|
#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย บริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันเพิ่มขึ้น เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 2? 3 ก.พ. 67 ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีอุณหภูมิลดลง 2 ? 5 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2 ? 4 องศาเซลเซียส กรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 ? 3 องศาเซลเซียส ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 4 - 7 ก.พ. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือและภาคกลาง ทำให้ภาคเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีอุณหภูมิลดลง 1 ? 2 องศาเซลเซียส ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
อุทยาน-ทช.บินสำรวจ "ฉลามวาฬ" พลัดหลงใกล้ฝั่งเกาะเสม็ด อุทยาน-ทช.สำรวจ "ฉลามวาฬ" พลัดหลงใกล้ฝั่งเกาะเสม็ด อวดโฉมนักท่องเที่ยวบนชายฝั่ง บินโดรนสำรวจคลุมรัศมีอ่าวน้อยหน่า เกาะปลายตีน เกาะกุฎี เกาะจันทร์ ขอความร่วมมือเรือประมงระวัง กรณีพบฉลามวาฬขนาดใหญ่ ว่ายเข้าใกลชายฝั่งเกาะเสม็ด อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ซึ่งถือว่าใกล้ชายฝั่งมากจนทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างพากันถ่ายคลิปจนเกิดกระแสในโลกออนไลน์ วันนี้ (1 ก.พ.2567) นายประยูร พงษ์พันธ์ อดีตหัวหน้าอุทยานเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ให้สัมภาษ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า คาดว่าฉลามวาฬตัวนี้อาจจะเป็นตัวเดียวกับที่เคยเจอตัวช่วงปี 2562-2563 โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่กลับจากปฎิบัติหน้าที่ราว 10 คน ต่างหยิบมือถือมาถ่ายคลิปด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากพบฉลามวาฬขนาด 3-4 เมตรว่ายมาใกล้ท่าเรือเขาแหลมหญ้า และใกล้เรือเจ้าหน้าที่ที่กลับจากการทำงาน "เจ้าหน้าที่เขาแหลมหญ้าสัก 10 คนบนสปีดโบ๊ทโดยเฉพาะผู้หญิงกรี๊ดสนั่น และเอามือถือมาถ่ายคลิปฉลามวาฬกันยกใหญ่ เพราะถือว่าเจอตัวใกล้มาก" อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวอีกว่า จากนั้นก็พบว่าฉลามวาฬตัวนี้มักจะมีพื้นที่หากินบริเวณเกาะมันใน เกาะมันนอก เกาะจันทร์ เกาะเสม็ด และเกาะช้าง ซึ่งตอนนั้นอยู่ในช่วงโควิดระบาดไม่มีกิจกรรมท่องเที่ยวรบกวน ทะเลสงบ และน่าจะมีอาหารชุกชุม ขณะที่อุทยานเขาแหลมหญ้าฯ ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการอุทยานเเห่งชาติทางทะเลที่ 4 จ.ตราด ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามสัตว์ทะเลหายาก ปลาฉลามวาฬ โดยนำเรือสำรวจ เเละใช้โดรนบินสำรวจ และสอบถามชาวประมงในบริเวณพื้นที่ครอบคลุมอ่าวน้อยหน่า เกาะปลายตีน เกาะกุฎี เกาะจันทร์ แต่ยังไม่พบฉลามวาฬตัวดังกล่าวที่ว่ายน้ำเข้ามาบริเวณหน้าหาด และขอความร่วมมือเรือประมงระมัดระวัง อาจารย์ธรณ์ ประเมินไม่บาดเจ็บแค่พลัดหลง ด้านนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กว่า ฉลามบุกพร้อมระบุว่า บุกเข้ามาหน้าหาดเกาะเสม็ด แถมยังเป็นฉลามวาฬ บอกตามตรง ยังไม่เคยเห็นฉลามวาฬเข้าตื้นขนาดนี้มาก่อน ถ้าน้องไม่ป่วยไม่เกยตื้น แต่ดูจากคลิปแล้ว ไม่น่าเป็นอะไร อย่างไรก็ตาม ต้องลองดูต่อไป แต่ไม่คิดว่าจะเกยตื้น เพราะสะบัดตัวนิดเดียวก็ออกที่ลึกไปแล้ว หาดเกาะเสม็ด ยังเป็นหาดเปิดสู่ทะเล ไม่ได้เป็นอ่าวลึกซับซ้อนที่จะหลงทางติดตื้นตอนน้ำลงได้ เพราะฉะนั้น ยังบอกไม่ได้ว่าน้องจะขึ้นมาทำไม คนที่อยู่ตอนนั้น โชคดีสุดๆ พร้อมระบุว่า ช่วงนี้มีรายงานฉลามวาฬ แถวระยองเป็นระยะ แต่ปกติว่ายอยู่รอบๆ กองหินน้ำลึก เช่น หินเพลิง อาจว่ายเพลินๆ หลุดเข้ามา พอรู้ตัวก็รีบออกไป คงไม่ต้องเป็นห่วงมาก เท่าที่ดูไม่เห็นขยะเห็นเชือกรัดพัน เชื่อว่าเธอคงไม่เป็นอะไรครับ สำหรับฉลามวาฬ เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่มีนิสัยไม่ดุร้าย และไม่เป็นภัยอันตรายต่อมนุษย์ และได้รับฉายาจากนักว่ายน้ำว่าเป็นยักษ์ใหญ่ใจดีใต้ท้องทะเล มักพบเห็นพฤติกรรมว่ายวนรอบเรือ และขึ้นมากินอาหารบริเวณผิวน้ำ โตเต็มที่อาจมีความยาวมากถึง 21 เมตร และหนักได้ถึง 42 ตัน แต่ขนาดที่พบโดยทั่วไป 5-10 เมตร ส่วนอายุที่เคยบันทึกได้ประมาณ 80.4 ปี ปัจจุบันฉลามวาฬได้รับการคุ้มครอง ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 โดยได้รับการประกาศเป็นสัตว์ป่าสงวนของประเทศไทย เมื่อวันที่ 29 พ.ค.2562 สำหรับคลิปดังกล่าวผู้ใช้เฟซบุ๊ก Bas Jirawat Deeraksa โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 25 วินาทีที่สุดแสนตื่นเต้น เนื่องจากฉลามวาฬ ว่ายใกล้ชายฝั่งท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ ต่างพากันอุทานและถ่ายคลิป ขณะที่ยังมีรายงานพบฉลามวาฬในหลายพื้นที่ของไทย เช่นเมื่อวันที่ 16 ก.พ.2563 ฉลามวาฬความยาวกว่า 4 เมตร ว่ายน้ำอวดโฉมนักท่องเที่ยว ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จ.กระบี่ โดยฉลามวาฬตัวดังกล่าวว่ายปรากฏตัวอยู่นานกว่า 20 นาทีก่อนจะดำดิ่งลงสู่ท้องทะเลหายไป นอกจากนี้ ยังพบฉลามวาฬที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณกองหินชุมพร ที่เป็นกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่ 4 กอง และเป็นจุดดำน้ำที่ดีที่สุดสวยงามแห่งหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า มีระดับน้ำความลึกสูงสุดที่ 40 เมตร และช่วงวันที่ 12 เม.ย.2565 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จ.ตรัง โชว์ภาพ "ฉลามวาฬ" ยักษ์ใหญ่ใจดี โผล่มาให้เห็นต้อนรับวันสงกรานต์อีกด้วย https://www.thaipbs.or.th/news/content/336581
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|