เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #2  
เก่า 07-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


หายนะชัดๆ สัตว์ทะเลหลายร้อยตายเกลื่อนหาดรัสเซีย หลังเชื้อเพลิงจรวดรั่วไหล

สัตว์ทะเลหลายร้อยตัว ทั้งปลาหมึก แมวน้ำ หอยเม่น ปลา ปู ตายเกลื่อนชายหาดรัสเซีย ชาวบ้านพากันแสบร้อนผิวหนัง หลังสารพิษเชื้อเพลิงจรวดรั่วไหลลงทะเล ผู้เชี่ยวชาญระบุ เป็นหายนะร้ายแรงของระบบนิเวศ



เมื่อวานนี้ 5 ต.ค. กลุ่มปกป้องสิ่งแวดล้อมกรีนพีซ เผยแพร่ภาพชายหาดคาลัคทีร์สกี บริเวณคาบสมุทรคัมชัตกา ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย เต็มไปด้วยซากสัตว์ทะเลจำนวนหลายร้อยตัวที่มาตายเกยตื้น ขณะที่น้ำทะเลกลายเป็นสีเหลือง และมีโฟมสารพิษลอยอยู่ เมื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล พบว่า มีปริมาณน้ำมันปนเปื้อนสูงขึ้นกว่า 4 เท่า และสารฟีนอล สูงขึ้น 2.5 เท่า นอกจากนี้ยังมีสารพิษอีกหลายชนิดปนเปื้อนในน้ำทะเล โดยเรียกร้องให้ทางการรัสเซียเร่งเข้ามาขจัดสารพิษ และตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น

วลาดิมีร์ เบอร์คานอฟ นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาล เปิดเผยว่า คาดว่าสารเคมีในน้ำทะเลอาจมาจากการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงจรวด ตลอดจนสารพิษอื่นๆ จากแหล่งทดสอบจรวดราดีจีโนที่ถูกนำมาทิ้งบริเวณใต้ภูเขาไฟโคเซลสกี และเมื่อเร็วๆ นี้มีพายุพัดเข้าและมีฝนตกหนัก อาจทำให้สารเคมีถูกน้ำซัดรั่วไหลลงทะเล เนื่องจากบริเวณนี้เป็นเขตธารน้ำแข็ง และยังมีภูเขาไฟ ที่คาดว่าจะเป็นแหล่งทิ้งกากเชื้อเพลิงจรวด สารหนู มาตั้งแต่ยุคอดีตสหภาพโซเวียตล่มสลาย



ด้านสำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซีย รายงานว่า บรรดานักท่องเที่ยวที่มาเล่นเซิร์ฟบอร์ด และชาวบ้านบริเวณนั้น ต่างมีอาการแสบร้อนที่ผิวหนัง เป็นไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ทางการประกาศห้ามลงน้ำทะเลตลอดแนวชายฝั่ง และเดินหน้าเร่งตรวจสอบ.

ที่มา: Greenpeace


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1946049


*********************************************************************************************************************************************************


จับฉลามขาวยักษ์ "ราชินีแห่งท้องทะเล" 1,600 กก. ขึ้นมาติดแท็ก

นักวิจัยทางทะเลในแคนาดา จับฉลามขาวยักษ์ "ราชินีแห่งท้องทะเล" น้ำหนักกว่า 1,600 กิโลกรัม ขึ้นมาติดแท็กเพื่อทำการศึกษา



เมื่อวันที่ 5 ต.ค. สำนักข่าว CNN รายงานว่า ทีมนักวิจัยกลุ่ม OCEARCH องค์กรไม่หวังผลกำไรที่ศึกษาประชากรฉลามขาวในทะเลแถบรัฐโนวาสโกเชีย ของแคนาดา สามารถจับฉลามขาวยักษ์ "ราชินีแห่งท้องทะเล" อายุกว่า 50 ปี ที่มีชื่อว่า "นูคูมิ" (Nukumi) ขึ้นมาได้ โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการติดแท็ก อุปกรณ์ที่จะทำหน้าที่ติดตามตัวฉลาม เพื่อให้เราได้ศึกษาเกี่ยวกับชีวิตของมัน

นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า นอกจากติดแท็กแล้ว ทีมงานยังได้ทำการวัดขนาด พบว่ามันมีความยาวลำตัว 5.25 เมตร และมีน้ำหนักกว่า 1,600 กิโลกรัม พร้อมตั้งชื่อให้ฉลามตัวนี้ว่า "นูคูมิ" ตามชื่อหญิงชราผู้มีความเฉลียวฉลาด ในตำนานภาษามิกแมก ของชนพื้นเมืองที่มีวัฒนธรรมฝังรากลึกในแถบโนวาสโกเชีย

นอกจากนี้ นักวิทยาศาตร์ยังระบุว่า ข้อมูลของ "นูคูมิ" จะถูกเก็บรวบรวมเพื่อทำการศึกษาในช่วงอีกหลายปีต่อจากนี้ โดย "นูคูมิ" เป็นฉลามขาวยักษ์ตัวใหญ่ที่สุดในบรรดาฉลามขาวยักษ์ที่นักวิทยาศาสตร์เคยจับขึ้นมาติดแท็กและศึกษาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา.

ที่มา:OCEARCH


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1946050


*********************************************************************************************************************************************************


ความหวังใหม่ของการกำจัดขยะพลาสติก


(ภาพประกอบ Credit : University of Portsmouth)

พอลิเอทิลีน เทเรฟทาเลต (polyethylene terephthalate-PET) เป็นเทอร์โมพลาสติกที่ใช้กันมากที่สุดในการทำขวดเครื่องดื่ม เสื้อผ้า และพรม PET เป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว แต่ข้อเสียคือกว่าจะสลายตัวในสิ่งแวดล้อม ก็ต้องใช้เวลานานหลายร้อยปี บรรดานักวิจัยพยายามหาหนทางที่จะกำจัดขยะพลาสติกเหล่านี้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัจจุบันขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลกลายเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขขึ้นทุกที

ล่าสุด ทีมวิจัยนำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ ในอังกฤษ ประกาศข่าวน่ายินดีกับความสำเร็จในการเปลี่ยนวิธีทำงานของเอนไซม์ PETase ที่ย่อยสลายพลาสติก PET ได้ ให้กลายมาเป็นซุปเปอร์เอนไซม์อีกชนิดเพื่อมาช่วยพิชิตขยะพลาสติก เอนไซม์ตัวใหม่นี้ถูกเรียกว่าเอนไซม์ค็อกเทล เนื่องจากเป็นส่วนผสมของเอนไซม์ PETase กับพันธมิตรเอนไซม์ชื่อ MHETase ซึ่งวิศวกรรมการเชื่อมต่อระหว่างเอนไซม์ทั้ง 2 ชนิด ก็ได้ซุปเปอร์เอนไซม์ที่สามารถย่อยพลาสติก PET ได้เร็วขึ้นถึง 6 เท่า

ทีมวิจัยเผยว่า ทั้งเอนไซม์ PETase และเอนไซม์ที่ได้จากการรวม PETase และ MHETase จะย่อยสลายพลาสติก PET แล้วคืนกลับมาเป็นส่วนประกอบพื้นฐาน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผลิตและนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างยั่งยืน ลดการพึ่งพาทรัพยากรจากเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล อย่างน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1945520

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:12


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger