|
#1
|
||||
|
||||
ตามเจ้าออกเที่ยว ... ในเทศกาลกินเจ จ.ตรัง
จริงๆแล้ว ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวหรอกครับว่าที่ตรังกำลังมีเทศกาลกินเจ ทราบแต่ว่าที่ภูเก็ตกำลังมีงานกันอยู่ สองสายอยู่ที่กระบี่ แต่ยังไม่ถึงวันที่เขานัดเก็บ Tarball กัน จึงได้เดินทางลงไปตรังก่อนกำหนด พอเข้าเมือง รถก็ติดกันแน่นขนัดหน้าศาลเจ้าแห่งหนึ่ง ก็เข้าใจว่า ต้องเป็นช่วงเทศกาลกินเจเหมือนที่ภูเก็ตแน่เลย .... พอได้พบคุณจิ๋ม (แม่น้อง ploybabe) ที่ร้านเลตรัง 2 เธอบอกว่า วันนี้วันแห่เจ้าออกเที่ยว ให้สองสายอยู่ด้วยกันก่อน ไอ้เราก็ใจง่าย ประกอบกับอยากดูพิธีแห่เจ้า ส่งเจ้าอยู่แล้ว จึงตอบตกลง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ก่อนไปถึงช่วงต่อไป .... มาทำความรู้จักกับเทศกาลกินเจของ จ.ตรังกันก่อน จาก www.Trangzone.com บรรยายไว้ว่า ประเพณีถือศีลกินเจจังหวัดตรัง ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งเป็นชุมชนดั้งเดิมในจังหวัดตรังที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน เมื่อถึงหน้าเทศกาล ชาวไทยเชื้อสายจีนผู้นับถือและศรัทธาในประเพณีถือศีลกินเจ จะงดรับประทานอาหารที่ปรุงจากเนื้อสัตว์ พืชผักที่มีกลิ่นฉุน ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ทุกชนิด และนุ่งขาวห่มขาวตลอดระยะเวลาของงานประเพณี 9 วัน 9 คืน โดยในระหว่างช่วงงานประเพณีนั้น ศาลเจ้าจีนแต่ละแห่งจะจัดขบวนแห่ "ร่างทรง" หรือ "ม้าทรง" ซึ่งเชื่อกันว่า"เจ้า" ลงประทับแล้ว จากการแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการทรมานร่างกายตนเองหลากรูปแบบ ออกเยี่ยมเยือนประชาชนผู้ศรัทธาที่ตั้งโต๊ะบูชาพร้อมกับจุดประทัดเพื่อเป็นการรับ"เจ้า" อย่างกึกก้องตามถนนสายต่างๆในเขตอำเภอเมืองและอำเภออื่นๆรอบนอก งานประเพณีถือศีลกินเจจะจัดขึ้นระหว่างวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน ประเพณีกินเจจังหวัดตรัง เป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่ออัญเชิญพระอิศวร เทพนพเก้า 9 องค์ และพุทธสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก มาประทับร่างทรงเพื่อโปรดสาธุชนคนบุญ ซึ่งจะจัดโต๊ะบูชาไว้ต้อนรับพร้อมการจุดประทัดเสียงดังกึกก้องบูชา สำหรับรับร่างคนทรงหรือม้าทรงนั้น ทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการทำร้ายตัวเอง เช่น การลุยไฟหรือทิ่มแทงตามร่างกายบ้าง เชื่อกันว่าเพื่อรับเคราะห์กรรมแทนมนุษย์นั่นเอง เป็นพิธีกรรมที่แต่งแต้มสีสันให้กับศรัทธา และตั้งอยู่บนพื้นฐานอันแน่วแน่ที่มุ่งสร้างความบริสุทธิ์ให้เกิดขึ้นทั้งกายและใจ โดยรับประทานอาหารเจอันบ่งบอกถึงความไม่ต้องการเบียดเบียนสัตว์อื่นใดทั้งปวง เพื่อรักษาจิตให้ผ่องใส ก่อให้เกิดปัญญาธรรม ประชาชนจะนุ่งขาวห่มขาว สำหรับกิจกรรมของงานประกอบด้วยการแสดงพลุไฟ การแสดงมังกร มีการจำหน่ายอาหารเจธงฟ้า ราคาถูก สำหรับสถานที่จัดงาน มี 2 แห่ง คือ ศาลเจ้ากิวอ๋องเอี่ยและหมื่นราม
