เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #4  
เก่า 26-03-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ลด ละ เลิก พฤติกรรมทำโลกร้อน



จากบทความที่แล้วได้นำเสนอเรื่องราวของ ปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งเกิดขึ้นจากการผันแปร เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโดยมีเหตุจากอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น

อุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น มาจากการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศโลกที่มีก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง (Greenhouse effects) เก็บกักรังสีความร้อนจากผิวโลก แล้วคายรังสีความร้อนกลับลงมาทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยก๊าซเรือนกระจก ประกอบไปด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ก๊าซไนตรัสออกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์เฮกซะฟลูออไซด์ ก๊าซโอโซน สารคลอโรฟลูออโรคาร์บอน และฮาโลคาร์บอน โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นก๊าซที่มีความเข้มข้นสูงสุดในชั้นบรรยากาศ ข้อมูลจากองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า ในปี 2018 ความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ อยู่ที่ 407.8 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) สูงกว่าปี 2017 ซึ่งอยู่ที่ 405.5 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm)


ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาจากไหน?

ทุกกิจกรรมในชีวิตของมนุษย์ต่างก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ อาทิ การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง การผลิตในภาคอุตสาหกรรม กระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้า เมื่อความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามเป็นต้น

ในชีวิตประจำวัน เราสามารถลดละการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างไรบ้าง


1. ร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียว-ลดการเผาป่า

เพราะต้นไม้จะดึงเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศมาปรุงเป็นอาหารต้นไม้ 1 ต้น จะเก็บก๊าซคาร์บอนอยู่ในเนื้อไม้ประมาณ 50% เช่น ถ้าปลูกไผ่รวก 1 ต้น แล้วเติบโตจนกระทั่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงอก 130 เซนติเมตร ไผ่รวกต้นนี้จะมีปริมาณกักเก็บคาร์บอนได้ 7,146.25 กิโลกรัม

การเผาป่า เผาพื้นที่เกษตร นอกจากจะสร้างมลพิษทางอากาศอย่างฝุ่น PM 2.5 แล้ว ยังทำลายป่าซึ่งเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญอีกด้วย


2. ลดขยะ-ลดก๊าซเรือนกระจก

ข้อมูลจากสรุปสถานการณ์มลพิษของประเทศไทย ปี 2561 โดยกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า คนไทยสร้างขยะอยู่ที่ 1.15 กิโลกรัม/คน/วัน เพิ่มขึ้น0.02 กิโลกรัม จากปี 2560ซึ่งอยู่ที่ 1.13 กิโลกรัม/คน/วัน เฉพาะในกรุงเทพฯ มีขยะมูลฝอยเกิดขึ้นกว่า 4.85 ล้านตัน แต่มีขยะที่คัดแยกนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพียง 0.92 ล้านตัน หรือ 19% ของปริมาณขยะในกรุงเทพฯ ส่วนจำนวน 3.93 ล้านตันที่เหลือนำไปฝังกลบ โดยหลุมฝังกลบขยะ เป็นแหล่งกำเนินของก๊าซมีเทนที่มีศักยภาพจะทำให้โลกร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า

หยิบเอากฎ 3R มาใช้เพื่อจัดการขยะในชีวิตประจำวัน คือ Reduce ลดปริมาณการสร้างขยะใหม่ Reuse นำกลับมาใช้ซ้ำ เช่น ถุงพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ได้หลายครั้ง ขวดแก้วที่สามารถล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ใหม่และRecycle คัดแยกขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ ออกมาล้างทำความสะอาดเพื่อส่งกลับเข้าระบบรีไซเคิล เช่น กระป๋อง ขวดน้ำพลาสติก กล่องนม เพื่อให้ขยะเหล่านี้ไม่ถูกฝังกลบไปอย่างสูญค่า


3. ลดใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่จำเป็น หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ประหยัดไฟฟ้า เบอร์ 5 บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ควรเลือกขนาดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน หันมาใช้ไฟฟ้าผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาด


4. ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ตรวจสภาพรถอยู่เสมอ

การใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยเฉพาะรถเครื่องยนต์ดีเซล ปล่อยก๊าซคาร์บอนประมาณ 2.7 กิโลกรัม ต่อลิตร ขณะที่เครื่องยนต์เบนซินจะปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ออกไซด์ประมาณ 2.3 กิโลกรัมต่อลิตร ผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัวอาจเปลี่ยนมาใช้เชื้อเพลิงชีวมวล เช่น แก๊สโซฮอล์ และไบโอดีเซล ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าดูแลรักษาเครื่องยนต์ หรือหันมาใช้บริการขนส่งมวลชน

ด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) แม้จะช่วยในแง่ของการลดมลพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แต่ขณะเดียวกันยังมีประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำของแบตเตอรี่ลิเทียมที่ยังต้องหาทางออก


5. ร่วมมือประหยัดน้ำ และจัดการน้ำเสีย

ภัยแล้งที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ คือ ผลกระทบจากเอลนีโญ เพื่อป้องกันปัญหาขาดแคลนน้ำในอนาคต การหันมาให้ความสำคัญกับคุณค่าของน้ำ โดยใช้น้ำประปาเท่าที่จำเป็น อาทิ การปิดน้ำขณะฟอกสบู่ ตอนถูแชมพูขณะสระผม หรือตอนที่ถูสบู่ขณะล้างมือ ไม่เปิดน้ำทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์จะสามารถประหยัดน้ำไปคนละ 9 ลิตร ต่อ 1 นาที เพื่อสงวนทรัพยากรน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลน

นอกจากนี้ยังต้องร่วมบำบัดน้ำเสียที่เกิดขึ้นจากการอุปโภคด้วยเพราะน้ำเสียก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ถ้าทุกครัวเรือนร่วมกันบำบัดน้ำเสียเบื้องต้นก่อนปล่อยออกสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะจะสามารถช่วยเหลือสภาพแวดล้อมโดยรวม

ประเทศไทยซึ่งถูกจัดให้เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนในสังคมต้องหันมาดูแลสภาพแวดล้อมอย่างจริงจัง ลด ละ เลิก พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ลดการอุปโภค บริโภคทรัพยากรที่ไม่จำเป็นเริ่มตั้งแต่วันนี้ เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ให้เลวร้ายมากไปกว่านี้


https://www.khaosod.co.th/pr-news/news_3821008

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:41


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger