวมวล (Biomass) ที่เพิ่มขึ้นของเอสโตเนีย ส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์ป่าไม้ จึงไม่ชัดเจนว่าจะสามารถรักษาอัตราการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็วได้หรือไม่


เทรนด์โลก Net Zero ต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่า

ในปี 2022 เดนมาร์ก เป็นอันดับ 1 บนดัชนี EPI แต่ในปี 2024 หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 10 เนื่องจากอัตราการลดคาร์บอนลดลง โดยการดำเนินการ "นโยบายผลไม้แขวนลอยต่ำ" ของประเทศส่งผลต่อประสิทธิภาพในช่วงแรก ๆ จากการเปลี่ยนมาใช้การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินเป็นก๊าซธรรมชาติ แต่การขยายตัวการผลิตพลังงานหมุนเวียนนั้นก็ยังไม่เพียงพอ

ดัชนี EPI ระบุด้วยว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น สหรัฐอเมริกา (ซึ่งปีนี้อยู่ในอันดับที่ 34) กำลังลดลงช้าเกินไปหรือยังคงเพิ่มขึ้น เช่นเดัยวกับ จีน รัสเซีย และอินเดีย

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีเพียง 5 ประเทศ ได้แก่ เอสโตเนีย ฟินแลนด์ กรีซ ติมอร์-เลสเต และสหราชอาณาจักร ที่ได้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอัตราที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

ขณะที่เวียดนามและประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ เช่น ปากีสถาน ลาว เมียนมาร์ และบังกลาเทศ อยู่ในอันดับที่ต่ำที่สุด ซึ่งบ่งบอกถึงความเร่งด่วนของความร่วมมือระหว่างประเทศในการช่วยสร้างเส้นทางสำหรับประเทศที่กำลังดิ้นรนเพื่อให้บรรลุความยั่งยืน

"แดเนียล เอสตี้"?ศาสตราจารย์ Hillhouse และผู้อำนวยการ Yale Center for Environmental Law & Policy (YCELP)?กล่าวว่า ดัชนีประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมปี 2024 เน้นย้ำถึงความท้าทายด้านความยั่งยืนที่สำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปจนถึงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและอื่น ๆ อีกมากมาย และเผยให้เห็นแนวโน้มที่ชี้ให้เห็นว่าประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในการปกป้องระบบนิเวศที่สำคัญและความมีชีวิตชีวาของโลกของเรา


https://www.prachachat.net/sd-plus/s...y/news-1604564

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม