|
#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 26 มิถุนายน 2567
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน และประเทศไทย ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 26 มิ.ย. 67 นี้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 25 ? 26 มิ.ย. 67 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 ? 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 27 มิ.ย. ? 1 ก.ค. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทสลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 ? 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ข้อควรระวัง 26 - 27 มิ.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 25 - 26 มิ.ย. 67 ****************************************************************************************************** ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ฉบับที่ 10 (124/2567) (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 26 มิถุนายน 2567) ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน และประเทศไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง มีดังนี้ วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี และสระบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ช่วยลูกพะยูนเกยตื้นกลับทะเล หวังว่าจะไม่ใช่ลูกของตัวที่ติดอวนตาย จนท.อุทยานหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ช่วยลูกพะยูนวัยเด็ก เกยตื้นริมหาดอ่าวทึง พร้อมติดตามใกล้ชิดหวังว่าจะได้พบแม่ในทะเล และไม่ใช่ลูกของพะยูนเพศเมียที่พบติดอวนปูตายเมื่อ 2 วันก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.กระบี่ วันที่ 25 มิ.ย. 2567 มีคลิปนาทีที่ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ กำลังช่วยกันนำลูกพะยูน เพศผู้ ปล่อยกลับลงสู่ทะเลบริเวณอ่าวทึง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่า ลูกพะยูนตัวดังกล่าว มาเกยตื้นอยู่ตรงชายหาด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่าน วัดขนาดตัวยาว 1 เมตร รอบลำตัววัดได้ 60 ซม. น้ำหนักประมาณ 30 กก. โดยลูกพะยูนตัวดังกล่าว ยังมีชีวิตอยู่ขณะเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ หลังปล่อยกลับลงสู่ทะเลลูกพะยูนตัวนี้ ก็ว่ายน้ำออกสู่ทะเลได้ตามปกติ นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หน.อุทยานฯ เผยว่า ลูกพะยูนตัวนี้ถือว่าโชคดีที่ เจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือได้ทัน ทำให้ยังมีชีวิตรอด ซึ่งหลังปล่อยกลับลงสู่ทะเลก็ยังมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง ว่ายน้ำได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุที่เกยตื้น อาจเป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงมีลมมรสุม คลื่นซัดแรง อาจพาให้ลูกพะยูนเข้ามาใกล้แนวชายฝั่งได้ และเชื่อว่าเป็นลูกพะยูนตัวที่ทางอุทยานฯ บินสำรวจพบหากินอยู่แถบนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ส่วนจะเป็นลูกของพะยูนเพศเมียที่ถูกพบติดอวนปูชาวบ้านตายที่หาดอ่าวนาง เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมาหรือไม่ ยังไม่แน่ใจ แต่ก็อาจเป็นไปได้ เพราะหากลูกพะยูน ว่ายหากินอยู่กับแม่ อาจจะไม่เกยตื้นแบบนี้ก็ได้ ตอนนี้ตนประสานไปที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ตรัง เพื่อขอให้ตรวจสอบซากพะยูนที่ตายก่อนนี้ ว่าเคยผ่านการมีลูกมาแล้วหรือไม่ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนตลอดแนวชายหาดใกล้เคียง และบินโดรนติดตามลูกพะยูนตัวนี้ ว่ายังว่ายหากินอยู่ตัวเดียวหรือไม่ หรือกลับไปอยู่กับแม่มันแล้ว https://www.thairath.co.th/news/local/south/2796111
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
กรมประมงจับไม่หยุด "ปลาหมอคางดำ" เดินหน้าฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงและประมงจังหวัดสมุทรสงคราม จัดกิจกรรม "ลงแขก-ลงคลอง" ครั้งที่ 4 จับปลาไม่หยุด ขับเคลื่อนนโยบายการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศและคืนความหลากหลายทางชีวภาพสู่ธรรมชาติและชุมชน สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงครามขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ตลอดจนมีการบูรณาการมาตรการแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งการควบคุมปริมาณและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด และมีการพัฒนาเครื่องมือประมงที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดปลาหมอคางดำ ตามเป้าหมายในการลดปริมาณปลาชนิดนี้อย่างมีนัยสำคัญ กิจกรรม "ลงแขก-ลงคลอง" ครั้งที่ 4 จัดขึ้น ณ คลองแพรกหนามแดง หมู่ที่ 4 ตำบลแพรกหนามแดง อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่พบการระบาดของปลาหมอคางดำในระดับต้นๆ ตามแผนงานของกรมประมง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนในชุมชน อย่างไรก็ตาม ในการจับปลาแต่ละครั้งและแต่ละพื้นที่มีปัญหาและอุปสรรคแตกต่างกัน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เคยละความพยายามในการจับปลา