เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 03-08-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนหรือฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 3 - 4 ส.ค. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ในขณะที่มีแนวลมพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกและอ่าวไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 5 ? 8 ส.ค. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 3 - 5 ส.ค. 67 ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ตลอดช่วง












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 03-08-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


'สัตว์ 6 สายพันธุ์' ค้นพบใหม่ ในขณะที่สัตว์มากกว่า 2,200 สายพันธุ์ สูญพันธุ์


KEY POINTS

- มีสัตว์สูญพันธุ์มากกว่า 2,200 สายพันธุ์ใน 160 ประเทศ แต่บางชนิด เช่น ปลาลายเสือดาวและผึ้งยักษ์ ได้ถูกค้นพบใหม่

- นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการปกป้องและฟื้นฟูธรรมชาติมีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดี สังคม และเศรษฐกิจ

- วาระการดำเนินการด้านธรรมชาติของ World Economic Forum ทำงานรวมกับภาครัฐและเอกชนเข้าด้วยกันเพื่อพยายามหยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพภายในปี 2573




ชนิดพันธุ์อาจสูญหายได้จากหลายสาเหตุ สามารถลดลงได้เนื่องจากภัยคุกคาม รวมถึงโรคภัยไข้เจ็บและการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัย พวกเขาอาจอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่นักวิทยาศาสตร์เข้าถึงได้ยาก หรืออาจมีอยู่เป็นจำนวนเล็กน้อยในภูมิภาคที่การรบกวนครั้งหนึ่งอาจกวาดล้างประชากรทั้งหมดได้ แต่ก็ยังมีข่าวดีสำหรับสัตว์อื่นๆอย่างนี่คือหกสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบอีกครั้ง


1. แมงมุมเต้นแท็ป (Tap-dancing spider)

แมงมุมประตูกลของ Fagilde ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในโปรตุเกสแผ่นดินใหญ่ ถูกพบอีกครั้งหลังจากการค้นหาอย่างอุตสาหะนานถึง 2 ปี โดยต้องรื้อพื้นที่ป่าเพื่อหาโพรงที่ปกคลุมไปด้วยไหม สิ่งนี้เผยให้เห็นโพรงที่สร้างขึ้นแตกต่างจากแมงมุมประตูกลทั่วไป และการวิเคราะห์ DNA ยืนยันว่าตัวเมียที่อาศัยอยู่ที่นั่นเป็นแมงมุมประตูกลตัวแรกของ Fagilde ที่ถูกพบเห็นในรอบ 92 ปี แมงมุมเต้นแท็ปจริงๆหรือไม่? เห็นได้ชัดว่าเป็นเช่นนั้น เมื่อพยายามดึงดูดคู่ครอง แมงมุมตัวผู้จะเต้นเป็นจังหวะที่ประตูบ้านของตัวเมีย


2. ปลาลายเสือดาว (Leopard-spotted fish)

ปลาในตำนานนี้ที่ยังมีชีวิตอยู่ในป่า หนึ่งในนักวิจัยที่รับผิดชอบในการค้นพบปลาบาร์เบลเสือดาวอีกครั้งในต้นปี 2567 ในแม่น้ำยูเฟรติสในตุรกีตะวันออก ซีเรียตะวันออก อิหร่าน และอิรัก ปลาสายพันธุ์นี้ถูกผลักดันให้ใกล้สูญพันธุ์จากปัจจัยต่างๆ เช่น มลพิษและการทำลายถิ่นที่อยู่อาศัย และได้รับการบันทึกไว้ทางวิทยาศาสตร์ครั้งสุดท้ายในปี 2554 ปลาชนิดนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในปลาที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดในโลก นักวิทยาศาสตร์ยกย่องการค้นพบครั้งนี้ว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญในการต่อสู้เพื่อปกป้องระบบนิเวศน้ำจืดของภูมิภาค


3. มังกรไร้หู (Earless dragon)

ครั้งหนึ่งเคยพบเห็นได้ทั่วไปในทุ่งหญ้าทางตะวันตกของเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย การพบเห็นมังกรไร้หูในทุ่งหญ้าวิกตอเรียครั้งสุดท้ายคือในปี 1969 จนกระทั่งถึงปี 2023 เมื่อกิ้งก่าตัวเล็กที่ไม่มีช่องหูภายนอกถูกค้นพบอีกครั้งใน ' สถานที่ลับ' สัตว์ชนิดนี้ถูกระบุว่าใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งโดยรัฐบาลท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยที่อยู่ของประชากรที่ถูกค้นพบอีกครั้ง ด้วยเหตุผลด้านการอนุรักษ์


4. ตัวตุ่นปากยาว (Long-beaked echidna)

หากพรรณนาชนิดใดได้น่าสนใจก็คงจะเป็นตัวตุ่น มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มันวางไข่ และมันถูกเรียกว่า "ฟอสซิลที่มีชีวิต" ซึ่งมีต้นกำเนิดย้อนกลับไปถึงสมัยที่ไดโนเสาร์เดินบนโลก ตัวตุ่นจงอยปากยาวของ Attenborough ได้รับการตั้งชื่อตามผู้ประกาศข่าวและนักชีววิทยาชาวอังกฤษชื่อ Sir David Attenborough เชื่อกันว่าเป็นสัตว์ที่ถูกคุกคามมากที่สุดในบรรดาตัวตุ่นปากยาวสามสายพันธุ์ หลังจากสูญหายไปจากวิทยาศาสตร์เป็นเวลา 62 ปีนับตั้งแต่พบเห็นครั้งสุดท้ายในอินโดนีเซีย ถูกค้นพบอีกครั้งในปี 2023


5. ซาลาแมนเดอร์ปีน (Climbing salamander)
ซาลาแมนเดอร์ปีนใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งได้สูญหายไปเป็นเวลา 42 ปี มันเป็นสายพันธุ์ป่าเมฆที่รู้จักกันว่า "เชี่ยวชาญในการหลบหนีความสนใจของมนุษย์" ยกเว้นสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบอีกครั้งในปี 2017 ในกัวเตมาลา ซึ่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานพบเห็นระหว่างพักรับประทานอาหารกลางวัน


6. ผึ้งยักษ์ (Giant bee)

ผึ้งตัวหนึ่งสามารถใหญ่แค่ไหน ด้วยความยาวสูงสุด 4.5 ซม. และปีกกว้าง 6 ซม. ซึ่งมีขนาดประมาณนิ้วหัวแม่มือมนุษย์โดยเฉลี่ย ผึ้งยักษ์ของวอลเลซตัวเมียนั้นมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไม่เคยพบเห็นมันในป่ามาตั้งแต่ปี 1981 และเกรงว่าจะสูญพันธุ์ แต่ในช่วงต้นปี 2019 ทีมนักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียพบสายพันธุ์นี้อีกครั้งเมื่อสิ้นสุดการเดินทางในพื้นที่ห่างไกลทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินโดนีเซีย การค้นพบครั้งนี้ได้รับการอธิบายว่าเป็น "ช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่" ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะกระตุ้นการอนุรักษ์ไว้

แม้ว่าการค้นพบสายพันธุ์เหล่านี้อีกครั้งสามารถนำไปสู่การอนุรักษ์ที่ประสบความสำเร็จ นักวิจัยบางคนตั้งข้อสังเกตว่าความพยายามมุ่งเน้นไปที่สายพันธุ์ทุกชนิด ไม่ใช่แค่สายพันธุ์ที่มนุษย์อาจมองว่ามีเสน่ห์มากกว่าเท่านั้น

เนื่องจากโลกมีการสูญเสียสายพันธุ์อย่างรวดเร็วสูงกว่าอัตราการสูญพันธุ์ตามธรรมชาติถึง 1,000 ถึง 10,000 เท่า ตามข้อมูลของ องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ระบุว่าการจัดการกับการสูญเสียและความเสื่อมโทรมของธรรมชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่น้อยเพราะว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของโลกขึ้นอยู่กับทรัพยากรธรรมชาติและบริการในระดับมากหรือปานกลาง

ที่มา : World Economic Forum


https://www.bangkokbiznews.com/environment/1138443

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 03-08-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


'ญี่ปุ่น' ประกาศ 'ห้ามโยนเหรียญ' ลงน้ำ อาจทำให้คนโชคดี แต่ทำลายพืชน้ำ
.......... โดย กฤตพล สุธีภัทรกุล

แม้จะมีคำเตือน แต่นักท่องเที่ยวยังคง "โยนเหรียญ" ลงไปในบ่อน้ำ เพราะคิดว่าจะทำให้ "โชคดี" แต่ความจริงแล้ว มันกำลังเป็นภัยคุกคามต่อพืชน้ำ



นักท่องเที่ยวในหลายประเทศมีความเชื่อว่า หากโยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำของสถานที่ท่องเที่ยวแล้วจะทำให้โชคดี สำหรับบางทีที่เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น น้ำพุเทรวี ในกรุงโรม อิตาลี ที่คนมักจะมาขอพรด้านความรัก ก็คงจะไม่อันตรายมากนัก

