![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
พายุฝูงปลาสากที่เกาะมาราตัว ............... โดย วินิจ รังผึ้ง เกาะมาราตัว จุดสนใจอันดับต้นๆสำหรับการมาดำน้ำบริเวณหมู่เกาะเดราวันประเทศอินโดนีเซียและเกาะใกล้เคียงกับเรือทริปของภาณุนี เรือบริการดำน้ำชั้นนำของคนไทยที่มาลอยลำให้บริการดำน้ำบริเวณนี้ก็คือ การดำน้ำท่ามกลางฝูงปลาสากนับพันนับหมื่นที่ว่ายกันมามากมายราวกับพายุทอนาโดที่เกาะมาราตัว (Maratua) ซึ่งเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งสำหรับคนที่มีโอกาสลงไปดำน้ำที่นั่น มาราตัวเป็นเกาะรูปทรงคล้ายกับเกือกม้า แต่เป็นเกือกม้าหัวแหลมๆยาวๆ บางคนก็บอกคล้ายกับบูมเมอแรงหรือรูปตัววี บางคนก็เปรียบเหมือนกระดูกอกไก่ โดยตรงส่วนกลางมีสภาพเป็นลากูนขนาดใหญ่ มาราตัวเป็นเกาะที่เกิดจากภูเขาไฟใต้น้ำที่พ่นลาวาขึ้นมาเป็นขอบคัน กลายเป็นสัญฐานของเกาะโอบปากปล่องที่ตื้นเขินจนกลายเป็นลากูนกลางเกาะ เมื่อกาลเวลาผ่านไปจนเกาะแห่งนี้กลายเป็นซากภูเขาไปพื้นที่บนเกาะจึงกลายเป็นที่ก่อเกิดสรรพชีวิต มีผืนป่าปกคลุมเขียวขจี ชายเกาะมีป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์เป็นปราการกันคลื่นโดยมีของแนวผาปะการัง ด้านนอกเป็นแนวปะทะคลื่นลำดับแรกอีกทีหนึ่ง แนวน้ำตื้นในลากูนอันกว้างใหญ่มีพื้นทรายขาวละเอียดความลึกราว 1-10 เมตร มีช่องทางน้ำทะเลจากภายนอกไหลผ่านเข้าออกเป็นช่องแคบๆ ทำให้น้ำทะเลในลากูนมีการขึ้นสูงสุด และลดลงต่ำสุดจนเห็นพื้นทรายขาวเบื้องล่าง และในบริเวณลากูนแห่งนี้นี่เองที่เป็นแหล่งอนุบาลเพาะเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลาขนาดเล็ก เกาะมาราตัวจึงเป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดและมีชาวเกาะอาศัยอยู่มากที่สุด ในบรรดาเกาะทั้งสี่แห่งในหมู่เกาะเดราวัน ศูนย์รวมฝูงปลานับพัน ผมเคยมาดำน้ำที่เกาะมาราตัวแห่งนี้เมื่อ 5 ปีก่อน เป็นการมาดำน้ำโดยพักที่รีสอร์ตเล็กๆบนเกาะมาราตัว ทางรีสอร์ตใช้เรือไฟเบอร์ขนาดกลางบรรทุกนักดำน้ำได้สัก 10 คน ขนถังอากาศและอุปกรณ์กล้องลงเรือออกไปดำตามจุดดำน้ำต่างๆในแต่ละวันแล้วกลับขึ้นมานอนรีสอร์ต ต้องขนของขึ้นๆลงๆในแต่ละวันไม่ค่อยจะสะดวกกับการทำงานถ่ายภาพใต้น้ำเท่าใดนัก แต่มาครั้งนี้ผมใช้บริการเรือภาณุนีซึ่งเป็นเรือบริการดำน้ำแบบเรือ Liveaboard ขนาดใหญ่ที่กินนอนบนเรือ มีห้องนอนปรับอากาศที่แสนสบาย เมื่อจะลงดำน้ำเรือก็สามารถจะเข้าไปจอดได้ถึงจุดดำน้ำ ทำให้การทำงานใต้น้ำและการถ่ายภาพสะดวกสบายยิ่งขึ้น แหล่งดำน้ำขึ้นชื่อที่สุดของเกาะมาราตัวก็คือจุดดำน้ำที่ชื่อว่า The Channel หรือดำกันบริเวณช่องแคบร่องน้ำปากทางเข้าลากูนซึ่งเป็นบริเวณที่มีลักษณะพิเศษ เป็นเสมือนชุมทางของอาหารที่ไหลมากับกระแสน้ำที่ภูมิประเทศใต้ทะเลบีบช่องทางไหลให้เหลือเพียงช่องแคบๆตรงปากประตูทางเข้าลากูนเท่านั้น บริเวณนี้จึงมักเป็นจุดศูนย์รวมของฝูงปลาสากหรือ Baracuda ขนาดใหญ่ลำตัวยาวราว 1 เมตรนับพันๆหมื่นๆตัวมารวมฝูงอยู่บริเวณปากช่องแคบแห่งนี้ หรือไม่ก็ฝูงปลากะมงตัวขนาดยาวราว 1 ฟุต นับพันๆตัวว่ายเวียนวนรอบๆช่องแคบบริเวณปากลากูน และที่นี่ยังเป็นถิ่นของกระเบนนกที่อาศัยอยู่ประจำเป็นปลาเจ้าถิ่นอีกชนิดหนึ่ง ทั้งบริเวณแนวผาที่ชันที่ลุ่มลึกมืดดำลงไปหลายร้อยเมตรด้านนอก ยังมีฉลามชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฉลามหัวค้อนและฉลามหางยาวที่มักจะว่ายผ่านมาอวดโฉมให้เห็นกันบ่อยครั้ง การลงดำน้ำที่ปากช่องแคบลากูนเกาะมาราตัวนั้นนับเป็นความตื่นเต้น ท้าทายอย่างยิ่ง เพราะจะดำให้ดีต้องรอเวลาช่วงที่น้ำไหล คือตั้งแต่หัวน้ำขึ้นที่น้ำทะเลจากด้านนอกจะไหลเข้าสู่ลากูนไปจนถึงช่วงน้ำเริ่มนิ่ง แต่หลังจากน้ำนิ่งแล้วฝูงปลาแถวๆปากช่องแคบก็จะแยกย้ายไปหากินที่อื่นเหมือนตลาดวายซึ่งจะไม่ค่อยเห็นอะไร ดังนั้นการลงดำที่นี่จึงจะต้องดำท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว ถ้าถามว่ากระแสน้ำบริเวณนี้เชี่ยวแค่ไหนก็ต้องบอกว่าเชี่ยวประเภทโดดลงจากเรือแล้วจะต้องปักหัวดำดิ่งลงไปใกล้แนวผาใต้น้ำให้เร็วที่สุด จากนั้นก็จะล่องลอยไปกับกระแสน้ำเหมือนร่อนบินล่องลอยไปในอากาศ ไม่ต้องคิดที่จะว่ายทวนน้ำกลับมาเพราะไม่มีทางจะต้านความรุนแรงของกระแสน้ำได้ และการดำน้ำที่นี่นอกจากอุปกรณ์ดำน้ำที่จำเป็นทั่วๆไปแล้ว นักดำน้ำจะต้องใช้ตัวช่วยที่สำคัญเป็นอุปกรณ์เสริมนั่นคือตะขอที่มีห่วงผูกเชือกยาวสัก 1 เมตร ปลายเชือกด้านหนึ่งมีตัวล็อคเกี่ยวติดไว้กับห่วงบีซีที่นักดำน้ำสวมอยู่ ตะขอนี้จะมีความสำคัญมากประเภทขาดแทบไม่ได้เลยทีเดียวสำหรับการดำน้ำที่นี่ เพราะจะทำให้เราสามารถเกาะเกี่ยวติดกับหินแล้วลอยตัวดูฝูงปลาสากได้โดยไม่ลอยละลิ่วปลิวไปกับกระแสน้ำ ขบวนสวนสนามของปลาสาก เมื่อไดฟ์ลีดเดอร์พาล่องลอยตามกระแสน้ำเลียบผาแนวปะการังมาได้ชั่วครู่ก็จะถึงปากช่องแคบที่จะแยกเข้าสู่ลากูน มาถึงตรงนี้ก็จะต้องบังคับทิศทางเพื่อเลี้ยวเข้าสู่ปากลากูนให้ทัน ไม่เช่นนั้นก็จะลอยเลยไปตามแนวผาใต้น้ำลอยเลียบแนวปะการังไปอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อบังคับเลี้ยวมาถึงปากช่องทางเข้าลากูน บริเวณนี้จะมีลักษณะคล้ายสามแยก มีลานกว้างระดับความลึกราว 15-16 เมตร ให้เป็นจุดชมฝูงปลาสากซึ่งนักดำน้ำทุกคนจะต้องรีบมองหาก้อนหินเพื่อเอาตะขอประจำตัวเกี่ยวกับก้อนหินเพื่อหยุดตัวเองให้ลอยอยู่กับที่เหมือนเรือลงจอดทอดสมอ ซึ่งเมื่อมาถึงที่นี่สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจก็จะปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้า ด้วยฝูงปลาสากครีบดำขนาดใหญ่ แต่ละตัวความยาวราว 1 เมตร จับกลุ่มรวมฝูงล่องลอยกันอยู่นับพันนับหมื่น มันลอยตัวเรียงรายเป็นขบวน เป็นระเบียบราวกองทัพที่หันหน้าไปทางเดียวกัน เคลื่อนพลไปทางเดียวกันเหมือนกองทัพที่กำลังแปรขบวนสวนสนาม บางครั้งมันก็แปรขบวนเป็นรูปวงกลมดูเหมือนพายุทอนาโดที่กำลังพัดหมุนเคลื่อนผ่าน บางครั้งฝูงปลาสากก็เคลื่อนเข้ามาใกล้จนแทบจะเอื้อมมือจับถึง มองเห็นคมปากแหลมเรียว กับเขี้ยวแหลมยาวคับออกมานอกปากกับดวงตาดำขลับกลมโต ลายเกล็ดสีเงินกับลายริ้วบั้งสีเทาบนลำตัวสะท้อนกับแสงตะวันที่ส่องลงมาจากผิวน้ำเบื้องบน ฟองอากาศของนักดำน้ำแต่ละคนที่เรียงรายกันเกี่ยวตะขอลอยตัวดูการแปร ขบวนสวนสนามของฝูงปลาสาก พร่างพรูล่องลอยลู่ไปทางเดียวกันเป็นสีเงินยวงตามแนวความเชี่ยวแรงของกระแสน้ำ กำลังชมฝูงปลาสากสวนสนามอยู่ดีๆ อาจเจอกับฝูงปลากระเบนนก 5-6 ตัว ก็ขยับปีกเคลื่อนผ่านมาตามแนวน้ำอันล้ำลึกด้านนอกมองดูราวกับฝูงนกบิน ขบวนสวนสนามของฝูงปลาสากยังคงแปรขบวนดำเนินไปอย่างดงามกระทั่งกระแสน้ำเริ่มทรงๆตัว และเมื่อสายน้ำเริ่มหยุดนิ่งอิ่มตัวไม่ขึ้นไม่ลง แพลงก์ตอนและอาหารที่ล่องลอยมากับกระแสน้ำราวกับสายพานอาหารที่หมุนผ่านก็หยุดลง ฝูงปลาขนาดเล็กที่มารวมตัวกันบริเวณสามเหลี่ยมปากลากูนก็แยกย้าย ฝูงปลาสากก็เคลื่อนย้ายไปหากินที่อื่นต่อ จวบจนระดับน้ำเริ่มขึ้นเริ่มลง กระแสน้ำเริ่มพัดพาเคลื่อนไหลอีกครั้ง ขบวนสวนสนามของฝูงปลาสากที่นี่ก็จะเริ่มต้นขึ้นอีก หมุนเวียนไปเช่นนี้วันแล้ววันเล่า.