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
www.lib.ru.ac.th ได้อธิบายละเอียดขึ้นอีกนิด ดังนี้ :
เทศกาลกินเจ เป็นประเพณีของชาวจีนที่สืบทอดกันมานับพันปีและ ประเพณีนี้ ก็ได้ตกทอดมาสู่คนไทยเชื้อสายจีนที่บรรพบุรุษอพยพมาอยู่ในประเทศไทย จังหวัดตรัง เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการสืบทอดประเพณีการกินเจมานานถึง 150 ปี โดยชาวจีนที่อพยพล่องเรือมาขึ้นท่าที่จังหวัดตรัง โดยมีหลักฐานการค้นพบหลักฐานการตั้งศาลเจ้าที่บ้านท่าจีน ริมแม่น้ำกันตัง อ.กันตัง ก่อนที่จะมีการย้ายศาลเจ้ามาอยู่ในตัวเมืองเมื่อหลายสิบปีก่อน ตรังเป็นจังหวัดแรกๆของประเทศที่ได้จัดงานเทศกาลกินเจ เพียงแต่ไม่โด่งดังเหมือนเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมกินเจ และเที่ยวชมเทศกาล แต่จังหวัดตรังก็มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะคนไทยเชื้อสายจีนที่อยู่ในมาเลเซีย และสิงคโปร์ เดินทางมาร่วมงานกินเจปีละจำนวนมาก ไม่นับลูกหลานชาวตรัง ที่เมื่อถึงเทศกาลกินเจก็จะกลับไปร่วมพิธีที่บ้านเกิด ประเพณีถือศีลกินเจ เป็นการชำระล้างร่างกายจิตใจให้สะอาด โดยการละเว้นโลกียวัตร และถือศีล 5 โดยเคร่งครัด ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เบียดเบียนชีวิตสัตว์ งดเว้นอารมณ์ทางเพศ งดเว้นการพูดเท็จ และงดเว้นการดื่มสุรา ดำรงชีพด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เอาชีวิตสัตว์มาบำรุงชีวิตตัวเอง ไม่เอาเลือดสัตว์มาเป็นเลือดของตัวเอง ไม่เอาเนื้อสัตว์มาเป็นเนื้อของตัวเอง และไม่เบียดเบียนตัวเอง และงดบริโภคผักที่มีรสฉุน มีการสวดมนต์ทำสมาธิแผ่เมตตาจิต และขอพรเพื่อความเจริญของตัวเองและครอบครัว ในแง่ของตำนวนการกินเจ มีตำนานที่ เล่ากันมาหลายตำนาน ตำนานของบางหมู่บ้านบอกว่า เป็นการรำลึกถึงพวก “หงี่หั่วท้วง” ซึ่งเป็นนักรบที่ออกไปต่อต้านแมนจูที่บุกรุกแผ่นดินจีนในสมัยโบราณ นักรบเหล่านี้จะมีการทำพิธีก่อนจะออกศึก จะมีการนุ่งขาวห่มขาวและปักธูป 1 ดอก จะถือศีลเวลาออกรบ เชื่อว่าจะอยู่ยงคงกระพัน มักได้ชัยชนะกลับมา ต่อมามีการกินเจเพื่อเป็นการรำลึก ตำนานหนึ่งบอกว่า การกินเจ ที่เริ่มต้น ในเดือน 9 เพราะคนจีนเชื่อว่า ช่วง 10 วันแรกของเดือน 9 เป็นช่วง ฮุโจ้ว หรือพระพุทธศักดิ์สิทธิ์ที่สุด องค์ที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ คือ เก่ฮวงฮุดโจว หรือพระพุทธ 9 องค์ เสด็จมาจากสวรรค์เพื่อลงมาโปรดสัตว์ ในเมืองมนุษย์ ประเพณีการกินเจ จึงจะมีการแห่แหนองค์ศักดิ์สิทธิ์ที่ประจำอยู่ในแต่ละศาลเจ้าออกไปเยี่ยม -เยียนประชาชน หรือบุตรหลาน เพื่อเป็นศิริมงคล เทศกาลกินเจ เริ่มในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 จนถึง 9 ค่ำ เป็นเวลา 9 วัน 9 คืนของทุกปี ซึ่งในปีนี้ มีศาลเจ้า 2 แห่ง ที่เป็นจุดศูนย์รวมของการกินเจ คือ ศาลเจ้าพ่อหมื่นราม และศาลเจ้ากิ๋วอ๋องเอี่ย ซึ่งทั้งสองศาลเจ้า จะทำอาหารเจเลี้ยงคนที่กินเจตลอดทั้ง 9 วัน โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แล้วแต่ใครจะบริจาค แต่หากจะผูกปิ่นโตไปกินที่บ้าน จะคิด 300 บาท วันละ 3 มื้อ ซึ่งในแต่ละวันจะมีคนไปร่วมกินเจทั้งคนตรัง ลูกหลานชาวตรังในต่างถิ่น และนักท่องเที่ยว เดินทางไปร่วมกินเจวันละนับพันคนจนแน่นโรงเจ ตลอด 9 วัน มีคนไปร่วมกินเจนับหมื่นคน ทั้งสองศาลเจ้ามีการแห่แหนองค์ศักดิ์สิทธิ์ ไปเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวจีนตามชุมชนต่างๆ รอบเมืองตรังการแห่แหนองค์ศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้า ทั้งสองแห่ง เป็นที่ตื่นตาตื่นใจ นอกจากมีริ้วขบวนที่สวยงามแล้ว ยังมีการประทับร่างทรงของเจ้า เพื่อออกเยี่ยมเยียมประชาชน มีการ แทงปาก แทงคอ ฟันตัวเอง ของร่างทรง เป็นที่หวดเสียว มีพิธีการปีนบันไดมีดของศาลเจ้ากิ่วอ๋องเอี่ย แต่ไม่มีพิธีลุยไฟ เหมือน ที่เคยจัดมา ส่วนของศาลเจ้าหมื่นรามไม่มีการแทงตัวเองมาแล้ว 2 ปี โดยกรรมการศาลเจ้าบอกว่า องค์ศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องการให้มีต้องการให้การกินเจเป็นการแผ่เมตตา ตลอดเส้นทางที่ขบวนขององค์ศักดิ์สิทธิ์ผ่านผู้มีจิตศรัทธาก็จะตั้งโต๊ะหมู่บูชา ขอพรจากองค์ศักดิ์สิทธิ์ มีการจุดประทัดสนั่นหวั่นไหวไปทั่วเมือง เป็นที่สนใจของผู้พบเห็น และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 27-11-2009 เมื่อ 11:19 |
#4
|
||||
|
||||
อีกเว็บไซท์หนึ่ง ที่ให้รายละเอียดของเทศกาลกินเจได้ค่อนข้างละเอีดและชัดเจนคือ www.watkoh.com
ช่วงเวลา การถือศีลกินเจของชาวตรังตรงกับวันขึ้น ๑ ค่ำ ถึง ๙ ค่ำ เดือน ๙ ของจีน (ตรงกับเดือน ๑๑ ของไทย ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมทุกปี) โรงศาลเจ้าทุกโรงจะกำหนดการกินเจพร้อมกัน การประกอบพิธีกรรมจะใช้สถานที่บริเวณโรงศาลเจ้าของแต่ละแห่ง ความสำคัญ พิธีถือศีลกินเจจะเป็นพิธีที่มีความสำคัญดังนี้ ๑. เป็นการบำเพ็ญศีล สมาทานกินเจ บริโภคแต่อาหารผักและผลไม้ เป็นการละเว้นการทำบาป ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต รักษาศีลทำจิตใจให้บริสุทธิ์ งดการเที่ยวเตร่ ไม่ดื่มของมึนเมา ผู้ศรัทธาที่กินเจจะสวมเสื้อผ้าสีขาวและสวดมนต์ทำสมาธิภาวนาแผ่เมตตาจิต ขอพรให้ตนเองและครอบครัว ๒. เป็นการสะเดาะเคราะห์ปัดเป่าความชั่วร้าย โรคภัยไข้เจ็บให้ออกไปจากตัวผู้ที่ถือศีลกินเจ ๓. เกิดความสามัคคีในหมู่ผู้ที่ศรัทธาที่เข้าร่วมพิธีถือศีลกินเจ ต่างก็ยิ้มแย้มเป็นมิตรมีไมตรีต่อกัน มีการบริจาคทรัพย์สำหรับเป็นค่าอาหารและค่าใช้จ่ายในโรงครัว เพื่อให้มีอาหารเพียงพอ มีอาสาสมัครมาช่วยงานทำงานครัวเป็นจำนวนมาก พิธีกรรม ประเพณีถือศีลกินเจเป็นประเพณีที่มีการผสมผสานของลัทธิความเชื่อต่าง ๆ หลายลัทธิ ได้แก่ ลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื่อ ลัทธิการนับถือเทวะ และพุทธศาสนานิกายมหายาน การประกอบพิธีกรรม ๑. ก่อนพิธีหนึ่งวัน จะมีการทำความสะอาดศาลเจ้า รมกำยาน ไม้หอม และยกเสาธงเต๊งโก ไว้หน้าศาล เพื่ออัญเชิญดวงวิญญาณของเจ้า พอถึงเวลาเที่ยงคืนจะประกอบพิธีอัญเชิญยกอ๋องฮ่องเต้ และกิวอ๋องไตเต้มาเป็นประธานในพิธี พร้อมกับแขวนตะเกียงน้ำ ๙ ดวง ซึ่งหมายถึงดวงวิญาณขององค์กิวอ๋องไตเต้ เป็นอันว่าพิธีกินเจได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลังจากพิธีรับเจ้าเข้ามาเป็นประธานในศาลแล้ว ก็จะทำพิธีวางกำลังทหารรักษาการณ์ตามทิศต่างๆ ๒. การเตรียมการกินเจ ผู้ศรัทธาที่จะร่วมถิอศีลกินเจจะทำความสะอาดภาชนะเครื่องใช้ในการประกอบ อาหารให้สะอาดหมดกลิ่นคาว จัดแยกเครื่องใช้ไว้เฉพาะไม่ปะปนกับเครื่องใช้ทั่วไป บางบ้านจะนำภาชนะชุดใหม่มาประกอบอาหารและใส่อาหารเจ บางบ้านจะรับอาหารจากโรงปรุงของศาลเจ้า ๓. พิธีกรรมตลอด ๙ วัน ของการกินเจ มีดังนี้ ๓. ๑ พิธีบูชาเจ้า ทำในวันแรก บูชาด้วยเครื่องเซ่นต่างๆ ทั้งที่ศาลเจ้า และที่บ้านของผู้ที่กินเจ เมื่อกินเจครบสามวัน ถือว่าผู้กินเจได้ชำระร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ได้สะอาดบริสุทธิ์ ๓.๒ พิธีโขกุ้น เป็นพิธีเลี้ยงทหารที่รักษาการณ์ตามทิศต่างๆ จะทำพิธีในวัน ๓ ค่ำ ๖ ค่ำ และ ๙ ค่ำ มีอาหารและเหล้าเซ่นสังเวยเลี้ยงทหาร ๓.๓ พิธีซ้องเก็ง เป็นพิธีการสวดมนต์ พิธีนี้จะเริ่มตั้งแต่องค์กิวอ๋องไตเต้ เข้ามาประทับในศาลและจะกระทำกันทุกๆวัน วันละ ๒ ครั้ง ในตอนเช้าและตอนค่ำ ๓. ๔ พิธีบูชาดาว จะทำในคืนวัน ๗ ค่ำ เพื่อขอความคุ้มครองให้แก่ผู้กินเจ ในพิธีบูชาดาว จะมีการแจกฮู้ (กระดาษยันต์) เพื่อคุ้มครองผู้กินเจ ๓.๕ พิธีแห่เจ้า (ออกเที่ยว) เป็นพิธีที่เจ้าทั้งหมดออกเยี่ยมลูกหลานตามบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลและปัดเป่าความชั่วร้าย ศาลเจ้าแต่ละโรงจะออกเยี่ยมไม่พร้อมกัน พิธีนี้จะจัดเป็นริ้วขบวน แห่แหนไปตามถนนสายต่างๆ บรรดาชาวบ้านที่จะศรัทธาจะตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้ไว้รับพระและจุดประทัด เมื่อขบวนผ่าน เจ้าองค์ที่เข้าประทับทรงจะแสดงอิทธิฤทธิ์อภินิหารโดยใช้ของมีคม เหล็กแหลม ทิ่มแทงตามส่วนต่างๆของร่างกาย ๓.๖ พิธีลุยไฟ เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์ของเจ้า จึงมีการก่อกองไฟให้เป็นถ่านแดงระอุร้อน เจ้าที่เข้าประทับคนทรงจะเข้าไปวิ่งลุยผ่านกองไฟ เพื่อแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์และอิทธิฤทธิ์ ผู้ที่ถือศีลกินเจก็จะเข้าไปลุยไฟด้วยเพื่อให้ไฟทิพย์ชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ ๓.๗ พิธีส่งพระ ทำกันในวันสุดท้ายของการกินเจ พิธีนี้แบ่งออกเป็น ๒ ภาค คือภาคกลางวันจะส่งเทวดาเง็กเซียนฮ่องเต้ ซึ่งทำกันที่เสาธง และภาคกลางคืนจะส่งองค์กิวอ๋องไตเต้ ซึ่งจะทำกันตอนเที่ยงคืน โดยผู้กินเจจะเดินไปส่งกันที่ฝั่งน้ำเพราะเจ้าจะกลับสวรรค์ทางทะเล และทันทีที่คณะส่งเจ้าออกพ้นประตูศาลไฟทุกดวงจะต้องดับสนิท แล้วปิดประตูใหญ่ รุ่งขึ้นจะลดเสาธง เรียกทหารพร้อมกับเลี้ยงทหารและส่งกลับ เสร็จแล้วก็เปิดประตูใหญ่เมื่อได้ฤกษ์ตามวัน/เวลาที่เจ้าสั่งไว้ สาระ พิธีกินเจ เป็นพิธีที่แสดงออกถึงการละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต และเว้นอบายมุขทั้งหมด และเป็นพิธีก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่สมาชิกที่มาร่วมพิธี