โดยมีการปรับเปลี่ยนวิธีการและเครื่องมือให้เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น สำหรับปัญหาและอุปสรรคที่พบในวันนี้ คือ ในคลองมีท่อนไม้และกิ่งไม้ชิ้นใหญ่จำนวนมาก มีเศษวัสดุเหลือใช้ถูกนำมาทิ้งจมอยู่ใต้น้ำ ทำให้การลากอวนไม่ถึงหน้าดิน ปลาหมอคางดำจึงหลุดรอดออกไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ปรับวิธีการโดยนำตาข่ายมาดักจับเพิ่มเติมอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการเล็ดลอดของปลาหมอคางดำ สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสงคราม รายงานว่า จากกิจกรรมลงแขก-ลงคลอง ครั้งที่ผ่านมาพบมีสัตว์น้ำตามธรรมชาติชนิดอื่นๆ ติดขึ้นมากับการจับปลาด้วย เช่น กุ้งทะเล กั้ง ปู แมงดาทะเล นับเป็นสัญญาณที่ดีด้านความหลากหลายทางชีวภาพ แต่ยังต้องรอสรุปประเมินผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมตามหลักวิชาการเพื่อความถูกต้องและแม่นยำอีกครั้ง จากกิจกรรม 3 ครั้งที่ผ่านมาสามารถจับปลาหมอคางดำได้ 740 กิโลกรัม และมีการนำไปเพิ่มมูลค่าเป็นปุ๋ยชีวภาพ ผลิตภัณฑ์อาหารและเมนูอาหารต่างๆ นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการจับปลาหมอคางดำเพื่อการบริโภคและใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์และสร้างสรรค์เมนูอาหารในรูปแบบใหม่ๆ ตามแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มและเป็นรายได้ให้คนในชุมชน เพื่อจูงใจให้มีการจับปลาหมอคางดำมากขึ้น โดยดำเนินการควบคู่ไปกับกิจกรรมลงแขก-ลงคลอง กำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติทุกพื้นที่ของจังหวัดสมุทรสงคราม ทั้งนี้ การแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ เป็นมาตรการเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการควบคุมและลดการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เน้นการจับด้วยเครื่องมือประมงที่มีประสิทธิภาพและเหมาะกับสภาพพื้นที่ ควบคู่กับการกำจัดปลาหมอคางดำในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงการปล่อยปลาผู้ล่าเพื่อช่วยกำจัดลูกปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำซึ่งเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของปลาดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้าลดปริมาณปลาหมอคางดำอย่างจริงจังนำร่องใน 5 จังหวัด คือ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ เพชรบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยมุ่งเน้นการแก้ไขแบบบูรณาการด้วยการผนึกกำลังกัน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมมากที่สุดในการบรรเทาความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ ช่วยฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและความอุดมสมบูรณ์ให้กลับคืนสู่แหล่งน้ำอย่างยั่งยืน https://mgronline.com/business/detai...54323?tbref=hp
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
ปรากฏการณ์?น้ำทะเลบางแสนหนุนสูง ดันคลื่นกว่าเมตรพัดเข้าชายหาดกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ศูนย์ข่าว?ศรี?ราชา ?- ปรากฏการณ์?น้ำทะเลบางแสนหนุนสูงกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองแสนสุขเร่งเก็บกวาดขยะถูกคลื่นเกลื่อนชายหาดจนแล้วเสร็จ ด้านชาวประมงในพื้นที่บอกตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเห็น จากกรณีที่เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์?น้ำทะเลชายหาดบางแสนหนุนสูงจนทำให้น้ำทะเลทะลักท่วมถนนสายชายหาดวอนนภา-บางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี นอกจากนั้น พายุลมแรงยังพัดคลื่นทะเลสูงกว่า 1 เมตร จนทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าลงเล่นน้ำนั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 10.10 น. วันนี้ (25 มิ.ย.)? ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าแนวชายหาดมีเศษขยะถูกคลื่นซัดเกลื่อน ทำให้เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองแสนสุข ต้องเร่งเก็บกวาดขยะตลอดแนวชายหาดเพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็ว จากการสอบถาม นายประกิต แววเพชร อายุ 60 ปี ผู้ประกอบการให้เช่าเสื่อ กล่าวว่าตนเปิดกิจการให้เช่าเสื่อบฝชายหาดบางแสนมานานกว่า 10 ปี ไม่เคยเจอน้ำทะเลมีคลื่นสูงและลมแรงเช่นนี้มาก่อน ซึ่งสาเหตุน่าจะเกิดจากลมมรสุมที่พัดคลื่นทะเลให้สูงขึ้นจนนักท่องเที่ยวพากันเดินทางกลับตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ แต่ขณะนี้น้ำทะเลเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เช่นเดียวกับ นายสัมฤทธิ์ พิพัฒน์ อายุ 65 ปี ชาวประมงในพื้นที่บอกว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นลมพัดคลื่นสูงเช่นนี้มาก่อน และในครั้งนี้ยังเป็นครั้งแรกที่น้ำทะเลหนุนสูงและลมแรงพัดคลื่นซัดเข้าชายหาดจนถึงถนน จนนักนักท่องเที่ยวไม่กล้าลงเล่นน้ำทะเล "ตอนนี้น้ำทะเลลดลงสู่ปกติแล้ว ส่วนขยะตามชายหาดเจ้าหน้าที่เร่งเก็บกวาดจนหมดแล้ว ขอให้นักท่องเที่ยว?กลับมาเที่ยวชายหาดทะเลบางแสนได้เช่นเดิม" ชาวประมงในพื้นที่ กล่าว https://mgronline.com/local/detail/9...54190?tbref=hp
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|