|
#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันเริ่มมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1?2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลดันดามันเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 22 - 26 พ.ค. 67 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น และมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1?2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดการเดินเรือ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์น้อย เนื่องจากมีฝนตกหลายพื้นที่ และการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 20 - 22 พ.ค. 67 ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะเริ่มมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับในช่วงวันที่ 22 - 25 พ.ค. 67 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง จะมีกำลังแรงขึ้น และมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 20 ? 25 พ.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ตลอดช่วง ****************************************************************************************************** ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ฉบับที่ 3 (95/2567) ในช่วงวันที่ 20 - 23 พ.ค. 67 ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในช่วงวันที่ 22 - 26 พ.ค. 67 หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างจะทวีกำลังแรงขึ้น และมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 21 - 26 พ.ค. 67 โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร สำหรับอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1?2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดการเดินเรือ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
เวเนซุเอลาประเทศแรกของโลกที่ไม่เหลือธารน้ำแข็ง ตรงตามข้อมูลวิจัย "ธารน้ำแข็งครึ่งหนึ่งบนโลก จะละลายหายหมดภายในปี 2100" จากข้อมูลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ Science (5 January 5 2023) ที่ได้เผยว่าธารน้ำแข็งครึ่งหนึ่งบนโลกของเราอาจละลายหายไปหมดภายในปี 2100 ซึ่งก็อาจเป็นไปตามข้อมูลวิจัยจริงๆ เนื่องจากข้อมูลการศึกษาธารน้ำแข็งในปัจจุบันได้เผยว่า ประเทศเวเนซุเอลา ได้กลายเป็นประเทศแรกของโลกที่ไม่เหลือธารน้ำแข็งที่มีอยุ่แล้ว เมื่อครั้งอดีต ประเทศเวเนซุเอลาเป็นประเทศ มีธารน้ำแข็งตั้งอยู่ถึง 6 แห่ง โดยธารน้ำแข็ง 5 แห่งได้ละลายหายไปแล้วภายในปี 2011 เหลือเพียง ?ธารน้ำแข็งฮุมโบลดต์" (Mountain Humboldt Glacier) ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Sierra Nevada สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 5,000 เมตร ซึ่งปัจจุบันในปี 2024 นี้ ธารน้ำแข็งแห่งนี้ได้กลายเป็นความทรงจำไปแล้ว เนื่องจากมีการละลายอย่างรวดเร็วขึ้น 5 เท่า ฮูลิโอ ซีซาร์ เซนเตโน ที่ปรึกษาการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา (UNCED) เปิดเผยว่า เวเนซุเอลาไม่มีธารน้ำแข็งอีกแล้ว สิ่งที่เหลืออยู่คือส่วนน้ำแข็งในสัดส่วน 0.4% ของธารน้ำแข็งเดิม และ ทางโครงการริเริ่มด้านสภาพภูมิอากาศแห่งไครโอสเฟียร์นานาชาติ ICCI องค์กรกำหนดนโยบายเพื่อปกป้องภูมิภาคน้ำแข็ง ได้เผยว่าสภาพในปัจจุบันของธารน้ำแข็งฮุมโบลดต์ ธารน้ำแข็งแห่งสุดท้ายของประเทศมีเล็กเกินไปที่จะเป็นธารน้ำแข็ง และถูกจัดประเภทให้ให้ลดลงเป็น "ทุ่งน้ำแข็งแทน" แม็กซิมิเลียโน เอร์เรรา นักอุตุนิยมวิทยาและนักประวัติศาสตร์สภาพอากาศ ผู้เก็บรักษาบันทึกเหตุการณ์อุณหภูมิสุดขั้วทางออนไลน์ ได้เผยข้อมูลว่า ประเทศที่มีแนวโน้มที่จะปราศจากการมีธารน้ำแข็งในประเทศ คือ อินโดนีเซีย เม็กซิโก สโลวีเนีย ซึ่งเกาะปาปัวของอินโดนีเซียและเม็กซิโกประสบกับภาวะอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะเร่งการละลายของธารน้ำแข็งเร็วขึ้น ธารน้ำแข็งฮุมโบลดต์ ธารน้ำแข็งแห่งสุดท้ายของเวเนซุเอลาไม่ค่อยมีน้ำแข็งปกคลุมมาตั้งแต่ปี 2000 แม้ว่าจะไม่มีมาตรฐานสากลกำหนดปริมาณน้ำแข็งขั้นต่ำของธารน้ำแข็ง แต่สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ ระบุว่า โดยทั่วไปแล้วจะกำหนดกันว่าธารน้ำแข็งจะต้องมีน้ำแข็งอย่างน้อยประมาณ 10 เฮกตาร์ หรือ 0.1 ตารางกิโลเมตร แม้รัฐบาลเวเนซุเอลาจะไม่ได้นิ่งนอนใจและมีความพยายามจะรักษาธารน้ำแข็งเอาไว้ ด้วยการใช้ผ้าคลุมกันความร้อนคลุมน้ำแข็งที่เหลือหวังว่าจะขัดขวางหรือย้อนกระบวนการละลาย แต่โครงการดังกล่าวถูกนักวิทยาศาสตร์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก พร้อมเตือนว่าอนุภาคพลาสติกจากวัสดุที่ใช้คลุมน้ำแข็งอาจจะปนเปื้อนน้ำแข็งได้ และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้น้ำแข็งที่ละลายไปแล้วกลับมาได้เหมือนเดิม เนื่องจากเมื่อธารน้ำแข็งหายไป แสงแดดจะทำให้พื้นดินร้อนขึ้น และอากาศจะอุ่นขึ้นมาก จนน้ำแข็งไม่ได้สามารถก่อตัวได้เลยในช่วงฤดูร้อน การสูญเสียธารน้ำแข็งในเวเนซุเอลาเท่ากับว่าเราได้สูญเสียบริการทางระบบนิเวศมากมายที่ธารน้ำแข็งมอบให้ ตั้งแต่แหล่งที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ไปจนถึงสภาพแวดล้อมที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม และธารน้ำแข็งยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นแหล่งน้ำจืดให้แก่ชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศร้อน และแห้ง เมื่อน้ำแข็งละลายไปหมดแล้ว อาจทำให้ชาวบ้านละแวกนั้นขาดแคลนน้ำ และต้องรอให้ฝนตกอย่างเดียว ข้อมูล ? รูปอ้างอิง - sciencedaily.com - nationalgeographic.com - theguardian.com - atlasobscura.com/ https://mgronline.com/science/detail/9670000043187
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
ผวาซ้ำเติมปัญหาสิ่งแวดล้อมระยอง หลังพบคราบน้ำมันจำนวนมากลอยในทะเลหาดหนองแฟบ ต.มาบตาพุด ระยอง - ผผวาซ้ำเติมปัญหาสิ่งแวดล้อม หลังชาวประมงระยองพบคราบน้ำมันจำนวนมากลอยเหนือผิวน้ำทะเลหนองแฟบ ต.มาบตาพุด ด้านผู้ว่าฯ กนอ.สั่งหน่วยงานในพื้นที่เข้าตรวจสอบเป็นการด่วน วันนี้ (19 พ.ค.) นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) จ.