เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #3  
เก่า 15-11-2023
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ


คลื่นใหญ่หอบซัดหอยกะพงเกยหาดนับ 100 เมตร ชาวบ้านเมืองคอนเฮเก็บกิน-ขาย

นครศรีธรรมราช - หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมา 3-4 วัน และมีคลื่นลมแรง ทำให้คลื่นใหญ่หอบซัดหอยกะพงเกยหาดโคกตะเคียน ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ยาวนับ 100 เมตร ชาวบ้านเก็บกิน-ขาย คาดถูกซัดมาจากจุดที่มี "ดอนหอย"



วันนี้ (14 พ.ย.) ที่หาดโคกตะเคียน ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันมา 3-4 วัน และมีคลื่นลมแรง พบว่าคลื่นได้ซัดหอยกะพงที่อยู่ใต้ท้องทะเลขึ้นมาเกยชายหาดเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้เดินทางมาเก็บหอยกะพง ซึ่งถูกซัดมาเกยหาดปริมาณมหาศาลตลอดแนวหาดหลาย 100 เมตร

ชาวบ้านนับ 100 คน พากันมาเก็บหอยที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง แต่ละคนเก็บได้เป็นจำนวนมาก บางคนเก็บได้มากว่า 100 กก. นอกจากนี้มีชาวบ้านจากหลายพื้นที่ในจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ทราบข่าวถึงปรากฏการณ์นี้ได้พากันเดินทางมาดู และมาเก็บเป็นของติดไม้ติดมือ เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นน้อยมาก ในแต่ละปีจะเกิดขึ้นในช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมแรง

ชาวบ้านในพื้นที่ที่มาเก็บหอยเล่าว่า ปรากฏการณ์หอยกะพง หรือหอยถูกคลื่นซัดเข้ามาจากท้องทะเล ในพื้นที่ศาลาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในรอบ 15 ปี โดยพบว่าคลื่นใต้น้ำซัดหอยขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น (13 พ.ย.) หอยที่เก็บมานั้นต้องนำไปแช่น้ำทะเลก่อนให้คายทรายออก ก่อนจะนำไปประกอบอาหารและนำไปขายได้ การที่คลื่นซัดขึ้นมาจำนวนมากเช่นนี้เข้าใจว่า คลื่นลมได้รุนแรงในจุดที่มี ?ดอนหอย? หรือแหล่งที่มีหอยอุดมสมบูรณ์ คลื่นซัดจนหลุดจากที่ยึดเกาะจนถูกคลื่นหอบมาเกยหาด

อย่างไรก็ตาม ปรากฏการ์ณนี้สร้างความตื่นเต้นให้ชาวบ้านเป็นอย่างมาก ปรากฏการณ์หอยที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งจำนวนมหาศาลในครั้งนี้ยังไม่มีใครระบุว่ามาจากสาเหตุใด แต่เบื้องต้นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าอาจจะมาจากระบบนิเวศที่ได้รับผลกระทบจากการนำเครื่องมือประมงผิดกฎหมายมาคราดหาหอยแครงในท้องทะเล ทำให้แนวดอนหอยเสียหายขาดการยึดเกาะที่มั่นคง เมื่อเกิดคลื่นลมแรงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น


https://mgronline.com/south/detail/9660000102360


******************************************************************************************************


วาฬสีน้ำเงิน พี่ใหญ่มาเยือนทะเลไทยฝั่งอันดามัน เป็นครั้งที่ 4 แถวหมู่เกาะสุรินทร์



วานนี้ (13 พ.ย.2566) เพจเฟซบุ๊ค ThaiWhales โพสต์คลิปสั้นๆ และข้อความว่า มีพี่ใหญ่ Blue whale หรือ วาฬสีน้ำเงิน มาเยือนหมู่เกาะสุรินทร์ ฝั่งอันดามัน และเดือนที่แล้วก็มี Omura?s whales ทางแอดมินบอกว่านำคลิปมาจากน้องสายป่าน- อภิญญา สกุลเจริญสุข Apinya นักแสดงและครูสอน Freedive และคุณกฤษดา ราหมัน ไกด์บนเรือ ที่พบวาฬ

แจ้งว่าได้ส่งข่าวให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)แล้ว ทั้งผชช. หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก อันดามันทั้ง 2 และสัตวแพทย์ ทช.?อยากไปเก็บข้อมูลกันมากเลย ? อยากจะรู้เหมือนกันว่า ปีนี้กระแสน้ำเป็นยังไง หรืออะไรที่มีผลต่อการมีวาฬหายากๆ แวะเข้ามาอันดามันหลายตัวมั๊ย ก่อนหน้านี้ก็พบ omura?s ที่พบน่าจะมากกว่า 3 ตัวเลยค่ะ?

จากฐานข้อมูลข่าว กรมทช. ระบุว่า ในทะเลไทยเคยพบวาฬสีน้ำเงินเพียง 3 ครั้ง พบเห็นบริเวณฝั่งทะเลอันดามันทั้งหมด โดยพบครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา ต่อมาพบเข้ามาเกยตื้นที่เกาะลิบง จ.ตรัง เมื่อปี พ.ศ. 2556 ล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2560 พบที่หมู่เกาะสิมิลัน จ. พังงา ดังนั้น การพบครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่ 4

จากการพบวาฬสีน้ำเงินในทะเลอันดามันส่วนใหญ่จะเกิดจากการอพยพย้ายถิ่นตามแหล่งอาหารที่มีความอุดมสมบูรณ์ วนไปเรื่อยๆ โดยอาหารหลักของวาฬสีน้ำเงินจะเป็น กุ้งเคยและแพลงก์ตอน แต่ก็อาจจะกินสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น ปลาขนาดเล็กเข้าไปด้วย ซึ่งจะมีอัตราการกินอาหารอยู่ที่ 2-5% ของน้ำหนักตัว บางส่วนก็อพยพเพื่อหาพื้นที่ในการออกลูกและเลี้ยงดู โดยแต่ละกลุ่มก็จะมีประมาณ 2-5 ตัว แต่ส่วนใหญ่จะพบครั้งละตัว เนื่องจากวาฬสีน้ำเงินสามารถดำน้ำลงไปหาอาหารได้ลึกถึง 100 เมตร และอยู่ใต้น้ำได้ครั้งละ 20-40 นาที

ทั้งนี้ "วาฬสีน้ำเงิน" ถือเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวประมาณ 26-29 เมตร น้ำหนักเมื่อโตเต็มที่ ประมาณ 100-200 ตัน แต่ที่ใหญ่ที่สุดจากสถิติเท่าที่มีการบันทึก ความยาวจะอยู่ที่ 31.2 เมตร เฉพาะลิ้นก็มีน้ำหนักเกือบเท่าช้างหนึ่งตัว หัวใจมีขนาดเท่ารถยนต์คันหนึ่ง และเส้นเลือดบางเส้นกว้างขนาดที่มนุษย์พอจะลงไปว่ายน้ำได้ และครีบหางก็มีขนาดกว้างกว่าปีกของเครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก จัดเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา ปัจจุบัน มีปริมาณวาฬสีน้ำเงินในซีกโลกใต้อยู่ประมาณ 1,350 ตัว อีกทั้งมีหลักฐานว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ต่อปี แต่ยังไม่มีการประมาณจำนวนวาฬชนิดนี้ที่ดีพอในบริเวณอื่นของโลก

สำหรับสถานภาพวาฬสีน้ำเงิน พ.ศ. 2561 IUCN Red List กำหนดสถานภาพให้เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered Species, EN) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอเป็นสัตว์ป่าสงวน เพื่อเข้าบรรจุตามกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 (มาตรา6)


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9660000102227


******************************************************************************************************


แฉกองเรือประมงเวียดนามนับ 100 ลำบุกยึดอ่าวนครศรีฯ ทำประมงเสรีนานนับเดือน



นครศรีธรรมราช - แฉกองเรือประมงพาณิชย์เวียดนามนับ 100 ลำ ยึดหน้าอ่าวนครศรีธรรมราช ทำประมงได้อย่างเสรีต่อเนื่องนานนับเดือนแล้ว เรือประมงไทยเผยแจ้งกองทัพเรือแล้วยังเฉย

ภาพจากเรือประมงพาณิชย์ชาวนครศรีธรรมราช ลำหนึ่งได้บันทึกไว้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเมื่อกลับเข้าฝั่งได้นำภาพนี้มาเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ประมงพาณิชย์หน้าอ่าวนครศรีธรรมราช ว่ากำลังอยู่ในภาวะวิกฤตจากการรุกล้ำของกองเรือประมงเวียดนามนับ 100 ลำ เข้ามาทำประมงได้อย่างเสรี และต่อเนื่องมานานนับเดือนแล้ว โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยเข้าตรวจสอบ หรือเข้าเฝ้าระวังแนวน่านน้ำของประเทศไทย

ไต๋เรือประมงพาณิชย์ ผู้บันทึกภาพนี้ซึ่งไม่ขอเปิดเผยตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา อ่าวไทยบริเวณแนวเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ไปจนถึงเกาะกระ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ระยะใกล้ฝั่งมาก ห่างจากชายฝั่งนครศรีธรรมราชประมาณ 20-35 ไมล์ทะเล และชัดเจนว่านี่คือน่านน้ำนครศรีธรรมราช และน่านน้ำประเทศไทยในระยะใกล้ฝั่งมาก ซึ่งได้บันทึกภาพพิกัดที่พบไว้เป็นหลักฐาน จะเต็มไปด้วยกองเรือประมงเวียดนามตามภาพ ทั้งระยะใกล้ ระยะไกล ชาวประมงไทยไม่กล้าทำอะไร เนื่องจากกลัวว่ากองเรือเวียดนามเหล่านี้จะติดอาวุธ

กองเรือเวียดนามทำประมงอยู่นับเดือนแล้ว และยังคงทำอย่างต่อเนื่องทุกวัน เป็นการใช้ตะแกรงคราดหน้าดินหาสัตว์น้ำจำพวกปลิงทะเล ปลิงบอล ราคาแพงที่มีอยู่ชุกชุมในอ่าวนครศรีธรรมราช ทำลายหน้าดินใต้ทะเลอย่างรุนแรง สร้างความเดือดร้อนให้เรือประมงไทย ก่อให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ประมงซ้ำอีก แจ้งทางการโดยเฉพาะทางกองทัพเรือไปแล้ว แต่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ทั้งๆ ที่เรือของเจ้าหน้าที่ออกจากฝั่งมาถึงแนวทำประมงของกองเรือเวียดนามพวกนี้ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง

มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า บางช่วงเวลาเรือประมงพื้นบ้านที่ออกไปทำประมงพาณิชย์ ห่างจากฝั่งประมาณ 5-6 กิโลเมตร เคยพบเรือประมงเวียดนามเหล่านี้เช่นเดียวกัน ทำให้ชาวประมงเกิดความวิตกว่าอาจเกิดกระทบกระทั่งกันกลางทะเล ระหว่างชาวประมงไทยกับชาวประมงเวียดนาม และอาจนำมาซึ่งความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินได้ หากมีการปล่อยปละละเลยกันเช่นนี้


https://mgronline.com/south/detail/9660000102279

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:52


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger