#1
|
||||
|
||||
แน่งน้อย ยศสุนทร : คลื่นใต้น้ำฟื้นชีวิตทะเลไทย
แน่งน้อย ยศสุนทร : คลื่นใต้น้ำฟื้นชีวิตทะเลไทย พี่น้อย-แน่งน้อย ยศสุนทร และพี่จ๋อม-สมยศ ยศสุนทร สองสามีภรรยานักดำน้ำ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในแวดวงนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ไม่เพียงในฐานะครูสอนดำน้ำมืออาชีพ แต่ทั้งสองคือผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม SaveOurSea.net หรือ SOS ด้วยจิตสำนึกในคุณค่าของทะเล พี่น้อยชักชวนอาสาสมัครนักดำน้ำใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญตอบแทนบุญคุณผืนทะเลไทย แทนการดำน้ำท่องเที่ยวอย่างเคย ตลอดหนึ่งทศวรรษในการอุทิศตัวทำงานเก็บขยะ ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ช่วยชีวิตและใช้สิทธิที่พึงมีของคนกลุ่มเล็กๆ ส่งสัญญาณคลื่นใต้น้ำแผ่ไปสู่สังคมไทยให้ลงมือปกป้องสมบัติของชาติ ด้วยความหวังว่า ท้องทะเลไทยจะกลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิม ความสนใจและความผูกพันกับทะเลก่อกำเนิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเป็นโดยกำเนิด เราอยู่ทางเหนือซึ่งมีแม่น้ำ พ่อก็จะชอบพาไปแม่น้ำไปน้ำตก พอปิดเทอมใหญ่เราก็จะไปทะเลทุกครั้ง สมัยก่อนไปเที่ยวอย่างเดียว รู้สึกว่าทะเลมันกว้างใหญ่ผิดกับแม่น้ำที่เราเคยเห็น สัตว์ทะเลที่เราเห็นแค่ชายหาดก็ยังรู้สึกว่าน่ารักและนำความสุขมาให้ เราเกิดความรักขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ยิ่งได้มาดำน้ำก็ยิ่งรู้สึกหลงใหลในความงามใต้ทะเล เป็นอีกโลกหนึ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน มันมีความงามและมีความสงบ ตอนเรียนอยู่จุฬาฯ ปีสาม พ.ศ. 2515 พ่อก็ซื้อเรือกับอุปกรณ์ดำน้ำลึกให้ จริงๆ แล้วการดำน้ำจะต้องเรียน แต่เราโชคดีที่มีฝรั่งอเมริกันเพื่อนของน้องชายแนะนำว่าควรจะใช้อย่างไร ก่อนหน้านั้นเราสน็อกเกิ้ลคือดำที่ผิวน้ำอยู่แล้ว แต่พอได้ใกล้ชิดจนแทบสัมผัสปลาที่วนเวียนรอบตัวก็เป็นความสุขจนจะพูดว่าหลงใหลก็ได้ เริ่มเรียนดำน้ำอย่างจริงจังเมื่อไหร่ หลังจากเรียนจบที่จุฬาฯ ก็ไปต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาสองปี ก็ยังคิดอยากจะดำน้ำแต่ไม่มีโอกาส กลับมาก็แต่งงานและมีลูกเลย กว่าจะลูกโตก็ปี 2529 ถึงได้เรียนดำน้ำเป็นเรื่องเป็นราว จากนั้นต้นปี 2530 จนถึงทุกวันนี้ก็ดำน้ำมาตลอด ถามว่าความถี่ในการดำน้ำเท่าไหร่ เฉลี่ยแล้วเดือนละครั้งตั้งแต่ปี 2530 อยากให้พี่น้อยเล่าถึงทริปดำน้ำที่ประทับใจมากที่สุด ตอนที่ลูกเริ่มเรียนดำน้ำตอนอายุ 12-13 ปี พาลูกไปสิมิลันครั้งแรกแล้วเราได้เห็นฉลามวาฬครั้งแรกในชีวิต เหมือนลูกนำโชค เราลงด้วยกันหมดพ่อแม่ลูก พอเงยหน้าขึ้นไปที่ผิวน้ำ เห็นเหมือนกับเรือดำน้ำแล่นมาช้าๆ เอ๊ะ แต่ทำไมเรือดำน้ำมีจุดด้วย สักพักก็อ้าปากเพื่อกินอาหาร ถึงได้รู้ว่านั่นคือฉลามวาฬ เป็นอะไรที่น่าประทับใจมากๆ จากนั้นเราก็เจอมา 39 ตัวแล้ว แต่ปลาที่ยังไม่เคยเจอเลยคือวาฬบรูด้า เราจะเห็นเขาที่ผิวน้ำหลายครั้ง แต่เวลาอยู่ใต้น้ำยังไม่เคยเห็นเลย ตอนนี้มีข่าวว่ามีคนพบที่ใต้ทะเลเกาะเต่าแล้ว เราก็ใฝ่ฝันว่าจะได้เจอวาฬบรูด้า จากนักดำน้ำเพื่อการท่องเที่ยว อะไรที่จุดประกายให้หันมาเป็นอาสาสมัครแห่งท้องทะเล คงจะเคยได้ยินเรื่องฉลามวาฬถูกคุกคาม มีการตัดครีบไปทำเป็นหูฉลาม ทั้งที่มันเป็นปลาที่ใหญ่มากที่สุดในโลกแต่ก็ยังถูกล่า ความที่มันเป็นสัตว์ยักษ์ใหญ่ใจดี ไม่กินเนื้อสัตว์ กินแต่แพลงตอนหรือสัตว์เล็กๆ ใครจะไปจับก็ค่อนข้างง่าย เราได้ข่าวจากเพื่อนบ้านฟิลิปปินส์อินเดียว่าฉลามวาฬโดนตัดครีบไปกิน รู้สึกว่าใกล้บ้านเราแล้วนะ ฉลามวาฬเป็นสัตว์หาดูยาก ชาวประมงถือว่าเป็นปลาของเทพเจ้า ใครเห็นก็โชคดี แต่ทำไมคนอื่นไม่เห็นคุณค่าของเขาเลย มูลค่าของเขามหาศาล ถ้าให้ว่ายอยู่ในทะเลแล้วสามารถดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศได้ เราเล่นเว็บไซต์ pantip ห้อง Blueplanet เลยมารวมตัวกันคุ้มครองป้องกันฉลามวาฬให้พ้นจากการถูกล่า โดยตั้งเป็นกลุ่ม โรักษ์ฉลามวาฬโ เป็นตัวเริ่มต้นให้รู้จักคำว่ารักษา ตอนนี้ฉลามวาฬได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลแล้ว
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 17-05-2016 เมื่อ 11:54 |
|
|