เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #2  
เก่า 17-11-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


เอาจริง! ลุยจับร้านอาหารดังภูเก็ต ขาย 'ปลานกแก้ว' ทำอาหารให้ลูกค้า

กรม "ทช." ออกปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับร้านอาหารชื่อดัง ใน จ.ภูเก็ต ลักลอบขายปลานกแก้ว นำไปประกอบอาหารให้ลูกค้า



เมื่อวันที่ 16 พ.ย. มีรายงานว่า สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สทช.10) โดยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดภูเก็ต และศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ได้ออกปฏิบัติการตรวจตราบังคับใช้กฎหมายในกรณีที่มีการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในบริเวณพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 23 พ.ย. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 18 พ.ย. 2563 ในพื้นที่ ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต

ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 5 สังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดภูเก็ต และหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลท้ายเหมือง (พังงา) หลังได้รับแจ้งมีการลักลอบ ค้าขายปลานกแก้ว ในวงศ์ Scaridae ขนาดไม่เกิน 50 ซม. ซึ่งเป็นปลาสวยงามตามบัญชี 3 ท้ายประกาศกระทรวงฯ

เบื้องต้นสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย ได้แก่ 1.ผู้จัดการร้านอาหารชื่อ ชิคเรสเตอร์รองท์ ของกลางปลานกแก้ว 9 ตัว 2.ผู้จัดการร้านอาหารชื่อ บาวว์ตี้ซีฟู๊ด ของกลางปลานกแก้ว จำนวน 5 ตัว และ 3.เจ้าของร้านอาหารชื่อ ต้นตาลซีฟู๊ด ของกลางปลานกแก้ว 2 ตัว ได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานฝ่าฝืน ข้อ 11 (8) ห้ามจับหรือครอบครองปลาสวยงามตามบัญชี 3 ท้ายประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดังกล่าว โดยนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรกะรน จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


https://www.dailynews.co.th/news/1691052/


*********************************************************************************************************************************************************


'ตูวาลู' หันหาเมตาเวิร์ส เหตุระดับน้ำทะเลคุกคามการดำรงอยู่

ตูวาลูมีแผนที่จะสร้างประเทศของตัวเองในรูปแบบดิจิทัล โดยจำลองเกาะและสถานที่สำคัญต่าง ๆ เพื่อรักษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไว้ เนื่องจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น กำลังคุกคาม และจมประเทศเกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้



สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากเมืองชาร์ม เอล-ชีค ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ว่า นายไซมอน โคเฟ รมว.ต่างประเทศตูวาลู กล่าวกับที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบของอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ยูเอ็นเอฟซีซีซี) ครั้งที่ 27 หรือ ?คอป 27? ว่า มันถึงเวลาที่จะต้องพิจารณาวิธีแก้ปัญหาอื่นเพื่อความอยู่ของตูวาลู ซึ่งสิ่งนี้รวมถึงการทำให้ตูวาลูอยู่ในรูปแบบดิจิทัลในเมตาเวิร์ส เป็นประเทศแรกของโลกอีกด้วย

"แผ่นดินของเรา มหาสมุทรของเรา วัฒนธรรมของเรา เป็นทรัพย์สินที่มีค่ามากที่สุดสำหรับผู้คนของเรา และเพื่อทำให้สิ่งเหล่านั้นปลอดภัยจากอันตราย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในโลกความเป็นจริงก็ตาม เราจะย้ายพวกมันไปยังพื้นที่ดิจิทัล" โคเฟ กล่าวในคลิปวิดีโอที่เขายืนอยู่บนแบบจำลองดิจิทัลของเกาะเล็ก ๆ ซึ่งถูกคุกคามจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น

ตูวาลู ประเทศที่ประกอบด้วยเกาะขนาดเล็ก 9 เกาะ และมีประชากรราว 12,000 คน ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างออสเตรเลียและหมู่เกาะฮาวาย คือประเด็นที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง เกี่ยวกับความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูง โดยพื้นที่ของกรุงฟูนะฟูตี มากถึง 40% ต้องจมบาดาลเมื่อถึงช่วงน้ำขึ้น และมีการคาดการณ์ว่า ทั้งประเทศจะจมอยู่ใต้น้ำภายในสิ้นศตวรรษนี้

ทั้งนี้ โคเฟหวังว่าการสร้างประเทศในรูปแบบดิจิทัลจะช่วยให้ตูวาลูทำหน้าที่เป็นรัฐต่อไปได้ และมันยังเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับประเทศของเขา เนื่องจากรัฐบาลเริ่มความพยายามเพื่อทำให้แน่ใจว่า ตูวาลูจะยังคงได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นประเทศ รวมถึงการยอมรับเขตแดนทางทะเลและทรัพยากรในน่านน้ำเหล่านั้นต่อไป แม้ว่าประเทศจะจมบาดาลโดยสมบูรณ์ก็ตาม


https://www.dailynews.co.th/news/1690122/


*********************************************************************************************************************************************************


พบ 'เหรียญทองโบราณ' โผล่ริมหาดแคนาดา อายุเก่าแก่ยิ่งกว่ายุคก่อตั้งประเทศ

นักตรวจจับและเก็บเศษโลหะในแคนาดา ตรวจพบเหรียญทองโบราณริมชายฝั่ง คาดว่าเป็นเหรียญทองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในประเทศ และอาจทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลในประวัติศาสตร์เสียใหม่


เครดิตภาพ : gov.nl.ca.

รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์แห่งแคนาดา เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 ว่า มีการค้นพบเหรียญทองโบราณของอังกฤษ โดยนักตรวจจับและเก็บเศษโลหะรายหนึ่งที่บริเวณริมฝั่งทะเล ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้รายงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยแหล่งประวัติศาสตร์ของแคนาดา

เอ็ดเวิร์ด ไฮนส์ ผู้ใช้เครื่องมือสแกนโลหะจนพบเหรียญดังกล่าว ที่ชายฝั่งของรัฐนิวฟันด์แลนด์ เล่าว่า เขาได้ยินเสียงเตือนจากเครื่องว่า พบชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ จึงลงมือขุดพื้นทรายลงไปราว 5 นิ้ว และพบเหรียญทองที่มีลวดลายแกะสลักที่ซับซ้อนและโค้งงอเป็นคลื่นเล็กน้อย มันมีสีเหลืองสดใสและเนื้อบางมาก ในตอนแรกเขาคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นเหรียญทองคำ แต่คิดว่าเป็นกระดุมหรือแผ่นป้ายอะไรสักอย่างมากกว่า

ไฮนส์ ได้แจ้งไปยังหน่วยงานของทางการถึงการค้นพบของเขา ซึ่งต่อมา เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหรียญเงินโบราณ ได้ระบุว่า เหรียญทองดังกล่าวเป็นเหรียญ Quater noble จากสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 6 ของอังกฤษ ผลิตขึ้นใช้ครั้งแรกในกรุงลอนดอน ระหว่างปี ค.ศ. 1422-1427 ซึ่งเท่ากับว่า มีอายุเก่าแก่ยิ่งกว่าประเทศแคนาดา ซึ่งสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1867 มากกว่า 400 ปี

ทีมผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถระบุได้ว่า เหรียญทองคำเหรียญนี้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลกว่า 32,000 กม. มายังแคนาดาได้อย่างไร แต่กล่าวว่า ตอนที่เหรียญเดินทางมาถึงแคนาดา ไม่น่าจะเป็นช่วงที่ยังใช้เหรียญชนิดนี้ในระบบเงินตราของอังกฤษแล้ว?

เมื่อปีที่แล้ว ก็เคยมีการพบเหรียญเงินที่ผลิตราวทศวรรษที่ 1490 ในเมืองแคนเทอเบอรี ของอังกฤษในรัฐนี้ และได้รับการยอมรับว่า เป็นเหรียญเงินอังกฤษที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในแคนาดา และอาจจะเก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีการค้นพบในทวีปอเมริกาเหนือ

ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ จอห์น คาบอต นักสำรวจชาวอิตาลี ได้ชื่อว่าเป็นนักสำรวจคนแรกจากทวีปยุโรป ที่เดินทางมายังพื้นที่ที่เป็นรัฐนิวฟันด์แลนด์ในปัจจุบัน เมื่อปี ค.ศ. 1497 ขณะที่การค้นพบเหรียญทองเหรียญล่าสุดในครั้งนี้ คือเหรียญที่ผลิตขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1420 ของรัชสมัยพระเจ้าเฮนรีที่ 6?

หากข้อมูลของเหรียญทองดังกล่าวได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง ก็เท่ากับว่า จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ใหม่ และ คาบอต ก็จะไม่ใช่นักสำรวจคนแรกที่เดินทางมาถึงพื้นที่นี้อีกต่อไป

ตามตำนานเก่าแก่ยอดนิยมระบุว่า มีกลุ่มนักบวชชาวไอริช นำโดย นักบุญเบรนเดน เคยล่องเรือมายังนิวฟันด์แลนด์ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6 และจากกรณีศึกษาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Nature ก็ได้เปิดเผยว่า พบหลักฐานที่บ่งบอกว่ามีชาวไวกิ้งเคยมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ของนิวฟันด์แลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1021

แหล่งข่าว : miamiherald.com


https://www.dailynews.co.th/news/1689841/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:54


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger