รายงานผลการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และเก็บขยะ / ตัดอวน อันดามันใต้ เดือนมีนาคม 2554

[สายชล]

รายงานผลการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ และเก็บขยะ / ตัดอวน อันดามันใต้ เดือนมีนาคม 2554





ปลาสวยงามและม้าน้ำ ซึ่งเป็นสัตว์ที่สวยงามน่ารัก สามารถดึงดูดความรักและความสนใจของผู้คนทั่วไปได้เป็นอย่างมาก แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ในปัจจุบันนี้ ทั้งปลาสวยงามและม้าน้ำที่อาศัยอยู่ในทะเลของไทย ไม่ว่าจะเป็นทะเลด้านอ่าวไทยหรือทะเลอันดามันนั้นได้ มีปริมาณลดน้อยลงทั้งด้วยสาเหตุตามธรรมชาติและการถูก จับไปจำหน่ายเป็นสัตว์เลี้ยงในตู้ปลาและอะควาเรียม จนเป็นที่ห่วงใยว่า ทั้งปลาสวยงามพันธุ์ต่างๆและม้าน้ำจะสูญพันธุ์ไปจากทะเลไทยในที่สุด


จึงได้มีความพยายามที่จะเพาะขยายพันธุ์ทั้งปลาสวยงาม และม้าน้ำโดยนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลผู้เชี่ยวชาญด้านก ารเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั้งที่เป็นเอกชนและหน่วยงานราช การหลายแห่ง จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ปลาสวยงา มและม้าน้ำ และหลังจากนั้นได้มีการทดลองนำสัตว์ทั้งสองชนิดไปปล่ อยในทะเลเพื่อให้ทดลองอยู่ในธรรมชาติแล้วหลายครั้งหลายหน


หนึ่งในหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จยอดเยี่ยมในการเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและม้าน้ำในประเทศไทยนั้นก็คือ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กระบี่

[สายชล]

เป็นที่น่ายินดีที่ www.SaveOurSea.net (SOS) ซึ่งสมาชิกเป็นกลุ่มบุคคลซึ่งมีความรักในทะเลและมีความสนใจในการทำงานร่วมกันเพื่อรักษ์ธรรมชาติทาง ทะเล กำหนดจะเดินทางไปดำน้ำเพื่อเก็บขยะ และเศษอวนในจุดดำน้ำต่างๆทางอันดามันใต้ ในเดือนมีนาคม 2554


และในครั้งนี้ เราได้รับการอนุเคราะห์จาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กระบี่ จัดหาพันธุ์ ม้าน้ำหนาม พันธุ์ Tigertail จำนวน 100 ตัว และ ปลาการ์ตูนส้มขาว (False Clown Anemonefish) จำนวน 100 ตัว ที่ได้รับการเพาะขยายพันธุ์โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของศูนย์ฯให้กับสมาชิก SOS เพื่อนำไปปล่อยในแนวปะการังด้วย





โดยเราได้ดำเนินงานโครงการดังกล่าว ตามที่ได้ตั้งใจไว้ ในระหว่างช่วงวันที่ 9 ถึง 14 มีนาคม 2554 ณ.เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา และอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี

[สายชล]

บ่ายวันที่ 9 มีนาคม 2554...สองสายซึ่งเดินทางล่วงหน้าไปที่กระบี่ ตั้งแต่ก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ได้เดินทางไปรับม้าน้ำและปลา ที่น้อง สามารถ เดชสถิตย์ แห่งศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง กระบี่ ได้เตรียมใส่ถุงน้ำทะเลที่อัดอ๊อกซิเจนไว้ให้เรียบร้อย และมุ่งหน้าสู่ท่าเรือรัษฎา ภูเก็ต เพื่อลงเรือโชคศุลี ที่จอดเทียบท่าคอยอยู่



ส่วนสมาชิก SOS ที่เหลืออีก 19 คน ที่เดินทางมาจากบ้านของตัวเอง ทั้งที่อยู่ในกรุงเทพฯและเขตปริมณฑล และไกลออกไปถึงเมืองอุดรธานี หนองคาย เริ่มทะอยเดินทางไปลงเรือ กว่าจะครบและเรือออกจากท่ามุ่งหน้าสู่หมู่เกาะห้า อุทยานแห่งชาติลันตาได้ก็เกือบสี่ทุ่ม



เช้ามืดที่ขมุกขมัวของวันที่ 10 มีนาคม 2554...เรือโชคศุลีก็แล่นไปจอดในอ่าวสงัดลมของหมู่เกาะห้า...

[สายชล]

เมื่อคืนทะเลเรียบ...พวกเราคงนอนหลับกันได้สนิทดี เช้าขึ้นมาจึงมานั่งดื่มกาแฟแกล้มขนมปังกันสลอน...







น้องป้ากบ Angel Frog ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมผู้นำดำน้ำ กล่าวต้อนรับสมาชิกอาสาสมัครที่มาร่วมด้วยช่วยกันทำงาน







โดยมี น้องติ๊กและน้องสมชาย(ผู้จัดการเรือโชคศุลี) มาพูดถึงจุดดำน้ำและแผนการดำน้ำทำงานของเรา (ผู้ที่นั่งอมน้ำแก้มตุ้ยอยู่นั้น คือ น้องเด่น ที่ท่าทางยังไม่ค่อยจะตื่นดี)







และ น้องหนุ่ย Scubalism มาพูดเรื่องความปลอดภัยในการดำน้ำ

[สายชล]

สายชลสรุปเรื่องกิจกรรมที่เราจะทำในครั้งนี้ และย้ำเรื่อง "No Logo...No Ego" ในการทำงานร่วมกัน เหมือนเช่นทุกครั้ง...





สมาชิกผู้เข้าร่วมกิจกรรม ดูจะให้ความสนใจฟังการสรุปครั้งนี้กันดีนะคะ....

[สายชล]

ถึงเวลาดำน้ำทำงานแล้วค่ะ...


เช้านี้เราจะปล่อยม้าน้ำหนามพันธุ์ Tigertail จำนวน 60 ตัว ที่บริเวณเกาะห้าหมายเลข 1 กันค่ะ


สมาชิกที่มาร่วมดำน้ำทำงานปล่อยม้าน้ำครั้งแรก เช่น น้องอ้อย น้องโอ และน้องจิ ดูจะตื่นเต้นและมีความสุขกับม้าน้ำที่เราจะนำมาปล่อยมากนะคะ...





ม้าน้ำถูกนำมาใส่ในแก้วพลาสติกใส 20 แก้วๆละ 3 ตัว และถูกนำไปเรียงไว้ในตะกร้าและหุ้มด้วยถุงตาข่ายกันหลุดเล็ดลอดออกไป

[lazyoctopussy]

ช่างงดงามจริงๆคะพี่น้อย ทั้งภาษาและภาพถ่าย อ่านไปอมยิ้มไป

[ดอกปีบ]

สำหรับกิจกรรมปล่อยสัตว์น้ำเช่นนี้ คงไม่มีอะไรน่าดีใจไปกว่าการที่ได้เห็นสัตว์ที่เราปล่อย เติบโตดำรงชีวิต และแพร่พันธุ์ต่อไปได้ เหมือนอย่างปลาการ์ตูนส้มขาวที่ได้เห็น .. สุดยอดจริงๆครับ

อย่างนี้ทุกๆครั้งที่แวะไปที่หินม่วง ถ้าได้เห็นปลาการ์ตูนส้มขาวก็จงภูิมิใจได้เลย ว่า sos เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ ..

[สายชล]

น้องอ้อยจ๋า....ขอบคุณจ้ะ คำชมทำให้ตัวลอยได้จริงๆเลยนะคะ


.............................


น้องปี๊บจ๋า...ใช่ค่ะ ความสุขใจของพวกเราคือเท่านั้นเอง


ไปหินม่วง อย่าลืมไปทักทายลูกๆของเรากันหน่อยนะคะ

[สายชล]

อาดัง-ราวี


หลังจากการดำน้ำปล่อยปลาที่หินม่วงแล้ว....ฟ้าเริ่มครึ้มด้วยเมฆฝน ความตั้งใจที่จะดำน้ำกลางคืนที่หินแดง เป็นอันต้องพับไป เมื่อน้องสมชายมาแจ้งว่า กัปตันชัยเห็นสมควรให้เราแล่นเรือตรงไปที่หมู่เกาะอาดัง-ราวี ทันที เพราะท่าทางลมจะแรง จนไม่น่าเสี่ยง


ไปก็ไปค่ะ...เพราะเราก็ไม่อยากเสี่ยงจอดเรือรับลมอยู่ที่หินม่วง-หินแดง ที่ไม่มีที่บังลมเช่นกัน

เรือเริ่มแล่นล่องใต้ โต้กับคลื่นที่สูง และสายฝนที่เริ่มจากตกปรอยๆ และแรงขึ้นๆ หลังอาหารเย็นแล้ว เราก็เข้านอนแต่แทบจะไม่ได้หลับกันทั้งคืน เพระตัวกลิ้งไปกลิ้งมาตามแรงโยกของเรือ ที่โต้คลื่นลูกโตๆไปตลอดทาง

เช้ามืด...เรือก็หายพยศ เพราะเข้าไปในอ่าวที่คลื่นลมสงบหน้าเกาะอาดัง-ราวี ที่เช้านี้ดูสวยงามมากกว่าเคย