|
#1
|
||||
|
||||
เล่น Jetski ในเขต อช.หมู่เกาะสิมิลัน
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจของสมาชิก SOS ในเขต อช.หมู่เกาะสิมิลัน และ อช.หมู่เกาะสุรินทร์ ก่อนจะเดินทางกลับเข้าฝั่งที่ จ.ภูเก็ต ... ดร.ก้องเกียรติ ที่ได้ร่วมคณะมากับ SOS ด้วย ได้พาสมาชิกขึ้นไปยังเกาะ 1 เพื่อเยี่ยมชมโครงการอนุรักษ์เต่า ที่ทาง ทช. ทำร่วมกับ อช.และกองทัพเรือ และ เพื่อไปเก็บขยะที่มีอยู่เกลื่อนกลาดหน้าชายหาดด้วย ที่หน้าชายหาดเกาะ 1 พบว่า มีเรือสำราญ (ไม่ใช่สัญชาติไทย) ลำหนึ่งจอดทอดสมออยู่ โดยมี Jetski 2 ลำ วิ่งฉวัดเฉวียนไปมา เป็นที่น่าหวาดเสียวว่า หากมีเต่าว่ายผ่านมาน่าจะมีโอกาสหัวแบะหรือกระดองแตกได้ และเสียงของ Jetski อาจจะทำให้เต่าตกใจไข่หด ไม่ขึ้นมาวางไข่ได้ ... จากการที่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ทหารเรือที่ประจำเวรเฝ้าอนุบาลเต่าที่เกาะ 1 ทราบว่า ได้วิทยุแจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานที่เกาะ 4 ทราบแล้ว และจะเดินทางมาที่จุดนี้อีก 1 ชั่วโมงข้างหน้า เจ้าหน้าที่ทหารเรืออยากจะออกไปห้ามและตักเตือนให้หยุดกระทำ เนื่องจากบริเวณเกาะ 1 ถึงเกาะ 3 เป็นเขตอนุรักษ์ที่ห้ามเข้ามาทำกิจกรรมใดๆทั้งสิ้น แต่ไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากเรือที่มีอยู่ ชำรุดใช้การไม่ได้ ... เรา คือ สองสาย, ดร.ก้องเกียรติ, เจ้าหน้าที่ทหารเรือ และสมาชิก SOS อีก 2 คน ได้ใช้เรือดิงกี้ของเรือฟ้าใส วิ่งไปยังเรือดังกล่าว พบว่า เป็นเรือต่างชาติชื่อ "Newcastle Explorer" ซึ่งทั้งลูกเรือ และผู้โดยสารเป็นชาวต่างชาติทั้งสิ้น จึงได้ตักเตือนและแจ้งให้ทราบว่า บริเวณนี้เป็นเขตอุทยาน และยังเป็นเขตอนุรักษ์เต่าอีกด้วย การเข้ามากระทำการดังกล่าวโดยไม่ได้ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ถือเป็นความผิด ... พวกเขารับฟังและยอมรับว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นเขตหวงห้าม หลังจากนั้นจึงได้เก็บเรือ Jetski และถอนสมอวิ่งออกจากเขตอุทยานไป นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่มีการกระทำแบบนี้ในเขต อช.หมู่เกาะสิมิลัน โดยครั้งนี้เป็นชาวต่างชาติที่บอกว่าไม่ได้รับทราบถึงกฎระเบียบข้อห้ามมาก่อน แต่ครั้งก่อน เท่าที่ทราบเป็นคนไทย เป็นใครขอไม่เอ่ยถึงดีกว่า .....
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 27-01-2018 เมื่อ 23:45 |
#2
|
||||
|
||||
ต้องเผยแพร่เพื่อเตือนสติ เพราะมีอีกเยอะที่มีสตังค์แต่ชอบทำอะไรที่ไร้สติอย่างเรือหรูลำนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย koy : 07-02-2013 เมื่อ 07:54 |
#3
|
||||
|
||||
เป็นเรื่องที่เห็นแล้วรับไม่ได้เลยค่ะ...สายชลบอกกับตัวเองว่า จะต้องลุยไปให้ถึงเรือลำนั้นให้ได้ ไม่ว่าเรือของอุทยานฯ จะมาหรือไม่ก็ตามที... จริงๆแล้ว ทางอุทยานฯ (น้องไสว) ทราบเรื่องแล้วจากทางทหารเรือที่อยู่บนเกาะหนึ่ง และกำลังจะออกเดินทางมา แต่จากเกาะ 4 มาถึงเกาะ 1 ค่อนข้างจะไกล และได้ยินว่าเรือของอุทยานฯ เพิ่งจะหายไปหนึ่งลำในคืนก่อนหน้านี้ เราใจร้อนเองที่นั่งดิ้งกี้ออกไปที่เรือลำนั้น เพราะเห็นผู้หญิงต่างชาติสองคน ขับเจ๊ตสกีเสียงดังมาก และเฉียดเข้ามาใกล้เกาะหนึ่งมากขึ้นๆทุกทีๆ เราก็เลยตัดสินใจลงเรือดิ๊งกี้ไปเจรจากับคนต่างชาติก่อนที่เรือของอุทยานฯจะไปถึงค่ะ... สงสารทหารเรือที่ดูแลเกาะหนึ่งอยู่ค่ะ...เพราะเห็นเหตุการณ์แล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีเรือจะออกไป...
__________________
Saaychol |
|
|