|
#1
|
|||
|
|||
+++ ฮาร์บิ้น +++ หนาวแค่นี้เอ๊งงง........
ขอแซงคิวเสฉวนแล้วกันนะ.. อิอิ
เนื่องจากวันหยุดปีใหม่สากลในเมืองจีนนั้นก็หยุดแค่วันที่ 1 มกราคม เพียงวันเดียว และเนื่องจากเป็นฤดูหนาว.. ก็ไม่มีที่ไหนที่สามารถเที่ยวได้สั้น ๆ และสัมผัสความหนาวได้ดีเท่าฮาร์บิ้นอีกแล้ว... ทริปนี้เป็นทริปแพลนฉุกละหุกมาก คิดได้ก่อนเดินทางซักสองสามอาทิตย์ ก็ไม่ได้หาข้อมูล ไม่ได้อะไรทั้งนั้น จองโรงแรมก็สุดแสนจะยาก.. แพงมากกกกกก (อิอิ ก็เที่ยวแบบซำเหมานิ อยากนอนเกสต์เฮ้าส์เหมือนตอนเที่ยวเสฉวนจะตาย) แต่หาไม่ได้ ก็มาลงที่โรงแรมหนึ่ง.. ซึ่งหาจากเน็ต ก็สมราคาค่ะ ทริปนี้เป็นทริปต่อเนื่องจาก business trip ที่ต้องไปต้าเหลี่ยน ซึ่งก็หนาวใช้ได้เลยกลางวันอยู่ที่ -6 ถึง -10 องศา... ก็ฝึกไปก่อน ฮาร์บิ้น เป็นเมืองทางตอนเหนือ (สุด) ของประเทศจีน ด้านขวาติดรัสเซีย ด้านซ้ายก็รัสเซีย ถ้าเราดูแผนที่จะเห็นว่า เมืองวลาดิวอสต๊อกจะอยู่ทางขวาของจังหวัด Heilongjiang (ฮาร์บิ้นเป็นเมืองหลวงของจังหวัดนี้ ของมณฑลตงเป่ย) ที่นี่ก็ไม่มีอะไรเที่ยวมากนอกจาก.. ลานสกี และ เทศกาลหิมะและน้ำแข็งที่จัดขุึ้นทุกปีตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมเป็นต้นไป ถึงปลาย ๆ กุมภาค่ะ เบอร์ดี้ก็เลยคิดว่า จะไปเที่ยวเทศกาลที่ว่านี้ และมีเวลาอยู่ที่โน่นถึงสามวันเต็ม ๆ (สี่คืนสามวัน) คงจะเที่ยวเก็บรายละเอียดได้ครบ.. ตอนขาไปเนี่ย.. ไฟลท์จากต้าเหลี่ยนไปฮาร์บิ้นมีแค่วันละ 3 เวลาเท่านั้น ซึ่งไฟลท์ที่เบอร์ดี้จองตอนแรกนั้น ออกจากต้าเหลี่ยนเวลา 13.10 น. ซึ่งในวันนั้นเบอร์ดี้ยังติดประชุมลูกค้าอยู่ที่โรงงาน จึงต้องเลื่อนไฟลท์ไปเป็นไฟลท์สุดท้ายของวันนั้นซึ่งออกเดินทางจากต้าเหลี่ยนเวลา 20.40 น. ก็ต้องไปนั่งรอแกร่วที่สนามบิน เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง เนื่องจากเช็คเอ้าท์จากโรงแรมแล้ว พอทราบว่าต้องเปลี่ยนไฟลท์เดินทางก็รีบติดต่อไปยังโรงแรมที่จองไว้ เพราะตอนบุ๊คเหลือบไปเห็นว่า ทางโรงแรมจะเก็บห้องให้จนถึงแค่ 18.00 น. เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะจองและมัดจำ 10% แล้วก็ตาม... ซึ่งพอเบอร์ดี้เช็คบนเว็บไซต์อีกครั้ง ห้องว่างที่โรงแรมนี้ คืนนี้ไม่มีอีกแล้ว.. เบอร์ดี้จึงออกอาการป่วนจิต โทรแจ้งโรงแรมว่าสาเหตุขัดข้องจากการต้องเปลี่ยนไฟลท์ โรงแรมก็ว่าไม่ได้ จะไม่เก็บห้องให้ เพราะเป็นกฎ.. จนผลสุดท้ายทางโรงแรมยอม แต่บอกว่าจะไม่สามารถล็อกห้องราคานี้ไว้ให้ได้ และจะต้องเก็บค่าห้องเพิ่มอีก 20 หยวน... เบอร์ดี้ก็ยินดี.. แต่แล้ว เหมือนพระเจ้าไม่เป็นใจ... ไฟลท์ดีเลย์ เนื่องจากประตูเครื่องบิน 3 ประตูไม่สามารถเปิดได้... กรรม.. จนกระทั่งเบอร์ดี้ต้องโทรแจ้งโรงแรมอีกครั้ง ก็ได้รับคำตอบเดิมว่า.. จะไม่เก็บห้องให้.. ถ้าจะมาก็เอาไปห้องคืนละ 168 หยวน (จากเดิมที่จองไว้แค่ 115 หยวน) สรุปแล้วคือความชั่วร้ายของโรงแรม เนื่องจากโรงแรมมีห้องแต่จะเอาไว้เรียกแพง ๆ ตอนคนหมดหนทาง.. เบอร์ดี้ก็หมดแรงจะทะเลาะ เอางัยก็เอากัน (วะ) ขอให้มีที่ซุกหัวนอนก็เป็นพอ สรุปว่า ต้องเปลี่ยนเครื่องหลังจากคนจีนวางมวยกันเมามันส์.. กว่าจะได้ออกจากสนามบินต้าเหลี่ยนก็เป็นเวลา 23.00 น. พอดี.. เฮ้อ... มาถึงสนามบินฮาร์บิ้น รับกระเป๋าเรียบโร้ย ก็ออกไปหาแท็กซี่.. ก็ได้โดดขึ้นรถแท็็กซึ่มิเตอร์คันหนึ่ง ซึ่งโกงมิเตอร์อีก (แต่ตอนนั้นไม่ได้เช็คมาก่อนว่า ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปตัวเมืองประมาณเท่าไหร่ - เบอร์ดี้มีประสบการณ์ชั่วร้ายจากปักกิ่งมาแล้วหนึ่งครั้ง ไว้จะเล่าให้ฟังนะคะ) สรุปว่า ค่าแท็กซี่คืนนั้น 220 หยวนไม่รวมค่าทางด่วน (เช้าอีกวันก็รีบเช็คอินเตอร์เน็ตให้เจ็บใจเล่นเลย) ค่าแท๊กซี่มาตรฐานโดยประมาณอยู่ที่ 120 หยวน รวมค่าทางด่วน 20 หยวนแล้วค่ะ มาถึงโรงแรม เช็คอินได้เรียบโร้ยราคาเดิมคือ 115 หยวน... เฮ้อ รอดไป.. เข้าถึงห้องได้ก็ถ่ายรูปมาให้ชมกันนี่ล่ะค่ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Birdie : 03-01-2010 เมื่อ 21:10 |
#2
|
|||
|
|||
คืนนั้นก็เหนื่อยนัก พักเสียก่อน อีกวันค่อยว่ากันใหม่...
เช้าวันรุ่งขึ้น เบอร์ดี้ตื่นไม่ทันอาหารเช้า.. ก็เลยนั่งหาข้อมูล ในห้องมีสายแลน ต่อเน็ตหาข้อมูลได้สบาย.. สาเหตุที่เบอร์ดี้บอกว่าอยากอยู่เกสต์เฮ้าส์มากกว่า เนื่องจาก 1 ราคาถูกแสนถูก 2 พนักงานส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้ดี 3 มีข้อมูลการท่องเที่ยวของเมืองนั้นให้เพียบ.. แถมมีทัวร์ มีโน่นมีนี่ราคาพิเศษให้อีก เหมือนตอนไปเฉิงตู (เสฉวน) 4 พบเพื่อนต่างชาติมากหน้าหลายตา มิตรภาพมีให้กันเต็มเปี่ยม สรุป เมื่อไม่ได้ก็.. ต้องมาหาข้อมูลจากเน็ตสถานเดียว.. พนักงานก็ไม่พูดภาษาอังกฤษ หาข้อมูลจนสรุปได้ว่า วันนี้เสียเวลาไปแยะแล้ว.. ไปโบสถ์ St. Sophia กันก่อนดีกว่า.. โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นโดยคนรัสเซียประมาณ ต้นค.ศ. 1800 ค่ะ ภาษาจีน เรียกโบสถ์นี้ว่า สัวเฟยหยา เจี่ยวถัง ค่ะ เดินออกไปจากโรงแรม ถึงกับต้องสะดุ้งเฮีอกกับความยะเยือก... เดินไปน้ำมูกไหล แสบหน้าไปหมด.. เท้าก็เริ่มเจ็บเหมือนเอามือไปแตะน้ำแข็งที่เกาะอยู่ในตู้เย็น (นี่ขนาดเพิ่งเริ่มก้าวออกจากโรงแรม) โอว........ หนาวดึ๋งส์ เดินไปป้ายรถเมล์ ด้วยความอนุเคราะห์จากกูเกิ้ลแม๊พ.. ท่องมาอย่างดี.. จดใส่โพยมาด้วย ขึ้นรถเมล์สาย 1 และแล้วการผจญภัยก็เริ่มขึ้น |
#3
|
|||
|
|||
ในรูปแรกจะเห็น ticket booth ทางซ้ายของโบสถ์ ป้ายเขียนว่า ค่าเข้าชม 25 หยวน (ผู้ใหญ่) ถ้ามีคูปอง 35 หยวน (อะไรประมาณนี้) ก็มีฝรั่งเอาไปโพสต์ว่า คูปองตรูก็ไม่มี แถมได้เข้าถูกกว่า ใครจะไปกระเสือกกระสนหาคูปองมาฟระ..
ซึ่งที่จริงแล้ว ค่าเข้าชม คือ ค่าเข้าชมภายในโบสถ์ค่ะ ส่วนคูปองที่ว่า ก็คือ เค้าห้ามถ่ายรูปข้างใน แต่ถ้ามีคูปองก็ถ่ายได้ค่ะ ประมาณว่า เงินมางานเดิน.. ฝรั่งคนนั้นไม่ได้โพสต์ต่อว่าสรุปว่าได้ถ่ายรูปข้างในรึป่าว.. เบอร์ดี้งก ก็เลยไม่เข้าดีฝ่า.. เป็นอันว่า coupon หรือ no coupon ก็ doesn't matter.. เพราะตรูงก (ก็โบสถ์มันติ๊ดเดียวอ่ะค่ะ ไม่คุ้มค่าเข้า) แล้วเบอร์ดี้ก็ตั้งใจจะไปสวนเจ้าหลินต่อ - สวนนี้ เป็นหนึ่งในที่ที่ว่ากันว่ามีการจัดแสดงหิมะและน้ำแข็งเช่นกัน... สวนเจ้าหลินเนี่ย เป็นสวนสนุกเด็กเล็ก ๆ แนวดิสนีย์แลนด์มิเนียเจอร์อ่ะค่ะ สรุปว่า เบอร์ดี้ไม่มีแผนที่ ที่เป็นภาษาอังกฤษ เห็นที่เคาน์เตอร์โรงแรมมีขายก็บอกพนักงานเลยว่า หว่อเหย้าหม่ายอี๋เก้อตี้ถูว... พอได้รับมาก็ตะลึง เพราะไม่มีภาษาอังกฤษ มีแต่ภาษาจีนล้วนอ่ะจิ.. จะบอกว่าไม่เอา ก็หน้าบาง.. เค้าอุตส่าห์ไปไขตู้ไกล ๆ หยิบมาให้.. เฮ้อ.. ก็เลยเป็นอันว่า เบอร์ดี้ไม่มีแผนที่ ก็หลับหูหลับตาขึ้นรถเมล์ไปขำ ๆ ก็แล้วกัน ลองดู สรุปว่าหลงแบบไม่ต้องคิด.. ไปโผล่สถานีรถไฟที่เหมือนหัวลำโพงบ้านเราอ่ะค่ะ.. มั่วเจงเจง ก็จะได้เห็นน้ำแข็งแกะสลักบ้าง วางซ้อน ๆ กันเป็นเป็นประติมากรรมบ้าง.. ทั่วไปตามท้องถนนเลย ที่หน้าสถานีรถไฟนี่ก็มีเหมือนกันค่ะ พอเสร็จก็หาทางกลับ.. แท็กซี่ที่นี่จะรับคนเหมือนรถเมล์เลยค่ะ แวะจอดตลอด แล้วก็ไม่กดมิเตอร์ด้วย.. เบอร์ดี้ก็เริ่มเซ็งแล้วตรูจะไปงัยฟระ.. สรุปสามล้อเครืองค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้.. หนาวมาก.. สามล้อเครื่องก็เหมือนกัน แวะรับผู้โดยสารตลอด ข้างในก็แคบเรียกว่า คนที่นั่งหันหน้าชนกันนี่ ต้องเอาขาสับหว่างกันเลยนะคะ และแล้วก็มาถึงสวนเจ้าหลินค่ะ ค่าตั๋วกลางวันถึง 16.00 น. มีหนึ่งราคา หลัง 16.30 น. อีกหนึ่งราคา ถ้าจะเข้ายาวก็อีกราคาค่ะ.. แต่เบอร์ดี้หนาวมั่กมั่ก คงอยู่ไม่ไหวถึงค่ำ... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Birdie : 03-01-2010 เมื่อ 21:45 |
#4
|
|||
|
|||
ขออนุญาตนอนก่อน เด๋วพรุ่งนี้มาต่อนะคะ
|
#5
|
||||
|
||||
แค่เริ่มต้นก็ออกรสออกชาติแล้วครับ ฟังแล้วเหนื่อยแทนเลย .... เป็นการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่น่าติดตามมากครับ
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
|||
|
|||
ขอบคุณค่า พี่สายน้ำ.. เหนื่อย เซ็ง (โดนคนหลอก + สื่อสารลำบาก) หนาว แต่ได้ประสบการณ์มาก ๆ เลยค่ะ ก็มาชมรูปกันต่อนะคะที่สวนเจ้าหลิน
ภาพแรกเป็นยางรถยนต์ที่เค้าเอามาหุ้มแล้วทำเป็นที่นั่ง ตอนแรกคิดว่าเอาไว้เพื่อให้สไลด์ลงมาจากสไลด์เดอร์น้ำแข็งอ่ะค่ะ แต่จริง ๆ แล้ว เค้าเอาไว้ให้เด็กนั่งแล้วลากไปช่วงเดินไปเดินมาในสวนมากกว่า... เหมือนรถเข็นเด็กยังงัยยังงั้นเลยค่ะ พอดีงานจะเริ่มวันที่ 5 มกรา หลาย ๆ อย่างก็เลยยังไม่เรียบร้อย และยังไม่มีคนมาเที่ยวซักเท่าไหร่.. อากาศหนาวมากจนเบอร์ดี้ไม่สามารถเก็บภาพได้เต็มที่ เพราะทนความหนาวไม่ไหว..สมองมันคงแข็งไปด้วย ภาพที่ถ่าย ๆ มาก็เลยไม่มีจินตนาการในการถ่ายซักเท่าไหร่ เสียดายมากกกกกกกกกกกกกก ส่วนตัวแล้วชอบภาพสุดท้ายมาก มันเป็นเครื่องทำหิมะค่ะ.. เหตุที่ชอบภาพนี้มาก เพราะว่า เวลาตัวเองมองภาพนี้แล้วทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเครื่องทำหิมะกำลังพ่นหิมะออกมาในขณะที่ดูรูปอยู่จากคอมพ์ เครื่องทำหิมะนี้ช่วยผลิตให้มีหิมะเพียงพอในการจะมาจัดงานต่าง ๆ ค่ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Birdie : 04-01-2010 เมื่อ 10:40 |
#7
|
|||
|
|||
ขณะที่เดินอยู่ก็ปวดเท้ามากเลย เพราะความหนาวมันทะลุไปถึงข้างใน เจ็บจนรู้สึกเหมือนนิ้วเท้าหายไปไหนนะ... แต่เอ คงยังอยู่ เพราะยังเจ็บอยู่ มันชาไปหมดเลยค่ะ สุดท้าย เดินสวนเจ้าหลินครบรอบ.. ก็ออกทันที ไม่รีรอ เพราะรอไม่ไหว.. เจ็บไปหมดแย้ววววววววววว อยากจะไปหาที่อุ่น ๆ พักเท้าเสียจริง...
ออกมาแล้ว ก็เห็นสภาพภูมิรอบ ๆ ตัว คุ้น ๆ อยู่ มองป้ายชื่อถนนก็คุ้น ๆ เหมือนกับจะเดินไปได้ถึง St. Sophia Church ก็เลยออกเดิน แล้วก็เนื่องจากต้องหา ATM ด้วย ก็เลยต้องเดินต่อ เดินไปจนเจอ St. Sophia Church อีกครั้งจริง ๆ แล้วก็รีบพุ่งตรงไปร้านบะหมีอีกร้านที่เล็งไว้ แล้วก็เริ่มลงมือรับประทานมื้อเย็น ณ เวลา 16.30 น. อาหารเนี่ย ไม่ได้ถ่ายไว้เลยค่ะ เพราะไม่อยากเอากล้องออกมาจากกระเป๋า ในร้านมีฮีตเตอร์ซึ่งอุณหภูมิต่างจากข้างนอกมาก โดยประมาณ 50 องศา เห็นจะได้ ถ้าเอากล้องออกมา รับรองว่าได้ขึ้นไอน้ำกันเต็ม ๆ แน่.. ก็เลยไม่สามารถค่ะ ทานข้าวเย็นเสร็จ ก็ออกไปถ่ายรูปโบสถ์เซนต์โซเฟีย และบริเวณรอบ ๆ อีกครั้งยามโพล้เพล้ |
#8
|
|||
|
|||
หนาววววววว......... จัง
|
#9
|
||||
|
||||
หนาวแค่นี้เองเหรอจ๊ะหนูเบิร์ด.....
สองสายเคยวางแผนจะไปเทศกาลหิมะที่ฮาบิ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่หัวหน้าก๊วนเพื่อนที่เที่ยวด้วยกันเป็นประจำ เจ๊งหุ้นไปเสียก่อน ทริปเลยล่ม....เสียดายมากๆ เคยคิดไว้ว่าจะหาทางไปใหม่ให้ได้ แห่ะๆ.....แต่พอเห็นภาพหิมะและน้ำแข็งที่ฮาบิ้นของน้องเบิร์ดแล้ว พี่รู้สึกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ....บรื๋ออออ... ชอบภาพ St. Sophia Church และบริเวณโดยรอบมาก ดูสวยสง่างามคลาสสิคมากๆค่ะ คล้ายๆกับจตุรัสวิหารแดงของรัสเซีย....
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 04-01-2010 เมื่อ 13:07 |
#10
|
|||
|
|||
ผ่านไปอีกวัน.. กลับโรงแรมนอน.. ก่อนนอนก็นั่งหาข้อมูลของวันต่อไป... ระหว่างที่นั่งหาอยู่ ก็ได้ยินเสียงพลุ... โอ้ว.. อยากออกไปถ่ายพลุ แต่อาการกลัวความหนาว กับ ความขี้เกียจมันมีเยอะกว่า.. เลยเป็นเหตุให้ข้าน้อย หันหน้ามุ่งหาเตียง แล้วหลับลงด้วยความง่วงอย่างรวดเร็ว
ตื่นเช้ามาอีกวัน เป็นวันที่ 1 มกราคม 2010 เบอร์ดี้ตื่นสายตามเคย.. ล้างหน้าแปรงฟันแล้วลงไปหาร้านอาหารของโรงแรมเพื่อกินข้าวเช้าของฟรี.. ซึ่งต้องเดินออกไปนอกตัวตึก เป็นใต้ถุนของตีกสองชั้นอีกหลังหนึ่ง ซึ่ง...... สกปรก.. และไม่มีอะไรให้กินเท่าไหร่ แต่ก็กินไป กันตาย และประหยัดได้อีก 1 มื้อ เรื่องภาพก็ไม่มีอีกตามเคย แง .. แย่จังเลยเรา.. วันนี้ก็ออกไปเดินเตร็ดเตร่ตามเคย.. วันนี้จะไป Sun Island หรือ Taiyang Dao (ไท่หยางต๋าว - แปลตรงตัวเลยค่ะ tai yang = sun, dao = island) สถานที่จัดแสดงโชว์แกะสลักหิมะทุกปีค่ะ ค่าเข้าชมก็ 150 หยวนค่ะ ปรากฎว่ามาถึงหน้า Sun Island จะเก็บภาพทางเข้า ฯลฯ ปรากฎว่ากล้องเบอร์ดี้ No Memory Card!!! ครือ เมื่อคืนก่อน เอาออกมาโหลดดูบนเครื่องคอมพ์อ่ะค่ะ แล้วก็คิดแล้วว่า เด๋วคอยดูพรุ่งนี้ต้องลืม.. (คือ คิดได้ตอนกำลังสลึมสลือจะหลับอ่ะค่ะ) แล้วก็ลืมจริง ๆ ฮาาาาาาาาาา สรุปว่า เบอร์ดี้ต้องไปหาที่ซื้อเมมโมรี่การ์ดใหม่ ซึ่งก็ได้ซื้อสมใจในราคา 120 หยวน (2 GB) ซึ่งก็ไม่แพงมากอย่างที่คิด (คือ ปรกติร้านพวกนี้เค้าจะฟัน ฟัน ฟัน) ซึ่งก็ผ่านไปได้ด้วยดี ก็เข้าไปชมงาน... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Birdie : 04-01-2010 เมื่อ 17:08 |
|
|