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
สองสายเองพยายามหาโอกาสมาชมพิธีนี้มานานแล้ว แต่วันเวลาว่างไม่เคยตรงกันเลย ครั้งนี้ ต้องนับว่าเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ มาถึงตรังในช่วงบ่าย ซึ่งบางศาลเจ้าก็เริ่มออกมาเยี่ยมลูกหลานกันแล้ว เสียงประทัดดังสนั่นลั่นถนน เร้าใจจนทนไม่ได้ ต้องขอคุณสายชลออกไปเดินสังเกตการณ์สักหน่อย พอเห็นม้าทรงออกมาเดินถนนบ้างแล้ว และได้แวะเยี่ยมประชาชนที่ตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นรออยู่
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#6
|
||||
|
||||
บ้านไหนร้านไหนจะเชิญเจ้าให้แวะไปเยี่ยม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่กิจการ ตัวเอง และลูกหลาน ก็จะแขวนประทัดเป็นตับยาวไว้ที่หน้าร้านหรือหน้าบ้าน พวกคนแบกเกี้ยวจะหามเกี้ยวแวะเข้าไป .... พอจุดประทัดเปรี้ยงปร้างขึ้นมา คนหามเกี้ยวจะเต้นไปๆมาๆอยู่ใต้ราวประทัดนั่นเอง ขนาดยืนถ่ายภาพอยู่ห่างๆ หูยังอื้อยิ่งกว่าตอนน้ำเข้าหูเสียอีก แถมยังโดนลูกหลงเข้าไปหลายเม็ด แต่แสบๆร้อนๆเดี๋ยวเดียวก็หาย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#7
|
||||
|
||||
ดูแล้ว ก็ทึ่ง สำหรับ ศรัทธา ค่ะ พี่จ๋อม
ขอบพระคุณมากนะคะ ปีนี้ เฝ้าโรงแรม ไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ
__________________
Superb_Sri_Nuan.Ray ณ SOS |
#8
|
||||
|
||||
ดีจังเลยค่ะ...เหมือนไปสัมผัสมาด้วยตัวเองค่ะ......หูอื้อๆๆๆๆๆๆ
จะมีวาสนาร่วมงานกับเขาสักปีไหมหนา???????? ขอบคุณค่ะพี่สองสายที่ตามไปเก็บภาพงามๆมาฝากพวกเรา....อีกแล้ว (แบบว่า ไม่มีปัญญาไปเอง....ต้องพึ่งพี่ๆๆๆ5555) |
#9
|
||||
|
||||
Udomlert
ขอบคุณพี่จ๋อม ที่นำภาพและบรรยากาศมาให้ชมกันครับ
ตอนเด็กๆ จำได้ว่า ข้างบ้านเป็นบ้านอาแปะร่างทรง ไม่น่าเชื่อว่า อายุ 70 กว่าแล้ว เวลาเข้าทรง แกวิ่งได้เป็นกิโลเลยครับ ตามแก้มที่เห็นเหล็กเสียบ เวลาก่อนเจ้าจะออกจากร่างทรง จะถอดเหล็กออก แล้วใช้เถ้าธูปอุดไว้ พอกินข้าวเสร็จ อาแปะก็มานั่งสูบยาหน้าบ้าน ควันบุหรี่ยังลอยออกมาจากรูที่เสียบเหล็กข้างแก้ม ออกมาเป็นสายอ้อยอิ่งอยู่เลยครับ แต่แกว่าไม่เจ็บ วันสองวันก็หายสนิท
__________________
We make a living by what we get, we make a life by what we give. (Winston Churchill) |
#10
|
||||
|
||||
ศรัทธาและความเชื่อ.......ก่อให้เกิดพลัง ที่จะทำให้มนุษย์ธรรมดาๆทำในสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจได้นะคะ
__________________
Saaychol |
|
|