สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 21 มกราคม 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-22 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดอุณหภูมิต่ำสุด 2-14 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ในยอดดอยของภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้

ฝุ่นละออง ในระยะนี้ บริเวณภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลมที่พัดปกคลุมบริเวณดังกล่าวเป็นลมอ่อน และมีปริมาณฝนบางพื้นที่เท่านั้น ทำให้ฝุ่นละอองยังคงสะสมได้ในระยะนี้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 21 - 23 ม.ค. 63 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยบริเวณภาคเหนือจะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-15 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกตามบริเวณชายฝั่ง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 24 - 26 ม.ค. 63 ภาคเหนือตอนบนอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 21 - 23 ม.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ รักษาสุขภาพเนื่องสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เต่ามะเฟืองขึ้นหาดทรายแก้วภูเก็ต วางไข่รังที่ 2 ล้อมคอกป้องกันถูกกวน

ภูเก็ตมีเฮพบแม่เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่หาดทรายแก้ว ภูเก็ต จนท.อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ตรวจสอบพบเป็นรังที่ 2 คาดเป็นแม่เต่าคนละตัวกับหาดในทอน เร่งเก็บไข่มานับก่อนฝังทรายให้ฟักตามธรรมชาติต่อไป



เมื่อช่วงเช้าวันที่ 20 ม.ค.63 ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า พบร่องรอยการวางไข่ของเต่ามะเฟืองบริเวณด้านหลังศูนย์กู้ภัยอุทยานแห่งชาติที่ 6 หาดทรายแก้ว เขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ม.5.ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จึงพร้อมด้วยนายปรารภ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ.ภูเก็ต นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง จ.พังงา และเจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัยอุทยานแห่งชาติที่ 6 รุดไปตรวจสอบ

เบื้องต้นพบร่องรอยการขึ้นวางไข่ ขนาดรอยความกว้างของแม่เต่าวัดได้ 155 ซม.จึงได้ขุดสำรวจจนพบไข่เต่ามะเฟืองจำนวนหนึ่ง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไข่แดงได้ลอยชิดผิวไข่ คาดว่าแม่เต่าขึ้นวางไข่มาไม่น้อยกว่า 2 วัน จึงได้กลบหลุม โดยไม่มีการขุดขึ้นมาทำการนับจำนวน เพื่อปล่อยให้มีการเพาะฟักตามธรรมชาติต่อไป

สำหรับที่จังหวัดภูเก็ตนับว่าเป็นการขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่ามะเฟืองครั้งที่ 2 จากครั้งแรกได้ขึ้นวางไข่ที่หาดในทอน ต.สาคู อ.ถลาง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นแม่เต่าเป็นคนละตัวกับที่หาดในทอน เพราะมีขนาดร่องรอยใหญ่กว่ารอยหาดในทอนที่มีขนาดเพียง 130 ซม. อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ทำคอกล้อมบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันการรบกวน พร้อมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง.


https://www.thairath.co.th/news/local/south/1751885

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สุดยอดข่าวดี! เมื่อสัตว์ทะเลหายากหวนคืนถิ่นทะเลอันดามัน



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สุดยอดข่าวดี! พบสัตว์ทะเลหายากเริ่มกลับมาอวดโฉมให้เห็นมากขึ้นในทะเลอันดามัน สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่คนที่พบเห็น

เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทะเลอันดามันที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะมีข่าวเกี่ยวกับการพบเห็นสัตว์ทะเลหายากที่เราไม่ค่อยพบกันมาก่อนหน้านี้จำนวนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเต่ามะเฟือง ที่เริ่มกลับมาวางไข่ ซึ่งจนถึงขณะนี้มีจำนวนหลายรังแล้ว และเฉพาะฤดูกาลวางไข่นี้ พบว่า มีแม่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่แล้วถึง 7 รัง นอกจากนั้น ยังมีสัตว์ทะเลหายากอีกจำนวนมากที่โผล่มาอวดโฉมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ฉลามวาฬยักษ์ใหญ่ใจดี โลมา เต่าทะเล กระเบน และอื่นๆ อีกจำนวนมาก

สาเหตุที่ทำให้สัตว์ทะเลกลับมาให้เราได้พบเห็นอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ก็เนื่องจากความสมบูรณ์ของทะเลอันดามันเริ่มกลับมา ทั้งจากการปิดอ่าว การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เพื่อให้ธรรมชาติได้มีโอกาสฟื้นตัว เมื่อการรบกวนธรรมชาติลดน้อยลง การฟื้นตัวก็จะกลับมาเร็วขึ้น ทำให้ส่งผลดีในภาพรวมสัตว์ที่เคยห่างหายก็หวนกลับมาให้เห็นกันอีกครั้ง


https://mgronline.com/south/detail/9630000006197


*********************************************************************************************************************************************************


อีกแล้ว! เพจดังเผยภาพหวาดเสียว ปลาเต็กเล้งแทงทะลุคอ ชายรายหนึ่ง

เพจ "เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน" เผยภาพสยองหัวปลาเต็กเล้งได้แทงคอชายปริศนารายหนึ่ง เตือนนักดำน้ำเพราะปลาชนิดดังกล่าวมีอาการตกใจง่าย เมื่อตกใจจะว่ายพุ่งพรวดออกไป ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุการณ์ปี ทหารเรือสังกัด พัน.ส.พล.นย. ประสบอุบัติเหตุถูกปลาเต็กเล้งพุ่งชนบริเวณลำคอจนเสียชีวิต



วันนี้ (20 ม.ค.) เพจ "เจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน" เผยภาพหัวปลาเต็กเล้งแทงคอชายรายหนึ่งจนทะลุ ที่มีลักษณะปากคมแหลม เตือนนักดำน้ำเนื่องจากปลาชนิดดังกล่าวเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในโลก เพราะมีกระดูกหลังที่มี่ความยื่นหยุนสูง สามารถพุ่งจากน้ำได้เร็วถึง 60 กม./ชม. และในช่วงอพยพจะมีความเร็วมากถึง 90 กม./ชม. ปากกว้าง มีฟันแบบวิลลิฟอร์ม ครีบหลังและครีบก้นมีอย่างละ 2 ครีบ ไม่มีครีบฝอย ครีบท้องมีก้านครีบ 1-3 ก้าน มีสันที่คอดหลาง ครีบห้างเว้าลึก นอกจากนี้ ปลาเต็กเล้งยังมีอาการตกใจง่าย เมื่อตกใจจะว่ายพุ่งพรวดออกไป แต่จะไม่จู่โจมหรือเข้ามาทำร้ายคน เพราะมันกลัวคนและจะว่ายหนีคน

ผู้โพสต์ระบุว่า "ภาพรวมน่ากลัวมาก ขอเอามาลงแค่นี้ เดี๋ยวคงเป็นข่าว ใครอยากดูเพิ่มว่ามันแทงอะไรใคร ลองหาดูเอา เต็กเล้ง ธนูแห่งทะเล" โดยก่อนหน้านี้ เกิดเหตุการณ์กรณี จ่าโทเกรียงศักดิ์ เพ่งพานิช อายุ 22 ปี ทหารเรือสังกัด พัน.ส.พล.นย. ประสบอุบัติเหตุถูกปลาเต็กเล้งพุ่งชนบริเวณลำคอจนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ขณะฝึกรีคอนในทะเล พื้นที่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด โดยญาติได้เดินทางรับศพกลับภูมิลำเนาเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2561 โดยพบว่าสาเหตุการณ์เสียชีวิต เนื่องมาจากการเสียเลือดจำนวนมาก


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000006256

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


ข่าวดี! พบรังที่ 7 เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่หาดทรายแก้วตอนเหนือภูเก็ต



20 ม.ค.63 - เพจเฟซบุ๊กกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โพสต์รูปภาพพบรังไข่เต่าพร้อมข้อความว่า ศูนย์วิจัย ทช. ทะเลอันดามันตอนบน รับแจ้งจากอุทยานแห่งชาติสิรินาถ พบรอยการขึ้นวางไข่ของเต่ามะเฟืองอีก 1 รัง บริเวณหาดทรายแก้วในเขตอุทยานฯ เป็นรังที่ 7 ตำแหน่งอยู่บริเวณด้านเหนือของเกาะภูเก็ต เมื่อประเมินพื้นที่พบว่าอยู่ห่างจากชายฝั่งมากพอสมควร จึงไม่ต้องย้ายไข่ และฝังเครื่องบันทึกอุณหภูมิและกลบทราย เพื่อให้เพาะตามธรรมชาติต่อไป

ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน(ภูเก็ต) กล่าวว่าจากการแจ้งการพบร่องรอยการวางไข่ของเต่ามะเฟืองของชุดสำรวจการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล ที่บริเวณด้านหลังศูนย์กู้ภัยอุทยานแห่งชาติ ที่ 6 ในเขตอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ม.5 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยฯได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถและ อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เจ้าหน้าที่ศูนย์กู้ภัยอุทยานแห่งชาติที่ 6 ขุดหาจากร่องรอยที่แม่เต่ามะเฟืองวางไข่ พบว่าเต่ามะเฟืองเดินขึ้นมาวางไข่ในหลุมลึก 80 เซนติเมตร ขนาดหลุมกว้าง 150 เซนติเมตร เป็นบริเวณเหนือน้ำขึ้นสูงสุด ในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ได้นับจำนวนไข่เต่า เนื่องจากผ่านเวลาการวางไข่มาไม่น้อยกว่าสองวันเพราะไข่แดงได้ลอยชิดผิวไข่ ถ้าเอาออกมานับจะมีผลกระทบกับไข่เต่าและไม่มีการย้ายไข่เต่า ให้ทำการกลบหลุมไข่เต่าปล่อยให้มีการเพาะฟักตามธรรมชาติ

แนวทางการดูแลไข่เต่ามะเฟืองรังนี้จะมีการกั้นคอกเพื่อดูแลป้องกันไข่เต่า มีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ให้การดูแล นับจากนี้อีก 56 วันจะเข้ามาตรวจสอบไข่เต่ามะเฟืองรังนี้ "ดร.ก้องเกียรติ กล่าวและว่าตั้งแต่ต้นปี2563 ในจังหวัดภูเก็ต พบว่า มี เต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่ครั้งแรก เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 ที่หาดในทอน และครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของการวางไข่เป็นแม่เต่ามะเฟืองตัวใหม่ เป็นคนละตัวกับที่วางไข่หาดในทอน เพราะมีขนาดรอย 150 ซม. ใหญ่กว่ารอยเดิมที่มีขนาด 130 ซม. และเป็นความสำเร็จของคนไทยทั้งประเทศที่ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดีทำให้เต่ามะเฟืองทยอยขึ้นวางไข่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต


https://www.thaipost.net/main/detail/55024