ระยอง ได้รับแจ้งจากชาวประมงในพื้นที่ ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง ว่า พบคราบน้ำมันจำนวนมากลอยเหนือผิวน้ำท่าเรือ LNG หาดหนองแฟบ จึงรายงานให้ นายวีริศ อมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรับทราบ กระทั่งได้มีคำสั่งการให้สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด นำเรือออกตรวจสอบและไปขจัดคราบน้ำมันในทันที ขณะที่เจ้าหน้าที่ท่าเรือ C41 สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด และบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTT LNG) หนองแฟบ ได้จัดทีม CSR ลงตรวจสอบหน้างานและเข้าพบปะชาวบ้านในชุมชนที่ทำการชุมชนหนองแฟบ โดยคาดว่าคราบน้ำมันดังกล่าวถูกพัดมาจากทิศทางใต้ขึ้นเหนือ และอาจจะมาจากจุดที่เรือทิ้งสมอบริเวณทิศใต้ที่อยู่ใกล้บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี ซึ่งหากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไป https://mgronline.com/local/detail/9670000043146
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
กลายเป็นภาพน่ารัก พะยูนตัวน้อย พร้อมพ่อแม่ ออกหากินหญ้าที่ทะเลกระบี่ กระบี่ - ครอบครัวอบอุ่น! พะยูนตัวน้อย พร้อมพ่อแม่ออกหากินหญ้าที่ทะเล หน้าหาดนพรัตน์ธารา อุทยานพีพี จ.กระบี่ นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เปิดเผยว่า อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ได้ดำเนินการสำรวจและติดตามพฤติกรรมพะยูนหน้าหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ โดยใช้วิธีการบินสำรวจ (Aerial Survey) จากอากาศยานไร้คนขับ (UAV-drone) เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา การสำรวจเบื้องต้น พบพะยูน จำนวน 3 ตัว เป็นพะยูนตัวเต็มวัย จำนวน 2 ตัว และลูกพะยูน จำนวน 1 ตัว คาดว่าเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูก ซึ่งจากการสังเกตด้วยสายตาพบว่าพะยูน แสดงพฤติกรรมว่ายน้ำหาอาหารบริเวณที่มีแหล่งหญ้าทะเล โดยมีลูกพะยูนตัวน้อยว่ายน้ำเคียงข้าง นายยุทธพงค์ กล่าวอีกว่า อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ได้มีประกาศอุทยานแห่งชาติ ว่าด้วยมาตรการและข้อปฏิบัติในการอนุรักษ์พะยูนและแหล่งหญ้าทะเล ฉบับลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 โดยขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการนำเที่ยว ประชาชน และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ยานพาหนะในการสัญจรทางน้ำให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือ และชะลอความเร็วเรือลงขณะเข้าปากร่องน้ำ หรือเข้าใกล้พื้นที่แหล่งหญ้าทะเล ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติได้มีทุ่นติดธงสีเหลืองแสดงสัญลักษณ์แนวเขตชะลอความเร็วเรือ อยู่บริเวณขอบเขตแหล่งหญ้าทะเล สำหรับพื้นที่ที่มีแหล่งหญ้าทะเล ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 3 นอต และไม่เกิน 20 นอต ในพื้นที่ชายฝั่งที่เป็นเขตการแพร่กระจายของพะยูน นายยุทธพงค์ กล่าวด้วยว่า ลูกพะยูนจะต้องอาศัย "น้ำนมแม่" เป็นอาหารหลัก หากแม่พะยูนตายหรือพลัดหลงกับลูก ในขณะที่ลูกพะยูนยังตัวเล็กมาก ลูกพะยูนจะไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ในธรรมชาติได้เลย เราทุกคนจึงต้องช่วยกันให้พะยูนน้อยตัวได้เติบโตอยู่เคียงข้างท้องทะเลไปนานๆ https://mgronline.com/south/detail/9670000043129
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
อุทยานฯ เผยคลิปพะยูน หากินเขาสามหน่วย อช.หาดนพรัตน์ธาราฯ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาด?นพรัตน์?ธารา?-หมู่เกาะ?พี?พี? เผยคลิปวีดีโอจากวิธีการบินสำรวจ จากอากาศยานไร้คนขับพบพะยูน จำนวน 3 ตัว เป็นพะยูน ตัวเต็มวัย จำนวน 2 ตัว และลูกพะยูน จำนวน 1 ตัว ว่ายน้ำหาอาหารบริเวณที่มีแหล่งหญ้าทะเล แสดง?ถึง?ความอุดม?สมบูรณ์?ของพื้นที่? วันนี้ (19 พ.ค.) เพจ"ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้เผยคลิปวีดีโอ พะยูนขณะหากินอาการ โดยระบุข้อความว่า ?เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาด?นพรัตน์?ธารา?-หมู่เกาะ?พี?พี? สำรวจและติดตามประชากรพะยูน โดยใช้วิธีการบินสำรวจ (Aerial Survey) จากอากาศยานไร้คนขับ (UAV-drone) บริเวณเขาสามหน่วย หาดนพรัตน์ธารา หมู่ที่ 5 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ จากการสำรวจเบื้องต้น พบพะยูน จำนวน 3 ตัว เป็นพะยูน ตัวเต็มวัย จำนวน 2 ตัว และลูกพะยูน จำนวน 1 ตัว ซึ่งจากการสังเกตด้วยสายตา พบว่าพะยูนแสดงพฤติกรรมว่ายน้ำหาอาหารบริเวณที่มีแหล่งหญ้าทะเล แสดง?ถึง?ความอุดม?สมบูรณ์?ของพื้นที่? และ?เจ้า?หน้าที่?ยังคงเข้มงวดในการเฝ้าระวังความปลอดภัย?ของ?พะยูน?และ?สัตว์?ทะเล?หา?ยาก?ในพื้นที่?ต่อไป ที่มา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ส่วนอุทยานแห่งชาติ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช https://mgronline.com/onlinesection/.../9670000043249
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
กรมทะเลช่วยรักษา "เต่าตนุ" อ่าวไผ่ หลังพบมีการอักเสบของระบบทางเดินหายใจ-กล้ามเนื้อ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้รับแจ้งพบเต่าทะเลป่วย บริเวณอ่าวไผ่ พบเป็นเต่าตนุ มีการอักเสบของระบบทางเดินหายใจและระบบกล้ามเนื้อ สัตวแพทย์ให้ยาลดการอักเสบ ลดปวด สารน้ำ และจะทำการตรวจโดยละเอียดต่อไป วันนี้ (19 พ.ค.) เพจ ?กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง? กรมทะเล ได้รับแจ้งพบเต่าทะเลป่วย บริเวณอ่าวไผ่ ตำบลเกาะหมาก อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก (ศวทอ.) ได้รับแจ้งจากคุณนพดล สุทธิธนกูล ประธานกลุ่มอนุรักษ์ปะการังเกาะหมาก จังหวัดตราด เรื่องพบเต่าทะเลป่วย บริเวณอ่าวไผ่ ตำบลเกาะหมาก อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด เจ้าหน้าที่ ศวทอ.เข้าตรวจสอบพบเป็นเต่าตนุ (Green turtle, Chelonia mydas) ไม่ทราบเพศ วัดขนาดแนบกระดองกว้าง 70 เซนติเมตร ยาว 79 เซนติเมตร หนัก 41.25 กิโลกรัม ไม่พบหมายเลขไมโครชิป จากการตรวจร่างกายเบื้องต้นพบว่าเต่ามีอาการหัวและคอเอียง บิดไปทางด้านขวา แสดงอาการเจ็บปวดเมื่อมีการออกแรงกดบริเวณระหว่างคอและหัวไหล่ แต่ไม่พบอาการบวมหรือบาดแผลภายนอก จากภาพถ่ายรังสีพบปอดด้านขวาเป็นสีขาวทึบกว่าปกติ แสดงว่าเต่าทะเลมีการอักเสบของระบบทางเดินหายใจและระบบกล้ามเนื้อ สัตวแพทย์ให้ยาลดการอักเสบ ลดปวด สารน้ำ และจะทำการตรวจโดยละเอียดต่อไป https://mgronline.com/onlinesection/.../9670000043123
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|