สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก กับมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 22 - 23 ส.ค. 63 ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ

ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 28 ส.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ส่วนร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีอ่อนกำลังลง ทำให้ประเทศไทยฝนลดลง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 22 ? 23 ส.ค. 63 ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ขยะพลาสติก เกลื่อนอ่าวมาหยา ถึงแม้จะไร้คน ! เหตุจากขยะทะเล



สาเหตุจากขยะบนบก เมื่อตกทะเล ทำให้บรรดาขยะจากผลิตภัณฑ์พลาสติกนานาชนิด เรียกรวมๆ ว่า ขยะทะเลถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งบนหาด อ่าวมาหยา เกาะพีพี ซึ่งขณะนี้ยังไม่เปิดบริการนักท่องเที่ยว (ปิดมานานกว่า 2 ปี) เนื่องจากต้องการให้เวลาในการฟื้นฟูแนวปะการัง

ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ที่คอยดูแลส่งคลิปมาให้ ดร.ธรณ์ ธำรงค์นาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ธรณ์ก็ได้โพสต์แนะนำบนเพจเฟซบุ๊ค Thon Thamrongnawasawat

พี่ๆ ที่ไปสำรวจอ่าวมาหยาส่งคลิปมาให้ พร้อมบอกว่าเก็บเท่าไหร่ก็ไม่หมดอาจารย์ เสียดายหาดสวยมากๆ อีกทั้งยังตกหล่นอยู่ในแนวปะการังอีกเพียบ แค่เก็บขยะก็แทบไม่มีเวลาเหลือทำอะไรแล้ว
เธอลงท้ายว่า ทำไมคนบนฝั่งยังทิ้งอยู่คะ ? เชื่อว่าถึงตอนนี้ทุกคนก็คงรู้แล้วว่าขยะทะเลสร้างปัญหามากมายแค่ไหน
ผมก็เชื่อว่ารู้ครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะทำมากน้อยแค่ไหน
จะเอาแก้วส่วนตัวไปใช้หรือไม่ ?
จะไม่ใช้แก้วเจาะโป๊ะทะเลเจ๊งอีกหรือเปล่า ?
เพราะแก้วแบบนี้มันรีไซเคิลไม่รอด มันไม่คุ้ม หลายประเทศทั่วโลกก็แบนกันแล้ว
ก็เหลือแต่รอว่าประเทศไทยจะแบนเมื่อไหร่ จะสำเร็จตามโรดแมปไหม ?
แต่ทำได้วันนี้โดยไม่ต้องรอ คือเริ่มเลิกที่ตัวเราครับ

หมายเหตุ - แน่นอนว่ามีแก้วเมืองนอกปะปนอยู่ แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะแก้วเราก็ลอยไปบ้านเขาเช่นกัน
ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด ไปพูดคุยต่อรองกับชาติอื่น นั่นคือทางออก
ทว่า...วันนี้เราทำดีที่สุดหรือยัง ?


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000086262

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


ทร.จับตังเกเวียดนาม ซุ่มรุกน่านน้ำทะเลไทย ล่าหอยเม่น-ปลิงทะเล



กองทัพเรือ เดินหน้าปกป้องทะเลไทย จับตังเกเวียดนาม ล้ำน่านน้ำนราธิวาส ล่าหอยเม่น-ปลิงทะเล ส่งดำเนินคดี เผยปีนี้จับเรือประมงเวียดนามได้แล้ว 27 ลำ ลูกเรือ 170 คนที่ท่าเทียบเรือประมงจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม น.อ.ธัชธรรม ณ สงขลา รองผอ.รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดนราธิวาส พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม แถลงข่าวการจับกุมเรือประมงเวียดนาม (ลากหอยเม่น) ผู้ต้องหา 4 และยึดเรือประมง 1 ลำ ในฐานที่ลักลอบเข้ามาทำประมงในน่านน้ำไทยโดยผิดกฎหมาย

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก ทางเจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวในพื้นที่ว่า มีเรือประมงต่างชาติ เข้ามาทำการประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย บริเวณแบริ่ง 058 ระยะ 78 ไมล์ ห่างจากปากแม่น้ำนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ทาง พลเรือโท สำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 และผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 จึงได้สั่งการให้เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ออกเรือลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ โดยในวันที่ 21 ส.ค.63 ได้ตรวจพบเรือประมงต่างชาติ 1 ลำ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ บริเวณแบริ่ง 058 ระยะ 78 ไมล์ ห่างจากปากแม่น้ำนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเป็นเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประเภทเรือคลาดปลิง จำนวน 1 ลำ ลูกเรือ จำนวน 4 คน

จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ประเภทเรืออวนล้อม จำนวน 1 ลำลูกเรือ จำนวน 4 คนจึงได้ควบคุมเรือดังกล่าวมาทำการสอบสวนที่ท่าเทียบเรือประมงจังหวัดนราธิวาส เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับไต้ก๋งเรือและชาวประมงสัญชาติเวียดนาม ในฐานความผิด 5 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์ โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง 2.ทำการประมงในเขตการประมงไทย โดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือ โดยไม่ได้รับอนุญาต 3.เป็นคนต่างด้าวร่วมกันทำหน้าที่เป็นลูกเรือในเรือประมง โดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ไม่เข้า-ออกตามช่องด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานีหรือท้องที่ที่กำหนด ไม่เข้า-ออก ตามเวลาที่กำหนด และ 5.เข้ามาหรือออกไป โดยไม่ยื่นรายการ และไม่ผ่านการตรวจของพนักงาน เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเส้นทางนั้น เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ทั้งหมดถูกควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส ซึ่งอาจมีโทษปรับหรือจำคุกตามแต่ข้อหา โดยมีล่ามช่วยในการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ไทย แต่ยังมีเจ้าหน้าที่สถานทูตเวียดนามดูแล

สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ ศรชล.ภาค 2 ในปีงบประมาณ 2563ได้จับกุมมาแล้ว 13 ครั้ง รวม 26 ลำในการจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 14 รวมทั้งหมด 27 ลำลูกเรือ จำนวน 170 คน

น.อ.ธัชธรรมกล่าวเพิ่มเติม พร้อมทั้งได้ขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด ทั้งนี้ ศรชล.ภาค 2 ซึ่งมีพื้นที่ในความรับปิดชอบ ประมาณ 113,275 ตาราง

"เราจะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล อย่างเต็มความสามารถ จะมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้ เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทยต่อไป ?เป็นกองทัพเรือ ที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ" น.อ.ธัชธรรม

และว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำไปฝากขังที่ สภ.เมืองนราธิวาส จากนั้นจะพาขึ้นศาลตามกระบวนการของกฏหมาย และสุดท้าย ก็จะเป็นเรื่องของการผลักดันกลับประเทศ และเบื้องต้น มีเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขได้ตรวจโรคโควิดเบื้องต้นไปแล้ว


https://www.naewna.com/local/513496