|
#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2566
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 16-20 ก.ค. 66 ร่องมรสุมกำลังแรงจะพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 14 - 15 ก.ค. 66 ร่องมรสุมจะพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ทะเลมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 16 - 19 ก.ค. 66 ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดกาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และ อ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 18 ? 19 ก.ค. 66 นี้ ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 15 - 19 ก.ค. 66 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 16 ? 19 ก.ค. นี้ไว้ด้วย ****************************************************************************************************** ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 1 (185/2566) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 16 - 20 กรกฎาคม 2566) ------------------------ ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบนของประเทศไทย เข้าสู่หย่อมความกดกาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้ไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
จีนพบฟอสซิล "ปลาโบราณพันธุ์ใหม่" เก่าแก่กว่า 430 ล้านปี ผลการศึกษาจากวารสารฮิสตอริคัล ไบโอโลจี (Historical Biology) ระบุว่า คณะนักวิจัยของจีนค้นพบฟอสซิลปลากาเลียสปิด (galeaspid) สายพันธุ์ใหม่ในหมวดหินซิ่วซาน ณ มณฑลหูหนาน ทางตอนกลางของจีน ซึ่งมีอายุเก่าแก่ราว 438 ล้านปี โดยปลาสายพันธุ์นี้ เคยมีชีวิตอยู่ในยุคไซลูเรียน (Silurian) เมื่อ 410-440 ล้านปีก่อน สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองฉางซา ประเทศจีน เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ว่า หมวดหินซิ่วซาน ยุคไซลูเรียน เป็นหมวดหินทางบรรพชีวินวิทยา ที่กระจายตัวเป็นวงกว้างทางตอนใต้ของจีน โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญมองว่า หมวดหินแห่งนี้เป็นแหล่งสืบพันธุ์ที่สำคัญของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง แต่ไม่ใช่แหล่งอาศัยที่เหมาะสมสำหรับปลากาเลียสปิด รายงานระบุว่า ปลากาเลียสปิด สายพันธุ์ "ต้ายงกัสปิส โคลูบรา" (Dayongaspis colubra) ถือเป็นฟอสซิลปลาชนิดดังกล่าวกลุ่มแรก ในหมวดหินซิ่วซาน ซึ่งท้าทายมุมมองดั้งเดิมที่ว่า ปลาโบราณนี้ไม่สามารถอยู่รอดได้ในหมวดหินซิ่วซาน อนึ่ง การค้นพบนี้ยังบ่งชี้ว่า ฟอสซิลปลากาเลียสปิดกระจายตัวตั้งแต่ตอนบนของหมวดหินหรงซี จนถึงตอนล่างของหมวดหินซิ่วซาน ซึ่งบ่งชี้ช่วงลำดับชั้นหินกว้างกว่าที่เคยสันนิษฐานก่อนหน้านี้ https://www.dailynews.co.th/news/2529590/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
ตื่นตา! น้ำลด..ปะการังผุดที่เกาะละวะใหญ่ จ.พังงา ดูแต่ตามืออย่าต้อง พังงา - ตื่นตา...น้ำลดปะการังผุดที่เกาะละวะใหญ่ จ.พังงา เตือนดูแต่ตา ห้ามสัมผัสปะการัง และจับสัตว์น้ำทุกชนิดเด็ดขาด อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ชวนชมปะการังช่วงน้ำทะเลลดต่ำสุดของทุกเดือน ทำให้ที่เกาะละวะใหญ่ จ.พังงา มีแนวปะการังโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้ได้ชมกันแบบไม่ต้องดำน้ำ เป็นแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม หาดูได้ยากมาก แต่แนวปะการังดังกล่าวมีให้เห็นได้เดือนละครั้งในช่วงที่น้ำลดสูงสุดเท่านั้น ทางอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ฝากเตือนมาทุกท่านว่า "ดูแต่ตามือและเท้าอย่าต้อง" และห้ามลงไปเหยียบในแนวปะการัง ห้ามจับสัตว์ทุกชนิดที่อยู่ในแนวปะการัง โดยขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด สำหรับเกาะละวะใหญ่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวสลับกับหาดหินลักษณะแปลกตา เป็นแหล่งปะการังน้ำตื้นและหญ้าทะเลขนาดใหญ่ ที่แห่งนี้ยังมีช่วงที่น้ำทะเลลดต่ำสุดของเกาะในแต่ละเดือน ซึ่งจะมองเห็นแนวปะการังโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้เราได้ชมกัน โดยไม่ต้องดำน้ำก็สามารถชื่นชมแนวปะการังสวยๆ เหล่านี้ได้ https://mgronline.com/south/detail/9660000063530
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก Nation TV
