|
#1
|
||||
|
||||
เต่าทะเลใกล้สูญพันธุ์
เต่าทะเลใกล้สูญพันธุ์ นายประวิม วุฒิสินธุ์ รองอธิบดี รักษาการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า ทช. พยายามนำเต่าทะเลกลับคืนสู่ธรรมชาติ แต่ยังไม่สามารถชดเชยกับจำนวนที่สูญเสียไปได้ เนื่องจากอัตราการรอดของลูกเต่าทะเลในธรรมชาติมีน้อยมาก ประกอบกับการพัฒนาประสิทธิภาพเครื่องมือทำการประมงทำให้เต่าทะเลถูกทำลายโดยการประมงใกล้ฝั่งปีละจำนวนมาก และถึงแม้ว่าจะมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองและอนุรักษ์เต่าทะเลออกมาหลายฉบับ แต่จำนวนเต่าทะเลก็ยังลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว จากวิกฤติการณ์ดังกล่าว ที่ผ่านมา ทช.จึงพยายามเร่งวิจัยเต่าทะเลที่ได้รับการอนุบาลอายุระหว่าง 1-2 ปี จะมีพฤติกรรมการหากินเหมือนเต่าทะเลอายุระหว่าง 3-5 ปี ที่โตตามธรรมชาติหรือไม่ ซึ่งผลจากการวิจัยทำให้ทราบว่าเต่าที่ได้รับการอนุบาลก่อนปล่อยออกสู่ทะเลจะไม่ออกหากินไกลจากชายฝั่งมากนัก ซึ่งถือว่าเป็นภาวะเสี่ยงสำหรับเต่าทะเลในอนาคต จึงได้มอบหมายให้นักวิชาการเร่งวิจัยแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนต่อไป ทางด้าน นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการของสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ทช. กล่าวว่า สถาบันฯเห็นว่าควรจะอนุบาลเต่าตนุให้มีอายุครบ 1 ปี หรือมีขนาดกระดองเท่ากับเต่าอายุ 3-5 ปี ในธรรมชาติคือ ขนาด 25-35 ซม. จึงจะปล่อยกลับทะเลได้ เพื่อให้เต่ายังคงหากินใกล้กับชายฝั่งและ มีโอกาสรอดไปจนถึงวัยผสมพันธุ์ จึงได้ทดลองโดยอนุบาลเต่าตนุจำนวน 13 ตัว โดยให้ปลา ปลาหมึก และวิตามินเสริม เป็นอาหารเพื่อให้มีขนาดใหญ่ตามต้องการ จากนั้นเริ่มปล่อยเต่าตัวแรกในปี 2538 และตัวสุดท้ายในปี 2552 โดยติดตั้งเครื่องมือติดตาม พบว่าเต่าทั้ง 13 ตัว อายุตั้งแต่ 1-5 ปี ว่ายน้ำหากินใกล้กับชายฝั่ง ซึ่งผลจากการวิจัยนี้สรุปได้ว่า การปล่อยเต่าหลังจากอนุบาลแล้ว 1 ปี หรือมีขนาดใกล้เคียงกับเต่าที่โตแล้วตามธรรมชาติ สามารถลดความเสี่ยงที่เต่าจะเสียชีวิตก่อนถึงวัยเจริญพันธุ์ได้. จาก : เดลินิวส์ วันที่ 7 เมษายน 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
รู้ปัญหาแล้วแ้ก้ให้ถูกจุดหรือเปล่า ..
จากข่าว ปัญหาคือ .. 1. อัตรารอดของลูกเต่าธรรมชาติมีน้อย 2. เต่าตายจากการประมงเป็นจำนวนมาก การเพาะพันธุ์อาจเป็นการแก้ปัญหาแรก แล้วปัญหาที่สองล่ะครับ ..
__________________
If we see the hearts of others, peace will follow You may say I'm a dreamer .. but I'm not the only one: John Lennon |
#4
|
||||
|
||||
การปลูกจิตสำนึกน่ะ น้องปี๊บ มันยากยิ่งกว่าการปลูกต้นไม้อีกน่ะ
หากยิ่งถ้าไปขัดแย้งกับการทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของพวกชาวประมง ยิ่งยากใหญ่สุดๆๆ เป็นปัญหาระดับโลกแตก ยังแก้ไม่ได้เลย....
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS |
#5
|
|||
|
|||
เห็นด้วยกับพี่ติ่งค่ะ ถ้าเป็นคนเมือง ปลูกจิตสำนึกยังช่วยได้ เพราะสิ่งที่เค้าทำ หรืองดเว้นไม่ทำ ไม่ได้เกี่ยวกับปากท้องเค้า แต่กับชาวประมง จะไปห้ามเค้า แล้วกระทบปากท้องเค้าก็คงยาก
เหมือนฉลามที่เรารณรงค์ห้ามจับ แล้วให้คิดในแง่การท่องเที่ยว จะได้เม็ดเงินมากกว่าการจับไปขาย แต่เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเหล่านั้น ไม่ได้เข้ามือชาวประมง เค้าก็ไม่สนใจจะงดจับหรอกค่ะ |
#6
|
||||
|
||||
เห็นด้วยค่ะว่าเรื่องปัญหาปากท้องสำหรับคนบางคนหรือบางกลุ่มบางพวกนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทำให้คนกล้าที่จะทำผิดกฎหมายและเสี่ยงตายได้ง่ายๆ.... เขาคงคิดว่า....มัน 50:50 ถ้ารอดจากการถูกจับก็อิ่มท้อง หรือถึงขั้นมีกินมีใช้ไปจนถึงขั้นร่ำรวย แต่เขาไม่คิดว่าการกระทำผิดๆนั้น อาจเป็นการทุบหม้อข้าวของตัวเอง....มีกินมีใช้วันนี้ แต่วันข้างหน้าจะลำบากยากแค้นกว่าเดิมมากมายเพียงใด คนประเภทนี้......ถ้าเป็นบัวใต้น้ำก็พอจะทำให้โผล่พ้นน้ำได้ด้วยการให้ความรู้ที่ถูกที่ควร และเน้นให้คำนึงถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว มองถึงผลในอนาคตข้างหน้า... แต่ถ้าเป็นบัวที่จมอยู่ใต้โคลนตมก็คงจะยากที่จะให้โผล่พ้นน้ำด้วยวิธีการที่นิ่มนวล คงต้องใช้วิธีขุดรากถอนโคน โดยการใช้กำหนดกฎเกณฑ์...กฎหมายที่บังคับใช้แบบเข้มงวดกวดขัน ไม่ใช่ทำแบบเขียนเสือให้วัวกลัวอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้....
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-04-2010 เมื่อ 14:20 |
#7
|
||||
|
||||
เอาใจช่วยทุกๆฝ่าย ให้อนรุักษ์ได้สำเร็วด้วยเถ๊อะ สาธู๊..(^人^)
__________________
: : ★ เงือกสีส้มจี๊ด : : ★ \( ̄︶ ̄)> ❤ Wish I could be .. Part Of That World ( From OST. ♪ SONG ♬ "The Little Mermaid" ) |
|
|