แต่สำหรับบ่อน้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติอย่าง "โอชิโนะฮักไก" หมู่บ้านน้ำใสแห่งภูเขาไฟฟูจิ ของญี่ปุ่นแล้ว เหรียญที่ผู้คนโยนลงไปถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศของแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งนี้

โอชิโนะฮักไก หรือ หมู่บ้านน้ำใส เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิ บริเวณทะเลสาบยามานาคาโกะ ในจังหวัดยามานาชิ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้จะมีบ่อน้ำใสสะอาดอยู่ด้วยกัน 8 บ่อ โดยเชื่อว่าน้ำในบ่อเป็นแหล่งน้ำสะอาดอันศักดิ์สิทธิ์จากภูเขาไฟฟูจิ และได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกในปี 2556

ด้วยความเชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างพากันโยนเหรียญลงไปในบ่อน้ำ เพื่อขอพรและสร้างสิริมงคลให้แก่ตัวเอง แม้จะมีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้โยนเหรียญลงในบ่อน้ำเป็น 4 ภาษา คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลีแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งความเชื่อของนักท่องเที่ยวได้ ยังคงมีเหรียญจำนวนมากกองรวมกันอยู่ในน้ำ

อาสาสมัครดำน้ำเก็บเหรียญ เปิดเผยกับสำนักข่าวญี่ปุ่น Fuji News Network ว่า เขาเก็บเหรียญมาหลายปีแล้ว โดยเหรียญบางกองมีความสูงถึง 1 เมตร และเมื่อเหรียญลงไปในน้ำแล้ว เหรียญจะปนกับโคลนที่ก้นบ่อน้ำ ทำให้กำจัดเหรียญเหล่านี้ออกไปได้ยาก

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ห้ามโยนเหรียญ เนื่องจากเชื่อว่าโลหะเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ ปัจจุบันจำนวนพืชในน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง จากประเพณีการโยนเหรียญที่ปฏิบัติกันมาหลายปี

จากการศึกษาของทีมนักวิจัยในสหภาพยุโรปในปี 2020 พบว่า การโยนเหรียญลงในบ่อน้ำหรือน้ำพุ อาจทำให้เกิดการสะสมของอนุภาคโลหะที่มีจุลินทรีย์ปนเปื้อนในน้ำได้ อีกทั้งยังพบว่าชุมชนจุลินทรีย์ที่อยู่บนเหรียญนั้นมีลักษณะแตกต่างจากชุมชนจุลินทรีย์ในแหล่งน้ำ โดยตรวจพบยีนต้านทานยาปฏิชีวนะ (ARG) บนเหรียญส่วนใหญ่ ดังนั้นการโยนเหรียญจึงเป็นแหล่งที่มาและพาหะที่เป็นไปได้สำหรับ ARG สู่สภาพแวดล้อมโดยรอบ

ตามกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น กำหนดโทษสำหรับคนที่โยนเหรียญใส่บ่อน้ำของหมู่บ้านโอชิโนะฮักไก ระวางโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับสูงสุด 1 ล้านเยน หรือประมาณ 233,900 บาท

Fuji News Network ตั้งกล้องบันทึกภาพบ่อน้ำแห่งหนึ่งของหมู่บ้านน้ำใสภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง พบว่ามีนักท่องเที่ยว 5 กลุ่ม โยนเหรียญลงในบ่อน้ำ โดยนักท่องเที่ยวกล่าวว่าไม่รู้ว่าห้ามโยนเหรียญลงน้ำ เพราะเห็นมีแต่เหรียญอยู่เต็มสระน้ำ

เจ้าหน้าที่ที่ดูแลบ่อน้ำสังเกตเห็นว่า ในปี 2024 มีการโยนเหรียญ 500 เยน ลงบ่อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลง และแสดงให้เห็นถึงความปรารถนาอันแรงกล้าของพวกเขา เพราะเหรียญ 500 เยนถือเป็นเหรียญที่มีมูลค่ามากที่สุด

ในขณะนี้หมู่บ้านโอชิโนะฮักไก กำลังมองหาวิธีอื่นนอกเหนือจากการสร้างป้ายเตือน เพื่อหยุดพฤติกรรมการโยนเหรียญของนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นักท่องเที่ยวทำพฤติกรรมทำลายสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่น (ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ)

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 จังหวัดยามานาชิต้องขึงผ้าสีดำขนาดใหญ่ขนาดสูง 2.5 เมตร และยาว 20 เมตร บริเวณร้านสะดวกซื้อ Lawson เพื่อบดบังทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิ หลังจากที่นักท่องเที่ยวมารวมตัวกันเพื่อถ่ายรูปที่หน้าร้าน จนกีดขวางการจราจร และทำให้การดำเนินชีวิตของคนท้องถิ่นไม่สะดวกสบาย

ขณะที่วัดเซ็นโซจิ ในจังหวัดไซตามะ ได้ประดิษฐาน "พระโพธิสัตว์" สำหรับวางเหรียญกษาปณ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยววางเหรียญนำโชคตามความเชื่อไว้บนฐานของรูปปั้น แทนที่จะโยนลงในสระน้ำ ซึ่งจะไปรบกวนสัตว์ทะเลและถิ่นที่อยู่ของพวกมัน

ที่มา: Fuji News Network, South China Morning Post


https://www.bangkokbiznews.com/environment/1138486

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 03-08-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


เต่ากระ "แม่เพรียง" ขึ้นวางไข่ 91 ฟองบนอ่าวเทียน

เต่ากระ "แม่เพรียง" ขึ้นวางไข่ 91 ฟอง บริเวณอ่าวเทียนของเกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นเคลื่อนย้ายรังไปยังบ่ออนุบาลมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม



นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายเอกฤทธิ์ ดวงมาลา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2567 เวลา 23.10 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม เดินลาดตระเวนบนพื้นที่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์

พบเเม่เต่ากระ ชื่อ "แม่เพรียง" หมายเลขไมโครชิพ 933.076400505267 ขึ้นวางไข่บริเวณอ่าวเทียนของเกาะทะลุ จำนวน 1 รัง เป็นรังที่ 6 ของปี 2567 อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของอุทยานฯ

สำหรับแม่เพรียง มีขนาดลำตัวกระดองกว้าง 77 เซนติเมตร ยาว 89 เซนติเมตร วางไข่ 91 ฟอง ขนาดของหลุมกว้าง 27 เซนติเมตร ลึก 39 เซนติเมตร ห่างจากน้ำทะเล 8 เมตร

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายรังไปยังบ่ออนุบาลของมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยาม เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางธรรมชาติ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฝ้าระวังและเก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง


https://www.thaipbs.or.th/news/content/342649

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 03-08-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


ญี่ปุ่นผุดวิธีเปลี่ยน 'พลาสติก' เป็น 'น้ำมันดิบ' แก้ปัญหาขยะล้นเมือง



ญี่ปุ่นเตรียมบอกลาปัญหาขยะพลาสติกล้นเมือง ด้วยการนำพวกมันมาเปลี่ยนให้เป็นน้ำมันดิบที่มีมูลค่า และคาดว่าจะมามารถนำไปต่อยอดในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้อย่างมีคุณภาพ

รู้ไหมว่า ในทุก 1 นาที มีขวดพลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นขยะมากกว่า 1 ล้านขวดทั่วโลก ยังไม่นับพลาสติกอื่น ๆ ที่ถูกใช้แล้วทิ้งในชีวิตประจำวัน นั่นทำให้ปัญหาขยะพลาสติกกลายเป็นวิกฤติที่ทั่วโลกต้องเร่งแก้ปัญหา

ล่าสุด ญี่ปุ่นกำลังเป็นหัวหอกด้วยการยกระดับการรีไซเคิลพลาสติกไปอีกขั้น เมื่อบริษัท Environment Energy กำลังวางแผนปฏิวัติอุตสาหกรรมรีไซเคิลพลาสติก ด้วยการเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็น 'น้ำมันดิบ' และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2568

แทนที่จะนำไปรีไซเคิลด้วยเครื่องจักรที่จะบดพลาสสติกเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ พวกเขาจะใช้เทคโนโลยี HICOP (การผลิตน้ำมันประสิทธิภาพสูง) ที่ล้ำสมัย ซึ่งจะแยกชิ้นส่วนประกอบของพลาสติกก่อนควบแน่นก๊าซให้กลายเป็นน้ำมันดิบ

จุดประสงค์หลักของพวกเขาคือการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยการนำขยะพลาสติกมาเปลี่ยนให้เป็นวัตถุดิบที่มีมูลค่า และคาดหวังว่าจะสามารถนำไปต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายที่มีคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม กระบวนการดังกล่าวยังต้องอาศัยการคัดแยกขยะจากครัวเรือนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้มีขยะแปลกปลอมอื่น ๆ ปะปนมากับขยะพลาสติกที่พวกเขาต้องการ

ที่มา: Deccanherald


https://www.springnews.co.th/keep-th...ainable/851892

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 03-08-2024
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,160
Default


ขอบคุณสำหรับข่าวทะอลและสิ่งแวดล้อม ที่มาให้อ่านทุกยามเช้าค่ะ?

__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:35


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger