#16
|
||||
|
||||
จากเฮติ ไปชิลี จากญี่ปุ่น ถึงประเทศไทย วันที่ 12 ม.ค. 2553 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7 ริกเตอร์ ที่ประเทศเฮติ ยังผลให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และชีวิตผู้คนมากมายเหลือคณานับ... เสียงกู่ร้องและคราบน้ำตายังไม่ทันเหือดหาย วันที่ 27 ก.พ. 2553 ธรณีพิโรธอีกครั้ง วัดระดับความรุนแรงได้ 8.8 ริกเตอร์ ที่ประเทศชิลี ทั้งยังเกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่องหรือ “อาฟเตอร์ช็อค” ตามมากว่า 50 ครั้ง ครั้งรุนแรงที่สุดวัดได้ 6.9 ริกเตอร์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังเกิดคลื่นยักษ์ซัดถล่มชายฝั่งชิลี สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและชีวิตผู้คนมากมายเป็นประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นมา ขณะท่ี 53 ประเทศและดินแดนทั้งในและรอบๆมหาสมุทรแปซิฟิก ไล่ตั้งแต่ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮาวาย จนถึงรัสเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ประกาศเตือนภัยจากคลื่นยักษ์ “สึนามิ” กันอย่างโกลาหล จากเหตุการณ์ร้ายแรงข้างต้น ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ บอกว่าหลายคนคิดว่าเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับคนไทย เพราะดูเหมือนว่าห่างไกลเหลือเกิน ไทยรัฐออนไลน์ สัมภาษณ์พิเศษเพื่อให้รู้เท่าทันกับธรรมชาติพิโรธที่คนไทยและผู้เกี่ยวข้องทุกๆคนควรรู้ Q : เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เฮติ แผ่นดินไหว, อาฟเตอร์ช็อค และสึนามิ ที่ชิลี 8.8 ริกเตอร์ คำถามคือ พิบัติภัยร้ายแรงดังกล่าว สะท้อนอะไรกับเราที่อยู่ในประเทศไทยได้บ้าง? A : มันก็ไม่ได้สะท้อนอะไร นี่เป็นการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกตามธรรมชาติของเขา ซึ่งมันเป็นคนละแผ่นกับเมื่อครั้งที่เกาะสุมาตรา วันที่ 26 ธ.ค. 2547 เป็นผลให้เกิดสึนามิและประเทศไทยมีคนตายมากมาย แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือมันไม่จำเป็นต้องแผ่นเดียวก็ได้ คราวที่แล้วเกิดที่เฮติมันก็เป็นคนละแผ่นกัน การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกที่มีอยู่อีกประมาณ 20 แผ่น แบ่งเป็นแผ่นเล็กแผ่นใหญ่อยู่ทั่วโลก คือเหมือนกับเวลาเราปอกเปลือกส้ม มันก็มีแผ่นๆที่คลุมโลกอยู่ ซึ่งพอมันชนกันแต่ละที แต่ละแผ่น แน่นอนว่ามันก็จะกระทบกระเทือนไปถึงแผ่นอื่นๆด้วย แต่ความกระทบกระเทือนมันจะมีมาก-น้อยไม่หมือนกัน ตัวอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 ที่เกาะสุมาตรามันมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกแถวนั้น ทำให้รอยเลื่อนที่อยู่ในประเทศไทยที่ภาคเหนือ เชียงราย-เชียงใหม่ ซึ่งมีอยู่หลายจุดเกิดอาการมีการเคลื่อนตัวผิดปกติด้วย Q : เหล่านักวิชาการจากจุฬาฯ การันตีว่าเหตุการณ์สึนามิจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เมื่อพลังงานของโลกที่สะสมจนเกิดแผ่นดินไหวได้ถูกปลดปล่อยไปหมดแล้ว จะไม่เกิดแผ่นดินไหวซ้ำรอยเดิม? A : เขาก็พูดได้ เพราะว่าเขาตายไปแล้วน่ะ อีก 600 ปี ซึ่งข้อเท็จจริง ผมมีสถิติที่เกิดขึ้นมาตั้ง 8 ครั้งแล้ว ผมส่งสถิติไปให้ท่านอาจารย์ทั้งหลายท่านดู นี่ไงมันเกิดขึ้นแล้ว ประเด็นก็คือพวกนี้ไม่มีการศึกษากันมากแล้วก็พูดๆไปอย่างนั้น แต่ข้อมูลไม่มี ทำให้คนเชื่อว่าไม่มี ก็เลยไม่มีการระวังตัว หรืออย่างเรื่องแผ่นดินไหวที่ประเทศไทย ผมทำสถิติไว้หมด จากเมื่อก่อนภาคเหนือโดยเฉพาะเชียงใหม่-เชียงรายเกิดแผ่นดินไหว 1-2 ครั้ง แต่ระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา ภาคเหนือเกิดแผ่นดินไหวเป็นสิบครั้ง แต่ละครั้งก็มีความแรง 5-6-7 ริกเตอร์เลย เพราะฉะนั้น ขณะนี้การเกิดรอยเลื่อนในมหาสมุทรอินเดียเริ่มมีมากขึ้น แม้จะไม่มากพอที่จะทำให้เกิดสึนามิเท่านั้นเอง ทั้งนี้ เราก็ต้องระวังเอาไว้ เพราะการเคลื่อนของเปลือกโลกใหญ่ๆ เช่นอย่างที่เกิดที่ประเทศชิลี ก่อนหน้านั้นมันก็เกิดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ฉะนั้น ธรรมชาติเรายังไม่มีเทคโนโลยีใดๆที่สามารถรู้ล่วงหน้าว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่ หากเกิดขึ้นจะรุนแรงมาก-น้อยแค่ไหนก็ไม่มีทางรู้ Q : รอยเลื่อนในประเทศไทยที่อันตรายมากๆ ที่จะทำให้แผ่นดินไหววันนี้มีอยู่ทั้งหมดกี่รอย? A : เรามีรอยเลื่อนที่ยังมีพลังอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด 13 รอย ส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคเหนือและภาคตะวันตก ที่ จ.กาญจนบุรี มีอยู่ 2 รอย ซึ่งอันตรายพอสมควร แล้วก็ภาคใต้ 2 รอย เหล่านี้ก็ต้องระวัง แต่ที่ผมว่าน่าระวังมากที่สุดก็คือ รอยเลื่อนในมหาสมุทรอินเดีย แถวหมู่เกาะนิโคบา และหมู่เกาะอันดามัน เลื่อนลงไปทางใต้ไปจนถึงเกาะสุมาตรา ซึ่งเป็นรอยเลื่อนใหญ่ ที่มันเคยเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 น่าเป็นห่วง Q : แสดงว่ามีความเป็นไปได้มากที่จะเกิด เหมือนกับที่นักวิชาการจากสถาบันนิเวศวิทยาจากไอร์แลนด์เหนือ ที่ขึ้นชื่อว่าทำนายเหตุการณ์สึนามิได้แม่นยำมากที่สุด ส่งจดหมายเตือนภัยว่าอาจจะเกิดคลื่นยักษ์ที่เป็นผลมาจากแผ่นดินไหวถล่ม ชายฝั่งเกาะสุมาตราในอนาคตอันใกล้? A : ใช่ครับ ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับเขา แต่ก็มีคนมาต่อว่าผมว่าพูดอะไรทำให้คนตกใจ เจตนาของผมก็คือต้องการให้พวกคุณระวังเอาไว้ เพราะรอยเลื่อนนี้มันมี เขามีการวิเคราะห์โดยนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ญี่ปุ่นเขาก็มีการวิจัยว่าในอนาคตมันจะเกิด แต่เกิดเมื่อไหร่ไม่ทราบเท่านั้นเอง พอพูดไปคนก็ต่อว่าว่าผมทำลายเศรษฐกิจ จริงๆ ญี่ปุ่นก็เห็นด้วยว่ารอยเลื่อนนี้ มันมีโอกาสจะเกิดแผ่นดินไหว เพราะคราวที่แล้วมันเกิดเฉพาะที่อยู่ทางใต้เท่านั้นเอง ระหว่างหัวเกาะสุมาตราไปทางใต้ เพราะฉะนั้นผลกระทบมันจะไปตกอยู่ที่อินโดนีเชียมาก แต่ถ้ามันเกิดระหว่างหัวเกาะสุมาตราขึ้นมาถึงหัวเกาะอันดามัน มันอยู่ตรงข้ามชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของประเทศไทยเลย แบบที่ผมบอก จ.ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สตูล อันตราย Q : ถ้ามันเกิดขึ้นแบบที่ว่าจริงๆ จินตนาการความเสียหายเอาไว้ไหมว่าจะมหาศาลแค่ไหน? A: คำนวณง่ายๆ ว่าสึนามิครั้งที่แล้วมันไกลจาก 6 จังหวัดภาคใต้ถึง 1,200 กิโลเมตร แต่รอยเลื่อนอีกเศษ 3 ส่วน 4 มันอยู่ใกล้ประเทศไทยเพียง 300-400 กิโลเมตร ดังนั้นถ้าเกิดสึนามิขึ้น ไม่ว่าจะกี่ริกเตอร์ ประเทศไทยจะได้รับความเสียหายมากกว่าครั้งที่แล้วแน่นอน Q : ตอนนี้เห็นข่าวว่า ศูนย์พิบัติภัยแห่งชาติ ซื้อทุ่นเตือนภัยเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว? A : ซื้อแล้วก็จริง แต่ที่สำคัญแถวนี้เรายังไม่ได้วางทุ่นเอาไว้เลย ซึ่งจะวางทุ่นเตือนภัยได้ก็ต้องรอเดือนธันวาคมโน่นเลย ในปีหนึ่งเราจะสามารถวางทุ่นได้ครั้งเดียว คือในเดือนธันวาคมเพราะว่าเป็นเดือนที่มีคลื่นลมมันสงบ ก่อนหน้าเดือนธันวาคมนั้นก็ลำบากหน่อยเพราะว่าไม่มีใครเดาใจแผ่นดินไหวได้ ดังนั้นถ้าเกิดวันนี้พรุ่งนี้เกิดแผ่นดินไหวความเสียหายจะมากกว่าสึนามิครั้งที่แล้วมหาศาลมาก ใช่ครับ พูดไปแล้วผมก็โดนด่าอีก Q : วันนี้เราพร้อมแค่ไหนที่จะเผชิญกับแผ่นดินไหวและสึนามิที่จะเกิดขึ้น? A : วิจารณ์พวกเขาเดี๋ยวผมโดนฟ้องอีก นี่อาทิตย์หน้าผมก็ต้องไปขึ้นศาลคดีหมิ่นประมาทที่เขาหาว่าผมให้ไปทำลายชื่อเสียงเขา แต่ถามว่า วันนี้ถ้าติดตั้งทุ่นได้ในเดือนธันวาคมให้เรียบร้อยแล้วอย่างน้อยๆก็ 45 นาทีเราก็รู้ว่ามันจะเกิดสึนามิขึ้นหรือไม่ ประเทศต่างๆอย่าง พม่า อินโดนีเซีย บังกลาเทศ สิงคโปร์ ก็จะได้ประโยชน์ ถึงจะช้าแต่ก็ขอให้ติดเถอะ Q : ก่อนหน้าเดือนธันวาคมที่เราจะไปติดตั้งทุ่นเตือนภัยที่จุดนั้น ถ้าวันนี้พรุ่งนี้เกิดสึนามิขึ้นเราจะมีวิธีการสังเกตและเอาตัวรอดจากสึนามิได้อย่างไร? A : ตอนนี้รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเท่าที่ควร มีมูลนิธิโดยผมก่อตั้งได้ 6 เดือนแล้ว ซึ่งเราก็อปปี้ระบบของศูนย์พิบัติภัยแห่งชาติ ทำงานคู่ขนานออกไปให้ความรู้กับประชาชนเรื่องสึนามิ ซึ่งเราสามารถออกไปไหนก็ได้ไม่ต้องรอคำสั่งรัฐบาล แต่ตอนนี้ศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติมันไม่มีคนทำแล้ว ไม่มีข่าวหรือคำเตือนออกมาเลย ซึ่งอันตรายมากๆ ทุกๆครั้งที่ผมไปบรรยาย ผมจะบอกว่าให้คุณใช้วิธีสังเกตเหมือนชาวมอร์แกนเมื่อเกิดสึนามิ คือ ถ้ายืนอยู่บนชายฝั่งทะเลหรืออยู่ใกล้ชายฝั่ง รู้สึกถึงการเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง หลังจากนั้น 5-10 นาที ให้สังเกตดู ถ้าน้ำลดลงลึกจากชายฝั่ง 50 เมตรก็ให้รีบหาที่สูงเพราะหลังจากนั้นไม่กี่นาที มันจะมีคลื่นลูกแรกมา แค่นี้ก็รอดตาย Q : ในวัย 73 ปี เหนื่อยและลำบากกับการทำเพื่อคนอื่นไหม? A : เหนื่อยและก็ลำบากครับ นอกจากจะต้องสู้รบกับพวกนักวิชาการที่ไม่เห็นด้วย ว่าเราอยากดังบ้าง แต่ถามว่าจะหยุดเมื่อไหร่ ไม่หยุดครับ ครั้งที่แล้วผมหยุดคนตายเยอะ ซึ่งพอมีคนมาค้าน ผมก็ไม่ไปภูเก็ต แต่ตอนนี้ถ้ามีคนมาค้านผมจะไม่หยุด ด่าก็ด่าไปให้คนเขารู้กันบ้างว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะทำเพื่อคนส่วนใหญ่ แต่คนที่เขาเสียผลประโยชน์ก็ด่าผม ซึ่งผมก็ไม่แคร์ Q : เมื่อเหนื่อย ลำบาก คิดบ้างไหมว่าจะปลดระวางหน้าที่นี้เมื่อไร? A : ผมทำไปเรื่อยๆจนกว่าจะไม่มีแรง สุขภาพมันก็เริ่มแย่ลงไปทุกทีๆ เดินไปไหนมาไหนก็เริ่มเหนื่อย ถามว่าอายุ 80 ปีผมจะหยุดไหม (หัวเราะ) ก็ทำไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะไม่มีแรงไม่มีงบประมาณ. (มีต่อ)
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|