|
#1
|
||||
|
||||
มหากุศลข้ามชาติ ย่างกุ้ง -มันดาเลย์-แฮโฮ-หงสาวดี
...ขอนำบุญมาฝากพี่ๆน้องๆชาว sos ทุกท่านครับ...
ครั้งหนึ่งในชีวิตทำธุรกิจข้ามชาติ.... .....องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า " มนุสสัตตภาโว ทุลลโภ "แปลว่า การเกิดเป็นมนุษย์เป็นสิ่งที่หาได้ยากในโลก" ...ดังนั้น ในชาตินี้เราโชคดีที่ได้มีโอกาสสร้างความดี สะสมบุญบารมี เพื่อเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่จะให้ได้รับผลในภพชาติต่อๆไป... .....ช่วงปลายปีได้มีโอกาสเดินทางไปทำบุญที่พม่า..เลยนำเรื่องราวและภาพมาฝากพี่น้องชาวsos ครับ |
#2
|
||||
|
||||
อนุโมทนา....สาธุ...สาธุ...สาธุ.... และขอบคุณในบุญที่นำมาฝาก รวมทั้งเรื่องราวและภาพที่นำมาลงให้ชมค่ะ น้องนาย..น้องจุ๋ม... ต้องมีภาพประกอบเรื่องให้ชมอีกแน่นอน....จะรอชมนะคะ...
__________________
Saaychol |
#3
|
||||
|
||||
…..สถานที่แรกที่เราเดินทางไปถึงคือ วัดพระหยกขาว
พระหยกขาว เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินอ่อนองค์ใหญ่ที่สุดในพม่า สีขาวสะอาดไม่มีตำหนิ สูง ๓๗ ฟุต กว้าง ๒๔ ฟุต หนัก ๖๐๐ ตัน พระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสิงคโปร์และศรีลังกา ลักษณะพระหัตถ์ขวานี้ยกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกจากองค์ หมายถึงการไล่ศัตรูและประทานความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้มีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาทซ้าย-ขวา ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังพระพุทธรูปด้วย ไกด์เล่าว่า เมื่อประมาณ ๑๐ ปีที่แล้ว พ่อค้าพม่าอยากจะสร้างพระพุทธรูปหินหยกถวายเป็นพุทธบูชา จึงได้ไปขออนุญาตรัฐบาลเมื่อสร้างพระพุทธรูปเสร็จแล้ว ตั้งชื่อว่าพระลาภมุนี พร้อมกันนั้นรัฐบาลได้สร้างวัดให้ท่านประดิษฐานด้วย จึงเป็นวัดพระหยกขาวอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้ พระพุทธรูปหยกขาว นี้ เก็บรักษาไว้ในตู้กระจกใหญ่ ภายในติดเครื่องปรับอากาศ เพื่อรักษาอุณหภูมิ เนื่องจากถ้าปล่อยให้ประดิษฐานไว้ในอากาศตามธรรมชาติ หินหยกที่สร้างเป็นองค์พระจะร่อนแตกได้ ดังนั้น รูปที่ถ่ายมาก็เลยไม่สวย ติดที่มีแสงสะท้อนจากกระจก …..สถานที่ต่อไปคือ ปางช้างเผือก ที่เป็นช้างคู่บ้านคู่เมืองของพม่า มีสีขาวเผือกตลอดทั้งตัว จำนวน 3 เชือก ต้องตามคลักษณะของช้างเผือกทุกประการ ลักษณะสำคัญของช้างเผือก 1.ตาขาว 2.เพดานขาว 3.เล็บขาว 4.ขนขาว 5.พี้นหนังขาว หรือสีคล้ายหม้อใหม่ 6.ขนหางยาว7.อัณฑโกศขาว หรือสีคล้ายหม้อใหม่ |
#4
|
||||
|
||||
Udomlert
ตกลงพี่นายทำธุรกิจข้ามชาติแล้วหรือครับ
__________________
We make a living by what we get, we make a life by what we give. (Winston Churchill) |
#5
|
|||
|
|||
อิ่มบุญคะ พี่นาย พี่จุ๋มจ๋า...
