เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #3  
เก่า 08-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE


สันดอนทรายจากมนุษย์ : วิกฤตสิ่งแวดล้อมที่กระทบถึงชีวิตรอบอ่าวปัตตานี .................. โดย Songwut Jullanan

"อ่าวปัตตานีมันเคยอุดมสมบูรณ์ สมัยผมเรียนประถม เวลาจะกินปูก็ลงทะเลหน้าปากอ่าวไปจับปูกับมือ เวลาจะกินปลากระบอกก็แค่ออกไปหน้าบ้านแล้วหว่านแหหรือวางอวนก็ได้ปลามากิน" อัลอามีน มะแต ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์ที่คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เล่าย้อนถึงอ่าวปัตตานีในวันวาน

ผ่านมานับสิบปี อ่าวปัตตานีที่เขาคุ้นเคยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะผลกระทบจากประมงทำลายล้าง สารเคมีจากโรงงาน การบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน และล่าสุดการขุดลอกอ่าวที่ทำให้เกิดสันดอนทรายขนาดใหญ่ ไม่เพียงกระทบระบบนิเวศ แต่รวมถึงวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของคนในชุมชนรอบอ่าวด้วย


ภัยคุกคามจากมนุษย์


โรงงานตั้งอยู่ริมอ่าวปัตตานี ? Songwut Jullanan / Greenpeace

อ่าวปัตตานีเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ชายฝั่งทะเลของจังหวัดปัตตานี อ่าวน้ำตื้นที่กินพื้นที่ราว 70 ตารางกิโลเมตรนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งชุกชุมของทั้งปลากระบอก ปู และกุ้ง อัลอามีนเริ่มเท้าความ

แต่หลายสิบปีที่ผ่านมา อ่าวเผชิญกับภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อมโดยตลอด ทั้งจากทำประมงทำลายล้าง เรืออวนลากอวนรุน การใช้ไอ้โง่ การจับสัตว์น้ำวัยอ่อนที่ยังไม่ทันได้สืบพันธุ์ การปล่อยสารเคมีลงทะเลจากโรงงานและฟาร์มกุ้ง ไปจนถึงการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนดั้งเดิม จนปริมาณสัตว์น้ำลดลงอย่างมาก

และเมื่อปี 62 มีการขุดลอกอ่าวเพื่อแก้ไขปัญหาการตื้นเขิน แต่การทิ้งวัสดุขุดลอกผิดแบบ ทำให้เกิดเป็นสันดอนทรายขนาดใหญ่กลางอ่าว


สันดอนทรายที่ผุดขึ้นกลางอ่าวปัตตานีหลังการขุดลอก ?Songwut Jullanan / Greenpeace

โครงการขุดลอกดังกล่าวเป็นโครงการของกรมเจ้าท่า เริ่มดำเนินการปี 60 เสร็จปี 62 ด้วยงบประมาณ 664 ล้านบาท โดยจากข้อกำหนดงานจ้างเหมาขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเลอ่าวปัตตานี วัสดุขุดลอกทั้งหมดต้องถูกนำไปทิ้งกลางทะเลห่างออกไป 9 กิโลเมตรจากปากร่องน้ำปัตตานี

"แต่เวลาขุดจริงๆ ทิ้งไว้กลางน้ำเฉยเลย" อัลอามีนกล่าว

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านเพียงต้องการให้แก้ไขร่องน้ำชุมชนเพื่อให้ชาวประมงออกเรือได้สะดวกเท่านั้น แต่กลับมีการขุดลอกกลางอ่าว และขุดสันดอนเก่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ การฟุ้งกระจายของตะกอนที่เกิดจากการขุดลอกก็คร่าชีวิตสัตว์น้ำจำนวนมากไปด้วย นอกจากนั้นยังเป็นอุปสรรคในการสัญจรทางทะเลเวลาน้ำลง

มะกะตา สะแม ประธานประมงพื้นบ้านอำเภอเมืองปัตตานี เป็นอีกคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสันดอนทราย เขาทำประมงและผูกพันกับอ่าวตั้งแต่เด็ก ได้เห็นหลายการเปลี่ยนแปลงของอ่าวจากน้ำมือของมนุษย์ แต่สำหรับมะกะตา "การขุดรอกคือการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงที่สุด"

"มันเปลี่ยนโฉมหน้าอ่าว เกิดเป็นอ่าวที่มีเกาะที่มนุษย์สร้าง เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกระแสน้ำ ปกติมันมีปากอ่าวและก้นอ่าว ตะกอนก็จะไปที่ก้นอ่าว ทีนี้พอมีสันดอนมากั้นตะกอนก็ไปไม่ถึง มาเกาะอยู่ที่กลางอ่าว ทำให้สัตว์น้ำลดน้อยถอยลง"

?การขุดลอกนี่มันไม่ทำตามกระแสน้ำวิ่งขึ้นลง มันไปขวางทางน้ำ ตอนนี้สัตว์น้ำมันหายไป 80% แล้ว เมื่อก่อน 20-30 ปีที่แล้วสัตว์น้ำเยอะมาก ออกเรือทีนึงได้กุ้งทีละสิบกิโล ตอนนี้โลสองโลก็หายาก?


ชีวิตที่เปลี่ยนไป

เมื่อระบบนิเวศของอ่าวเปลี่ยนไป แน่นอนว่ามันกระทบชาวบ้านรอบอ่าวที่ทำประมงเป็นอาชีพหลัก คนแปรรูปอาหารทะเล เศรษฐกิจขนาดเล็กในพื้นที่ ต่อเนื่องไปถึงคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชน


เรือประมงพื้นบ้านขณะกำลังหาปลาในอ่าวปัตตานี ?Songwut Jullanan / Greenpeace

"มันกระทบเป็นห่วงโซ่หมด ถ้าเรามองหลักๆ ชาวประมงที่อยู่รอบอ่าว แหล่งทำมาหากินของเขามันผูกติดกับอ่าวเป็นหลัก แต่อ่าวถูกทำลาย ชาวบ้านจับปลาไม่ได้เลย บางคนออกไปวันนี้ได้กุ้งมา 4-5 ตัว กลับมาบ้านต้นทุนหมดไปแล้วสองร้อยบาทที่ออกเรือไป พรุ่งนี้ออกต่อได้อีก 7-8 ตัว รวมๆกันได้หนึ่งกิโล ขายได้ร้อยหกสิบบาท แต่ต้นทุน 4-5 ร้อยบาท" อัลอามีนแจง

รายได้จากการทำประมงไม่สามารถจุนเจือครอบครัวได้ สมาชิกในครอบครัวบางคนจึงต้องหันไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียแทน อย่างไรก็ดี ปัจจุบันพวกเขาไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้เพราะการระบาดของโควิด-19 ครั้นจะทำประมงที่คุ้นเคยก็ขาดทุน

เมื่อรายได้หาย เศรษฐกิจชุมชนก็แย่ตามไปด้วย ของที่เคยขายได้ในตลาดชุมชนก็ขายไม่ได้เพราะไม่มีกำลังซื้อ

"ชาวบ้านบอกว่าโชคดีอย่างเดียวคือมีบัตรประชารัฐที่เขาสามารถไปซื้อข้าวสารได้ แค่นั้นแหละที่เขามี ที่เขาสามารถประทังชีวิตได้"


ภาพอ่าวปัตตานีจาก Google Earth ภาพแรกถ่ายปี 2564 จุดสีแดงทั้งหมดเป็นสันดอนทรายที่เกิดจากการขุดลอก จากภาพจะเห็นได้ว่ามีบางจุดที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำและสามารถเห็นได้ชัดเจนแม้กระทั่งจากภาพถ่ายดาวเทียม เปรียบเทียบกับภาพที่สองซึ่งถ่ายเมื่อปี 2562

ตั้งแต่ต้นปีที่แล้วมีการจัดเวทีรับฟังความเห็นของชาวบ้านหลายครั้ง โดยชาวบ้านรอบอ่าวที่ได้รับความเดือดร้อนเรียกร้องให้สะสางปัญหาสันดอนดังกล่าว ข้อเสนอของคนในชุมชนเบื้องต้นคือให้แก้ไขปัญหาสันดอนทรายที่ทิ้งไว้กลางอ่าวปัตตานีอย่างเร่งด่วน ปราบปรามการใช้เครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย พร้อมตั้งกองทุนฟื้นฟูอ่าวปัตตานีเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

"ความต้องการของชาวบ้านคือ ต้องการให้เอาสันดอนที่เอาไปทิ้งกลางอ่าว เอาออกไปให้หมด ให้มันคืนสภาพเดิม อ่าวไม่ต้องลึกมากก็ได้ แค่ให้มันเหมือนเดิม เหมือนเดิมเป็นแบบไหนให้ทำเป็นแบบนั้น"

แต่กระทั่งในวันนี้ สันดอนทรายยังคงตั้งตระหง่านอยู่กลางอ่าวแม้ผ่านมากว่า 2 ปี หลังการขุดลอก

และยังคงไม่มีวี่แววแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม อัลอามีนชี้ว่า หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปจะส่งผลกระทบระยะยาวต่อระบบนิเวศ ทำให้สภาพอ่าวมีความตื้นเขินกว้างขึ้น ส่งผลต่อที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ สัตว์ทะเลจะย้ายที่อยู่อาศัย ชาวบ้านก็จะจับสัตว์น้ำได้น้อยลงอีก

เมื่อจับปลาได้น้อยลง รายได้ของแต่ละบ้านก็ลดลง บางครอบครัวไม่มีเงินส่งลูกไปเรียน ก็จะมีผลกระทบต่อการศึกษาของเด็ก เด็กกลุ่มนี้ก็มีโอกาสที่จะมั่วสุมและเป็นปัญหาของสังคมตามมา

"ทุกวันนี้บางคนยอมไม่ให้ลูกไปเรียน ไม่ก็สลับกันไป วันนี้คนนี้ไป คนนี้หยุด การขุดลอกอ่าวมันเลยไม่ได้กระทบแค่สิ่งแวดล้อม แต่กระทบเศรษฐกิจของชุมชน ชีวิต และความเป็นอยู่ของชุมชน คุณภาพชีวิตของคนมันลดลง" อัลอามีนกล่าวปิดท้าย


https://www.greenpeace.org/thailand/...f-pattani-bay/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:38


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger