|
#1
|
||||
|
||||
เต่าตนุ
เต่าตนุ ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณหาดบ้านแหลมกุ่ม ตำบลทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พากันมุงดูเต่าตนุ ขนาดลำตัวยาว 86 ซ.ม. กว้าง 70 ซ.ม. หนักถึง 48 กิโลกรัม ซึ่งติดมากับอวนชาวประมง น่าตื่นเต้นตรงที่ เต่าตัวนี้เป็นเต่าท้องแก่ มีไข่นับร้อยฟองอยู่เต็มท้อง ชาวบ้านต้องช่วยกันนำตัวใส่ถังน้ำ ก่อนส่งให้เจ้าหน้าที่ประมงปล่อยคืนกลับสู่ท้องทะเล เหตุการณ์ลักษณะนี้ เคยเกิดขึ้นที่ชายหาดบ้านแหลมกุ่ม เมื่อปีที่ผ่านมา ครั้งนั้น ชาวบ้านซึ่งกำลังเดินทางไปตกปลากับครอบครัว พบซากลูกเต่าตนุ 1 ตัวที่ชายหาด เมื่อขุดลงไปในดินก็พบลูกเต่ากำลังแหวกว่ายออกจากทรายอีกนับร้อยตัว จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ประมงลงมาสำรวจ เป็นครั้งแรกที่นักวิชาการบันทึกไว้ว่า พบแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลบริเวณชายหาดฝั่งอ่าวไทย ขณะที่ก่อนหน้านี้พบเพียง 2 พื้นที่ คือ ที่เกาะคราม จ.ชลบุรี และเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช เต่าทะเลเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ มีหลักฐานว่าอยู่อาศัยทั่วไปมากว่า 130 ล้านปีแล้ว การแพร่กระจายของเต่าทะเล พบเฉพาะในเขตร้อนและเขตอบอุ่น ทั่วโลกพบเต่าทะเลอยู่ 8 ชนิด คือเต่ามะเฟือง (Dermochelys coriacea) เต่ากระ (Erethmochelys imbricata) เต่าตนุ (Chelonia mydas) เต่าตนุหลังแบน (Chelonia depressa) เต่าหัวค้อน (Caretta Caretta) เต่าหญ้า (Lepidochelys olivacea) เต่าหญ้าแอตแลนติก (Lepidochelys kempii) และเต่าดำ (Chelonia agassizii) ในประเทศไทย พบเต่าทะเลอาศัย อยู่ 5 ชนิด คือ เต่ากระ เต่าหญ้า เต่ามะเฟือง เต่าหัวค้อน และเต่าตนุ เต่าตนุเป็นเต่าทะเลกระดองแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด จัดเป็นสัตว์หายาก ใกล้สูญพันธุ์ ตามบัญชีในอนุสัญญาไซเตส บัญชีที่ 1 ลักษณะเด่น คือ มีเกล็ดบนส่วนหัวตอนหน้า จำนวน 1 คู่ และเกล็ดบนกระดองแถวข้างอีก 4 เกล็ด ขอบเกล็ดจะเชื่อมต่อกัน สีสันและลวดลายสวยงาม กระดองมีสีน้ำตาลแดงอมเขียว มีลายเส้นสีน้ำตาลเป็นแฉกๆ คล้ายแสงอาทิตย์ ขณะที่ขอบกระดองและขามีสีเหลืองอ่อนๆ เต่าตนุชอบอาศัยอยู่ในแนวปะการังที่เงียบสงบ และวางไข่บนชายหาดที่ปราศจากการรบกวนของมนุษย์ ช่วงเวลาวางไข่ คือระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ แต่ละฤดูจะวางไข่ได้หลายชุด แต่ละชุดเว้นระยะห่างประมาณ 7-10 วัน เต่าตนุที่โตเต็มวัยจะวัดขนาดกระดองได้ 90-100 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 110-180 กิโลกรัม กินพืชทะเลพวกสาหร่ายและหญ้าทะเล เป็นอาหาร ชะตากรรมของเต่าตนุ นอกจากจะเสียชีวิต เพราะติดอวนของชาวประมงแล้ว เมื่อวางไข่ที่ชายหาดก็ยังมีคนแอบขโมยไปขาย เพราะเนื้อและไข่ของเต่าตนุ ที่เรียกกันว่า "ไข่จะละเม็ด" บางคนนิยมนำมากินเป็นอาหาร ด้วยเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เต่าในท้องทะเลไทยลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมามีความพยายามศึกษาวงจรชีวิตของเต่าตนุ ด้วยการติดเครื่องมือสื่อสารส่งสัญญาณดาวเทียม หรือไมโครชิพที่กระดองเต่า ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ข้อมูลที่ได้จะบอกว่า เต่าชนิดนี้มีวิถีชีวิตเช่นไร ชอบอาศัยอยู่ในอุณหภูมิแบบไหน และเดินทางไปตามเส้นทางใดบ้าง ทั้งหมดนี้จะใช้เป็นแนวทางในการวางแผนฟื้นฟู และอนุรักษ์เต่าทะเลไทยให้คงอยู่ต่อไป จาก : ข่าวสด คอลัมน์ ที่13 วันที่ 6 กรกฎาคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
มารณรงค์เลิกกินไข่เต่าดีกว่าครับพี่น้อง ..
__________________
If we see the hearts of others, peace will follow You may say I'm a dreamer .. but I'm not the only one: John Lennon |
#3
|
||||
|
||||
แต่ ปลากริมไข่เต่า กินได้ชิมิ ^.^
__________________
: : ★ เงือกสีส้มจี๊ด : : ★ \( ̄︶ ̄)> ❤ Wish I could be .. Part Of That World ( From OST. ♪ SONG ♬ "The Little Mermaid" ) |
#4
|
||||
|
||||
ไม่รับประทานไข่เต่า...แต่ชอบปลากริมไข่เต่า อยากทานมากๆ....แต่หาซื้อไม่ได้อ่ะค่ะ...
__________________
Saaychol |
#5
|
||||
|
||||
Udomlert
ไอ้ปื้ด... จัดการด่วน
__________________
We make a living by what we get, we make a life by what we give. (Winston Churchill) |
|
|