|
#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 4 มีนาคม 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย ฝุ่นละอองในระยะนี้: ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันตก และภาคกลางตอนบน มีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงสูง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน และมีการระบายอากาศที่ไม่ดี กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 4 - 7 มี.ค. 67 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8 - 9 มี.ค. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง โดยคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 8 - 9 มี.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
การเตือนภัยที่ผิดพลาด-การตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ฝนในฟิลิปปินส์เป็น "หายนะ" ระบบเตือนภัยที่ผิดพลาด ความยากจน และการตัดไม้ทำลายป่าบนภูเขาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ทำให้ฝนตกหนักนอกฤดูเมื่อไม่นานมานี้ กลายเป็นหายนะร้ายแรง สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. ว่า ฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 ราย จากเหตุดินถล่มและน้ำท่วมบนเกาะมินดาเนา ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ผ่านมา สืบเนื่องจากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และร่องความกดอากาศต่ำ ทำให้เกิดฝนตกหนัก แม้งานศึกษาของกลุ่มเครือข่าย ความร่วมมือด้านสภาพภูมิอากาศนานาชาติ (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอ) พบว่า ฝนที่ตกหนักอย่างผิดปกติ ทางตะวันออกของเกาะมินดาเนา "ไม่ได้รุนแรงเป็นพิเศษ" แต่มันกลายเป็น "มหันตภัย" เพราะผู้คนอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม และความบกพร่องในการแจ้งเตือนด้านสภาพอากาศ "เราไม่สามารถโทษฝน สำหรับผลกระทบร้ายแรงเพียงอย่างเดียวได้ เนื่องจากปัจจัยหลายประการซึ่งเกิดจากมนุษย์ คือสิ่งที่ทำให้ฝนตกหนักเช่นนี้ กลายเป็นหายนะร้ายแรง" นายริชาร์ด อีบาเนซ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ จากสถาบันความยืดหยุ่นของมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ กล่าว อนึ่ง นักวิทยาศาสตร์หลายคนพบว่า อัตราความยากจนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ในภูมิภาคภูเขาของฟิลิปปินส์ ทำให้ผู้คนเสี่ยงต่อผลกระทบจากฝนตกหนัก ขณะที่ "การตัดไม้ทำลายป่าอย่างเข้มข้น" ส่งผลให้ความเสี่ยงของการเกิดดินถล่มสูงขึ้น นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า นโยบาย, กฎหมาย และเงินทุนในการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ชะงักงันอย่างมากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญกับการตอบสนองหลังภัยพิบัติแทน อีกทั้งประเทศยังมีข้อบกพร่องด้านการพยากรณ์อากาศ และการแจ้งเตือนด้านสภาพอากาศ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงในท้องถิ่นที่จำกัด และขาดคำแนะนำสำหรับการอพยพ "มันมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการปรับปรุงทั้งระบบเตือนภัยล่วงหน้า และการประเมินพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม เพื่อหลีกเลี่ยงภัยพิบัติที่คล้ายคลึงกันในอนาคต" อีบาเนซ กล่าวทิ้งท้าย https://www.dailynews.co.th/news/3226745/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
งานวิจัยใหม่คาดการณ์ ปี 2024 อ่าวเบงกอล ? ทะเลอันดามันเดือด จนเกิดปะการังฟอกขาว เพราะอุณหภูมิจะร้อนจนทำลายสถิติอีกครั้ง แม้ปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังจะหมดไปในช่วงกลางปีนี้ แต่ปี 2024 นี้ โลกจะยังคงมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น และสูงสุดจนทุบสถิติเดิมอีกทั้ง และบางส่วนของทวีปเอเชียรวมถึงทะเลโดยรอบทวีปจะร้อนระอุเป็นพิเศษ ทำให้เกิด ภัยแล้ง ไฟป่า และปะการังฟอกขาว ในหลายพื้นที่ งานวิจัย Enhanced risk of record-breaking regional temperatures during the 2023 ? 24 El Ni?o ในวารสาร Scientific Reports งานวิจัยชิ้นใหม่ที่ได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2024 ได้ระบุว่า จะมีโอกาส 90% ที่ปี 2024 โลกของเราจะมีอุณหภูมิสูงสุดทุบสถิติเดิม หลังเมื่อเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมา องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ได้ประกาศว่า ภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทำให้ปี 2023 เป็นปีที่อากาศร้อนที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติเมื่อปี 1850 หรือในรอบ 173 ปี ปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังเกิดขึ้นจะทำให้อุณหภูมิอากาศใกล้ผิวโลกสูงจนทำลายสถิติอีกครั้ง โดยบริเวณอ่าวเบงกอล ทะเลอันดามัน และทะเลจีนใต้ จะได้รับผลกระทบสูงเป็นพิเศษทั้งด้านอุณหภูมิ จนเกิดปะการังฟอกขาวขึ้น เต๋อเหลียง เฉิน ศาสตราจารย์ภาควิชาธรณีศาสตร์ มหาวิทยาลัยโกเธนเบิร์ก หนึ่งในทีมผู้เขียนงานวิจัย กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก เคยก่อปัญหาให้หลายพื้นที่ในโลกมาแล้ว การวิจัยจึงพยายามเตือนผู้คนล่วงหน้าไว้ก่อน ด้วยการสร้างแบบจำลองเพื่อที่จะได้รู้ถึงผลกระทบ ซึ่งอาจจะแก้ไขได้ทัน งานวิจัยนี้ใช้การสร้างแบบจำลองสถานการณ์เอลนีโญในระดับความรุนแรงปานกลาง และรุนแรงมาก จากนั้นจึงศึกษาผลกระทบด้านระดับอุณหภูมิและภัยธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ของโลก และผลจากแบบจำลองชี้ว่า ไม่ว่าเอลนีโญจะมีความรุนแรงระดับใด ก็มีความเป็นไปได้ถึง 90% ที่อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยรายปีทั่วโลกในปี 2024 นี้จะสูงจนทำลายสถิติเดิมอีกครั้ง ในกรณีที่เอลนีโญมีความรุนแรงระดับปานกลาง พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเป็นบริเวณอ่าวเบงกอล และทะเลอันดามัน ที่น้ำทะเลจะอุ่นขึ้นตลอดทั้งปี ทำให้แนวปะการังเกิดการฟอกขาวเป็นวงกว้าง และจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล และยังกระทบไปถึงเศรษฐกิจ แบบจำลองยังคาดการณ์ว่า หากเกิดเอลนีโญรุนแรงมาก พื้นที่รอบทะเลจีนใต้จะกลายเป็นอีกจุดที่ได้รับผลกระทบหนัก อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำให้แนวปะการังปอกขาว และยังกินวงกว้างไปถึง บริเวณป่าแอมะซอนจะเกิดภัยแล้งและไฟป่า และบริเวณอะแลสกาจะสูญเสียธารน้ำแข็งและชั้นดินเยือกแข็งอย่างถาวร ขอบคุณข้อมูลอ้างอิง : nature.com , researchgate.net https://mgronline.com/science/detail/9670000019361
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
เตือน เฝ้าระวัง! น้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ช่วงวันที่ 7 ? 13 มีนาคมนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เตือน เฝ้าระวัง! น้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเค็มรุกล้ำแม่น้ำ ช่วงวันที่ 7 ? 13 มีนาคมนี้ 1. เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว บริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ 2. เฝ้าระวังน้ำเค็มรุกล้ำส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำใช้อุปโภค บริโภค และการเกษตร - แม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ กรุงเทพฯ นนทบุรี และปทุมธานี - แม่น้ำแม่กลอง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม - แม่น้ำท่าจีน ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และนครปฐม - แม่น้ำบางปะกง ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี https://www.matichon.co.th/economy/news_4452904
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
เรือบรรทุกปุ๋ยจมทะเลแดง หลังกลุ่มฮูตีถล่ม หวั่นกระทบสัตว์น้ำ U.S. military's Central Command via AP เรือบรรทุกปุ๋ยจมทะเลแดง หลังกลุ่มฮูตีถล่ม หวั่นกระทบสัตว์น้ำ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองทัพสหรัฐได้ยืนยันเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ว่าเรือรูบีมาร์ เรือของประเทศอังกฤษแต่ติดธงประเทศเบลีซ ที่บรรทุกปุ๋ยขนาดราว 21,000 เมตริกตัน ซึ่งถูกกลุ่มกบฏฮูตีในประเทศเยเมนโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้จมลงในทะเลแดงตอนใต้แล้วเมื่อช่วงสายของวันที่ 1 มีนาคม หรือเช้าวันที่ 2 มีนาคม รูบีมาร์ ถือเป็นเรือลำแรกที่จมลงนับตั้งแต่ที่กลุ่มฮูตีได้เริ่มโจมตีเรือบรรทุกสินค้าที่แล่นผ่านทะเลแดงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเพื่อเป็นการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งทำให้บรรดาบริษัทขนส่งสินค้าเลี่ยงการเดินเรือในทะเลแดง และเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮปในประเทศแอฟริกาใต้แทน การจมของเรือลำดังกล่าวได้ทำให้รัฐบาลเยเมนที่นานาชาติให้การรองรับออกมาแสดงความกังวลถึงผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเล เนื่องจากเรือรูบีมาร์บรรทุกปุ๋ยอันตรายเป็นจำนวนมากและการโจมตีเมื่อเดือนที่แล้วทำให้เกิดคราบน้ำมันความยาว 18 กิโลเมตร https://www.matichon.co.th/foreign/news_4452775
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
กู้ 'เรือหลวงสุโขทัย' วันที่ 11 ปฏิบัติการสำรวจและค้นหาผู้สูญหายในห้องศูนย์ยุทธการ การปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 11 ชุดปฏิบัติการค้นหาในห้องศูนย์ยุทธการ ภายในเรือ ยังไม่พบผู้สูญหาย วันนี้ (3 มีนาคม 2567) ซึ่งเป็นการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 11 โดยชุดปฏิบัติการร่วมของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ บนเรือ Ocean Valor ที่จอดเรืออยู่บริเวณอ่าวไทยใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีการดำน้ำ จำนวน 4 เที่ยว โดยมีภารกิจในการค้นหาผู้สูญหาย การสำรวจและถอดถอนยุทโธปกรณ์ในห้องศูนย์ยุทธการ โดยผลการปฏิบัติการสำรวจและค้นหาผู้สูญหายในห้องศูนย์ยุทธการ จำนวน 4 เที่ยว ไม่พบผู้สูญหาย สามารถนำเครื่องบันทึกภาพดิจิทัล ( Digital Video Recorder: DVR) ขึ้นเรือ Ocean Valor เพื่อส่งให้คณะกรรมการสอบสวนฯ แต่ยังไม่สามารถปลดขีดความสามารถเครื่องควบคุมการยิงตอร์ปิโดในห้องศูนย์ยุทธการได้ ซึ่งจะดำเนินการต่อในวันพรุ่งนี้ การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย กำลังพลทุกนายปลอดภัย สำหรับการปฏิบัติการพรุ่งนี้ จะมีการปฏิบัติการดำน้ำของชุดปฏิบัติการผสมของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ ในการค้นหาผู้สูญหาย และปลดขีดความสามารถยุทโธปกรณ์ในห้องศูนย์ยุทธการ จำนวน 4 เที่ยว โดยรายละเอียดและความคืบหน้าต่างๆ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป https://www.naewna.com/local/790865
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|