ชาวสตูลโวย ทำอย่างนี้ได้หรือ? ก่อสร้างทับหาดปากบารา ภาคประชาสังคมสตูลตั้งคำถาม หลังพบนายทุนสร้างสิ่งปลูกสร้างทับหาดปากบารา ส่อฮุบที่สาธารณะ ด้านเจ้าท่าสตูล สั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราวแล้ว ล่าสุด นายสมบูรณ์ คำแหง นักกิจกรรมสิ่งแวดล้อม เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล ได้เผยแพร่ภาพการปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างบนพื้นที่ชายหาดปากบารา ในท้องที่ อ.ละงู จ.สตูล ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับแคปชั่น "ตอนที่เขาสั่งให้รื้อ..อย่ามาบ่นก็แล้วกันนะครับ...เพราะรู้กันมาตั้งแต่ต้นแล้วว่า ใครก็ออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ #หาดปากบารา" โดยจากภาพ แสดงให้เห็นการก่อสร้างฐานรากสิ่งปลูกสร้างทับบนพื้นที่หาดทราย ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความสงสัยว่า การก่อสร้างบนชายหาดเช่นนี้สามารถทำได้หรือไม่ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทำไมจึงปล่อยให้มีการก่อสร้างที่ส่อเจตนารุกล้ำพื้นที่สาธารณะเช่นนี้ นายสมบูรณ์ ให้สัมภาษณ์กับ สปริงนิวส์ สื่อดังในเครือเนชั่น ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาได้มีหลายกรณีที่พบกลุ่มนายทุน รุกล้ำพื้นที่ชายหาดปากบารา โดยการก่อสร้างฐานรากอาคารบนชายหาดครั้งนี้ เป็นกรณีล่าสุดที่กลุ่มทุนพยายามอ้างสิทธิเหนือที่ดินบริเวณชายหาด "ที่ผ่านมามีกลุ่มทุนหลายกลุ่มในพื้นที่ ได้แอบอ้างกรรมสิทธิเหนือที่ดินริมทะเลบริเวณชายหาดปากบารา โดยอ้างว่า แต่เดิมที่ดินตรงนี้เป็นที่ดินมีโฉนดที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนตกทะเล ดังนั้นจึงมีความพยายามอ้างสิทธิเหนือพื้นที่ชายหาด โดยการสร้างสิ่งปลูกสร้าง หรือนำต้นไม้ลงมาปลูกบนหาดทราย ถึงแม้ว่าสภาพที่ดินในปัจจุบันได้มีการเวนคืนเพื่อสร้างถนนและทางเดินเท้าเลียบชายหาดเรียบร้อยแล้ว" นายสมบูรณ์ กล่าว นายสมบูรณ์ ตั้งข้อสงสัยว่า การก่อสร้างดังกล่าวได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างหรือไม่ อย่างไร เพราะตามสภาพพื้นที่แล้วไม่น่ามีหน่วยงานไหนอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างได้แน่ เขายังได้แสดงความกังวลอีกว่า การก่อสร้างอาคารประชิดทะเลเช่นนี้ อาจเสี่ยงอันตรายในอนาคตจากคลื่นลมทะเลและพายุ จนสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ในขณะเดียวกัน นายอารีฟ สารอเอ็ง เจ้าพนักงานตรวจท่าชำนาญการ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล ได้ให้ข้อมูลว่า ทางสำนักงานเจ้าท่า จ.สตูล ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนใดๆ ต่อกรณีการก่อสร้างรุกล้ำชายหาดดังกล่าว แต่ในเบื้องต้น ทางสำนักงานเจ้าท่า ได้สั่งให้เจ้าพนักงานลงตรวจสอบในพื้นที่แล้ว และได้สั่งระงับการก่อสร้างด้วยวาจาเอาไว้ก่อน จนกว่าเจ้าของโครงการจะนำเอกสารสิทธิไปยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อถามว่า การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทับบนพื้นที่ชายหาดเช่นนี้สามารถทำได้หรือไม่ นายอารีฟ ตอบว่า ถึงแม้การก่อสร้างตามภาพจะสร้างทับอยู่บนหาดทรายชัดเจน แต่ก็ต้องตรวจสอบก่อนว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินมีโฉนด หรือพื้นที่สาธารณะที่ไม่มีโฉนด เพราะถ้าพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่มีโฉนด เจ้าของที่ดินก็มีสิทธิที่จะปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างบนพื้นที่ของตนได้ นายอารีฟ ยังกล่าวอีกว่า การปลูกสร้างในลักษณะดังกล่าว หากสร้างอยู่ในเขตพื้นที่ของตน ก็ไม่ถือว่าเป็นการรุกล้ำลำน้ำ หรือชายหาดสาธารณะแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้พื้นที่ชายหาดปากบารา ได้มีหลายกรณีขัดแย้งระหว่างกลุ่มทุน กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากมีนายทุนหลายเจ้าได้พยายามแสดงความครอบครองสิทธิบนพื้นที่ชายหาดปากบารา โดยก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง และนำต้นไม้มาปลูกบนชายหาด เพื่อแสดงขอบเขตที่ดินของตน ที่ได้อ้างว่าเป็นที่มีโฉนดที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นโฉนดตกทะเลไป https://www.nationtv.tv/gogreen/378923231
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|