|
#1
|
||||
|
||||
มิงกะลาบา...จากมัณฑะเลย์สู่เมืองเอกแห่งรัฐฉาน
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 20-11-2014 เมื่อ 03:01 |
#2
|
||||
|
||||
เมื่อวันต้นเดือนพฤศจิกายน ศกนี้....สองสายตื่นแต่เช้ามืด อาบน้ำแต่งตัว แล้วก็ขนกระเป๋าเดินทางใบเขื่องไปขึ้นรถ ที่มีลูกสาวเป็นคนขับ มุ่งหน้าสู่สนามบินดอนเมือง เมื่อไปถึงอาคารผู้โดยสารขาออก....คณะของ น้องปอ...ผศ.จิตศักดิ์ พุฒจร อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ แห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้นำการท่องเที่ยวของเรา และทีมงามของบริษัท "พาเที่ยวพม่า พม่าพาเที่ยว" คอยให้บริการด้านเช็คอิน ซึ่งเราไม่ต้องทำอะไรเองเลย นอกจากลากกระเป๋าไปวางเพื่อส่งขึ้นเครื่องบินเท่านั้น ก่อนเที่ยง...เราก็ขึ้นไปนั่งสบายๆ อยู่ริมหน้าต่างบนเครื่องหางแดง ชมความงามของเมฆที่หนาแน่นลอยเหนือดินแดนของไทย ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี คุณหางแดงก็บินเข้าเขตประเทศพม่า หรือเมียนมาร์ เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงของไทยที่ดีกันบ้างทะเลาะกันบ้างมาแต่ครั้งโบราณกาล... หมายหตุ: ประเทศพม่าแบ่งเขตการปกครองในระดับภูมิภาคออกเป็น 7 เขต หรือภาค (Region) สำหรับพื้นที่ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์พม่า และ 7 รัฐ (States) สำหรับพื้นที่ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อย เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับพม่า หาอ่านได้ที่นี่ค่ะ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%...B8.AD.E0.B8.87 การไปพม่าครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สองสาย จะได้เข้าไปเที่ยวพม่าแบบเจาะลึก หลังจากเคยข้ามแม่น้ำเมยที่แม่สอด เข้าไปเดินเที่ยวที่เมืองเนเมียววดีของพม่ามาหลายครั้งหลายหนก่อนหน้านี้แล้ว เป้าหมายการท่องเที่ยวครั้งนี้ คือ เราจะบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองมัณฑะเลย์ จากนั้นจะเดินทางจากมัณฑะเลย์ไปเที่ยวเมืองต่างๆทั้งที่อยู่ในเขตมัณฑะเลย์เอง และอยู่ในเขตรัฐฉานซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันออกเฉียงใต้ของมัณฑะเลย์ ซึ่งเส้นทางการท่องเที่ยว ปรากฏอยู่ในแผนที่ข้างล่างนี้ค่ะ.... โดยสรุป...เมืองที่เราจะเดินทางไปท่องเที่ยว ประกอบด้วย...เมืองพิน อูล วิน (Pyin Oo Lwin)...สะพานรถไฟก๊กเต๊ก (Gok Teik)...เมืองสีป้อ (Hsipaw)...เมืองตองยี (Taunggyi)...เมืองยองชเว (Nyaungshwe)...ทะเลสาบอินเล (Inle Lake)...เมืองพินดายะ (Pindaya)...เมืองอังวะ (Inn Wa) และ เมืองมัณฑะเลย์ (Mandalay)
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 22-11-2014 เมื่อ 20:15 |
#3
|
||||
|
||||
พอเข้าเขตประเทศพม่า...เมฆก็เบาบางลง จนพอจะมองเห็นพื้นดินด้านล่างได้ชัดเจน เราได้เห็นเทือกเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี มีสายน้ำเล็กๆไหลคดเคี้ยวพาดผ่านจากทิศตะวันออกไปทางตะวันตก ดูเหมือนเครื่องบินจะบินตามสายน้ำเล็กๆเส้นนั้นไป จนสายน้ำเส้นเล็กไปบรรจบกับสายน้ำเส้นใหญ่ ที่เต็มไปด้วยเกาะแก่งและทะเลสาบมากมาย เรารู้ได้โดยพลันว่าสายน้ำใหญ่เส้นนั้นคือแม่น้ำ "อิรวดี (Irrawaddy River)" หรือที่ชาวพม่าออกเสียงว่า "เอยาวดี (Ayeyarwady River)" แม่น้ำสายหลักของประเทศพม่า ที่มีความยาวถึง 2,170 กิโลเมตร นั่นเอง ต้นกำเนิดของแม่น้ำเอยาวดีอยู่ในเขตนู่เจียง มณฑลยูนนาน บริเวณใกล้รอยต่อเขตแดนรัฐกะฉิ่น ประเทศพม่า บริเวณต้นน้ำมีชื่อเรียกว่า แม่น้ำเมข่า จนเมื่อไหลมารวมกับ แม่น้ำมะลิข่าที่เมืองมิตจีนา จึงเรียกแม่น้ำสายใหม่ว่า แม่น้ำอิรวดี หรือ เอยาวดี สองฝั่งที่ชุ่มชื้นของแม่น้ำสายนี้ เป็นที่ปลูกข้าวชั้นดีของพม่า ใกล้เที่ยงของเวลาพม่าที่ช้ากว่าไทยครึ่งชั่วโมง ทุ่งนาที่เห็นก็เปลี่ยนไป กลายเป็นเมืองใหญ่ที่มีบ้านเรือนปลูกสร้างอยู่หนาแน่นริมแม่น้ำเอยาวดีแทน เดาไม่ผิดแน่...เมืองนั้นคือเมือง "มัณฑะเลย์" เมืองใหญ่อันดับสองของพม่า รองจากเมืองย่างกุ้ง หรือดะโกง เมืองหลวงเก่าที่อยู่ทางใต้ใกล้ปากแม่น้ำเอยาวดี
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 22-11-2014 เมื่อ 02:41 |
#4
|
||||
|
||||
เครื่องบินร่อนต่ำลงเรื่อยๆ....รอบๆเมืองมัณฑะเลย์ ยังเป็นทุ่งนากว้างใหญ่ บริเวณหมู่บ้านเล็กๆ มองเห็นเจดีย์รูปทรงต่างๆสร้างอยู่ทั่วไป... ถนนชนบทโรยด้วยลูกรัง มีให้เห็นอยู่หลายเส้นทาง สายชลเห็นแล้วให้สงสัย ถนนเหล่านี้จะเป็นเส้นทาง ที่เราจะใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆตลอดทริปนี้หรือเปล่านะ ดีใจที่ก่อนเครื่องบินจะร่อนลงที่สนามบินมัณฑะเลย์ ได้เห็นถนนไฮเวย์ชั้นดี เลียบสนามบินไปเป็นทางยาว....
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 19-11-2014 เมื่อ 02:31 |
#5
|
||||
|
||||
และแล้ว.....เครื่องบินหางแดงก็ลงจอดที่สนามบินมัณฑะเลย์ โดยสวัสดิภาพ สนามบินมัณฑะเลย์ดูหน้าตาเหมือนกับสนามบินเชียงใหม่ของไทย มีงวงให้เครื่องบินเข้าจอดแต่ก็ไม่ใช้เหมือนดอนเมือง พอเข้าไปรอพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ที่คิวเข้าแถวยาวเหยียด เราแทบจะลมจับ เพราะที่นั่นไม่เปิดแอร์ และการระบายอากาศก็ไม่ค่อยจะดีนัก กว่าจะผ่านออกมาเพื่อรับกระเป๋าได้ ก็เสียเวลาไปเกือบชั่วโมง แปลก...ที่เราอารมณ์ไม่เสียและไม่เสียอารมณ์ เพราะทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและคนพม่าที่ทำงานอยู่ในสนามบิน (รวมทั้งในห้องน้ำ) ต่างยิ้มแย้มแจ่มใส ให้บริการจากใจกันทุกคน....
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 19-11-2014 เมื่อ 02:25 |
#6
|
||||
|
||||
วันที่ 1....มัณฑะเลย์ - พิน อูล วิน เมื่อเราเดินทางออกจากสนามบินมัณฑะเลย์...แสงแดดแผดจ้า ไร้เค้าเมฆฝนอย่างที่เราได้เห็น ตอนออกจากสนามบินดอนเมือง รถบัสชั้นดีขนาด 30 ที่นั่ง จอดคอยเราอยู่หน้าสนามบิน....เราได้พบ น้องอาร์ต และ น้องอุ๋ย (โบเดีย แห่งบล๊อก OKnation ผู้เขียนหนังสือ "พาเที่ยวพม่า พม่าพาเที่ยว") ซึ่งทั้งคู่จะเป็นไกด์ไทยของเรา รวมทั้ง โกตา เจ้าของบริษัททัวร์ที่จะคอยดูแลเราตลอดการเดินทาง และ โกธง ไกด์พม่า ที่จะสื่อสารกับเราด้วยภาษาอังกฤษที่ชัดถ้อยชัดคำ รถแล่นออกจากสนามบินไปตามถนนไฮเวย์ ขนาดไปสองเลนสวนสองเลน ซึ่งเป็นถนนเไฮเวย์หมายเลข 1 ที่เชื่อมโยงจากแม่สอดของไทย ผ่านย่างกุ้ง เนปิดอว์ มัณฑะเลย์ และมุ่งไปทางเหนือจนถึงชายแดน ที่เรียกกันในพม่าว่า NH 1 วิ่งไปได้สักพัก รถบัสก็จอดให้เราทานข้าวเที่ยงกัน ข้างๆด่านเก็บเงินค่าผ่านทางนั่นเอง อาหารจานแรกในพม่าของเรา ถือเป็นออเดิฟเรียกน้ำย่อย....มะเขือเทศกับถั่วเน่าหวาน อร่อยอย่างไม่น่าเขื่อเลยล่ะค่ะ จานที่สอง....เป็นออเดิฟอีกเหมือนกัน หอมหัวใหญ่ราดซอสพริก จานนี้สายชลไม่กล้าลอง เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีที่ให้แปรงฟันระงับกลิ่นปากหรือไม่ค่ะ แต่คนที่ทานบอกว่าอร่อยดี... จากนั้น...อาหารจานหลักก็ตามมา หน้าตาและรสชาติไม่ต่างจากอาหารไทยมากนัก มีทั้งผัดเปรี้ยวหวานหมูผักรวม ไข่เจียว
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 22-11-2014 เมื่อ 20:31 |
#7
|
|||
|
|||
สวยดีครับว่าปะ
|
#8
|
||||
|
||||
ขอบคุณดีปะเนี่ย....
__________________
Saaychol |
#9
|
||||
|
||||
อังวะ (Inwa) เมืองอังวะ (Inwa) หรือที่พม่าออกเสียงว่า อีนวะ หรืออะวะ ตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ เป็นเมืองหลวงเก่าของพม่าถึง 5 ครั้ง ทั้งในสมัยราชวงศ์อังวะ ราชวงศ์ตองอู และราชวงศ์อลองพญา เป็นระยะเวลารวม 360 ปี ในช่วงระหว่าง พ.ศ. 1908 ถึง พ.ศ.2385 (โดยมีเมืองอื่นๆได้ถูกยกขึ้นเป็นเมืองหลวงขั้นบ้าง ในระหว่างช่วงปีดังกล่าว) ในประวัติศาสตร์...เมืองอังวะผ่านการสู้รบ ถูกปล้นสะดมและฟื้นฟูมาแล้วหลายครั้ง ปัจจุบันถูกทิ้งร้าง หลังจากถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง อันเป็นผลมาจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2382 แต่ซากปรักหักพังที่เหลืออยู่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวจากมัณฑะเลย์ อังวะมีชื่อในภาษาบาลีว่า "รัตนปุระ" (พม่าเรียก ยะดะหน่าบู่ยะ) ส่วนชื่อในภาษาพม่า มีความหมายว่า "ปากทะเลสาบ" เนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของเมือง ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบในเขตอำเภอจอกเซ ข้อมูลจาก....http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%...B8%A7%E0%B8%B0
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 05-12-2014 เมื่อ 22:20 |
#10
|
||||
|
||||
จากมัณฑะเลย์...รถบัสแล่นล่องใต้ไปประมาณสัก 20 กม. ก็ถึงริมน้ำ ที่เหมือนลำคลองเล็กๆ แต่จริงๆแล้ว มันเป็นแม่น้ำที่ชื่อว่า มะยิตแง (Myitnge) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ที่กั้นระหว่างมัณฑะเลย์กับเมืองอังวะ ที่ด้านหนึ่งเชื่อมต่อกับแม่น้ำอิรวดี แม่น้ำเส้นเลือดใหญ่ของพม่า เราคงจะไปถึงเร็วไป เรือยังไม่ข้ามมาฝั่งมัณฑะเลย์ คนขับรถของเราจึงต้องบีบแตรดังสนั่น เพื่อเรียกให้คนขับเรือได้ยิน ซึ่งก็ได้ผล เพราะชายพม่าใส่โสร่งปลิว ลงจากตลิ่งสูงลงมาขับเรือไม้มีหลังคา ลำยาวสัก 15 เมตร กว้างราวๆ 2 เมตร และมีที่นั่งตามความยาวของเรือสำหรับคนสัก 20 คน แล่นมารับพวกเราข้ามแม่น้ำมะยิตแงไปยังฝั่งอังวะ
__________________
Saaychol |
|
|