__________________
คิดดี ทำดี ชีวีเป็นสุข |
#6
|
||||
|
||||
...เที่ยง ทานอาหารกลางวันที่ร้าน western park เสร็จแล้วชมเมืองย่างกุ้ง ชมบรรยากาศและวิถีชีวิตของชาวเมือง จากนั้น สักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี ซึ่งเป็นพระนอนที่มีความสวยงามที่สุด มีขนตาที่งดงาม ที่พระบาทมีภาพมงคล 108 ประการ และพระบาทซ้อนกันซึ่งแตกต่างจากศิลปของไทย
|
#7
|
||||
|
||||
....จากนั้นเดินทางไปวัดมิตรภาพ-ไทยพม่า เพื่อถวายบาตร 28 ใบ แก่พระอาจารย์โกณฑัญญะและภิกษุสามเณรทั้งวัด รดน้ำและน้ำนมต้นมหาโพธิ์ และถวายสิ่งของต่างๆ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นาย : 14-01-2011 เมื่อ 05:53 |
#8
|
||||
|
||||
....ช่วงเย็น...ไปสักการะ พระเจดีย์ชเวดากอง พระมหาเจดีย์คู่บ้านคู่เมืองพม่า ..."ชเว" คือ ทอง ส่วน "ดากอง" คือชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง สมัยที่พระเจ้าอลองพญาสถาปนาเมืองเล็กริมฝั่งแม่น้ำแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2298 กล่าวกันว่า "ทอง" แห่งมหาเจดีย์มหาศาลกว่าทองในธนาคารแห่งอังกฤษ ซึ่งน้อยคนปฏิเสธความเป็นไปได้
................ ประวัติความเป็นมาของมหาเจดีย์องค์สำคัญนี้ ที่มีผู้ค้นคว้าและบันทึกไว้อย่างน่าอ่านก็คือ ข้อมูลจากหนังสือ "พม่า" ในชุด "หน้าต่างสู่โลกกว้าง" ............... ตามตำนานกว่า 2,500 ปี ของเจดีย์แห่งนี้กล่าวไว้ว่าเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุทั้งแปดเส้นของพระพุทธเจ้า และพระบริโภคเจดีย์ของพระอดีตพระพุทธเจ้าทั้งสามองค์ องค์สถูปหุ้มด้วยทองคำทั้งหมด 8,688 แท่ง แต่ละแท่งมีค่ามากกว่า 400 ยูเอสดอลลาร์ ปลายยอดสถูปประดับด้วยเพชร 5,448 เม็ด ทับทิม นิล และบุษราคัมอีก 2,317 เม็ด มีมรกตเม็ดเขื่องอยู่ตรงกลาง เพื่อรับลำแสงแรกและลำแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ ทั้งหมดนี้ประดับอยู่ด้านบนเหนือฉัตรขนาด 10 เมตร ซึ่งสร้างขึ้นบนไม้หุ้มทองเจ็ดเส้น ประดับด้วยกระดิ่งทองคำ 1,065 ลูก และกระดิ่งเงิน 420 ลูก รอบองค์สถูปรายล้อมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างกว่า 100 หลัง มีทั้งสถูปบริวาร วิหารทิศ วิหารราย และศาลาอำนวยการ ........... เจดีย์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยพวก บะกัน เรื่องอำนาจ พระเจ้าอโนรธา เคยเสด็จประพาสชเวดากองระหว่างการรบพุ่งทางใต้ในศตวรรษที่ 11 พระเจ้าบญาอู แห่งพะโค ก็ทรงบูรณะเจดีย์แห่งนี้ในปี พ.ศ.1925 และ 50 ปีต่อมา พระเจ้าเบียนยาเกียนก็โปรดให้ยกองค์สถูปให้สูงขึ้นไปถึง 90 เมตร ..........ผู้สืบราชบัลลังก์ต่อจาก พระเจ้าเบียนยาเกียน คือ พระนางฉิ่นซอปู้ หรือ นางพญาตะละเจ้าท้าว ได้ทรงสร้างลานและกำแพงล้อมรอบองค์สถูป และพระราชทานทองคำเท่าน้ำหนักพระองค์เอง 40 กิโลกรัม ให้นำไปตีเป็นแผ่นทองหุ้มสถูป เป็นแบบอย่างให้กษัตริย์รุ่นหลัง ๆ ทรงประพฤติปฏิบัติตาม ทั้งนี้เพราะพายุลมฝนในช่วงมรสุมนั้นโหมแรง จนทำให้แผ่นทองคำชำรุดหลุดร่วงลงมาอยู่บ่อย ๆ พระเจ้าธรรมเซดี ผู้สืบราชสมบัติต่อจากพระนางก็ได้ทรงบริจาคทองคำหนักเป็นสี่เท่าของน้ำหนักพระองค์เอง เพื่อบูรณะซ่อมแซมพระเจดีย์ .........ในปี พ.ศ.2414 พระเจ้ามินดง แห่งมัณฑะเลย์ ทรงส่งฉัตรฝังเพชรอันใหม่มาถวายเป็นพุทธบูชา มีการจัดงานฉลองและมีชาวพม่ากว่าแสนคนมาเที่ยวชมงาน พระองค์จึงทรงถือโอกาสนี้ปรารถนาเรื่องเอกราชของพม่า สร้างความไม่พอใจให้กับอังกฤษเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ..........เจดีย์ชเวดากองสัญลักษณ์ของประเทศพม่าตั้งแยู่บนเนินเขาเชียงกุตตระ สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมเมือง เพราะสูงเด่นเป็นสง่า ข้อสำคัญไม่มีตึกหรืออาคารสูงมาตั้งบดบังได้ ............เจดีย์ชเวดากองเปิดให้ชมทุกวันตั้งแต่เวลา 04.00-21.00 น. การเปิดให้เข้าชมเป็นช้าวงเวลายาวขนาดนี้ ก็เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถเข้าไปก่อนอรุณรุ่งและกลับออกมาหลังตะวันยอแสง จะได้มีเวลาชมเต็มที่ .........ตามสองข้างทางบันได เต็มไปด้วยร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางวัดให้เข้ามาตั้งแผงขายของให้กับ ผู้คนที่มาสักการะบูชาด้วยความเลื่อมใส สินค้าส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับการทำบุญและก็มีสินค้าที่ระลึกวางขายด้วย รายรอบด้วยเจดีย์องค์เล็กองค์น้อย ผู้คนจำนวนมากยังเดินทางมาที่นี่เพื่อกราบไหว้ สักการะ สรงน้ำองค์ปฏิมา และทำทักษิณาวัตร ไม่ใช่เฉพาะคนแก่คนเฒ่า แต่ทั้งเด็กเล็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ทั้งชายและหญิง พากันมาน้อมใจสู่พระรัตนตรัยที่นี่ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นาย : 12-01-2011 เมื่อ 17:42 |
#9
|
||||
|
||||
สวยมากเลยค่ะพี่นาย พี่จุ๋ม สำหรับเจดีย์ชเวดากอง....
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS |
#10
|
||||
|
||||
....ขอบคุณ ทุกๆท่านที่ติดตามชมครับ...ครูติ่ง..ชอบเจดีย์ชเวดากอง...เดี๋ยวเลือกรูปเกี่ยวกับเจดีย์ชเวดากอง และบริเวณโดยรอบให้ชมครับ
|
|
|