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
กากาบันทะเลสาบมหัศจรรย์ ...................... วินิจ รังผึ้ง กากาบัน (Kakaban Island) เป็นเกาะสุดท้ายที่เราจะดำน้ำสำรวจกันในทริปการเดินทางมาดำน้ำกับเรือภาณุนี เรือบริการดำน้ำมาตรฐานชั้นนำของคนไทย ที่มาลอยลำให้บริการดำน้ำบริเวณหมู่เกาะเดราวันของประเทศอินโดนีเซีย หมู่เกาะเดราวัณแห่งนี้เป็นแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงของโลก เพราะตั้งอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร และอยู่ใกล้กับเกาะกาลิมันตันด้านตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งที่มีอินทรีสารและธาตุอาหารไหลลงทะเลอย่างมากมาย บริเวณนี้จึงมีท้องทะเลและแนวปะการังที่มีสัตว์น้ำมากมายหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว หมู่เกาะเดราวัณมีเกาะที่เหมาะสำหรับการดำน้ำอยู่ 4 เกาะด้วยกันคือ เกาะเดราวัน เกาะซังกาลากิ เกาะมาราตัว และเกาะกากาบันแห่งนี้ กากาบันเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่นัก ตั้งโดดเด่นอยู่กลางท้องทะเล แต่เกาะแห่งนี้ก็มีความสำคัญเป็นพิเศษเพราะตรงกลางเกาะมีทะเลสาบขนาดประมาณ 5 ตารางกิโลเมตรตั้งอยู่ ลักษณะเป็นทะเลสาบปิดที่น้ำในทะเลสาบไม่มีช่องเชื่อมต่อกับน้ำทะเลภายนอก ลักษณะเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่เริ่มจะเป็นน้ำกร่อยเพราะมีปริมาณของน้ำฝนเติมลงไปทุกปี ความพิเศษของทะเลสาบกากาบันแห่งนี้ก็คือลักษณะการกำเนิดที่ข้อมูลทางธรณี วิทยาระบุว่า กำเนิดขึ้นเมื่อราว 2 หมื่นปีก่อน โดยแต่เดิมกากาบันมีลักษณะเป็นเกาะปะการัง (Atall) ที่เกิดจากการรวมตัวของแนวปะการังจนโผล่พ้นน้ำ แต่เกาะแห่งนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรณีสัญฐานครั้งใหญ่ โดยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทำให้เกิดพลังมหาศาลยกตัวขอบแนวปะการังด้านข้างให้สูงขึ้นมาอย่างทันทีทันใด ก่อให้เกิดเป็นขอบคันปิดกั้นน้ำทะเลตอนกลางด้านในเอาไว้ ทำให้กลายสภาพเป็นทะเลปิด เมื่อวงจรเชื่อมต่อกับน้ำทะเลภายนอกถูกปิดกั้น สรรพชีวิตในผืนน้ำกว้างราว 5 ตารางกิโลเมตรก็เหมือนถูกขังไว้ในทะเลสาบแห่งนี้ชั่วนิจนิรันดร์ เมื่อกาลเวลาผันผ่านไปยาวนานจวบจนปัจจุบัน เกาะกากาบัน ทะเลสาบกากาบันและสรรพชีวิตบนเกาะรวมทั้งในทะเลสาบแห่งนี้ก็เปลี่ยนแปลงและมีวิวัฒนาการไปตามกาลเวลา ฝนที่ตกลงมาทุกปีทำให้ความเค็มของน้ำในทะเลสาบลดลง รอบเกาะถูกปกคลุมด้วยผืนป่าดิบชื้น ป่าชายหาด และป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ส่วนในทะเลสาบกว้างสีเขียวมรกต สัตว์ทะเลขนาดใหญ่ที่ถูกปิดขังตั้งแต่ยุคแรกไม่อาจปรับตัวได้ ก็ล้มหายตายจากและสูญพันธุ์ไปจากทะเลสาบ เหลือไว้เพียงกุ้ง หอย ปู ปลา สัตว์น้ำและพืชน้ำขนาดเล็ก แม้นหลายๆชีวิตจะล้มหายตายจากไปจากทะเลสาบกากาบันเนื่องจากไม่อาจปรับตัวให้ดำรงชีพอยู่ในทะเลสาบปิดได้ แต่ก็มีสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่สามารถจะสืบสานเผ่าพันธุ์และขยายพันธุ์ขึ้นได้อย่างมากมายจนกลายเป็นเจ้าแห่งทะเลสาบกากาบันไปทั้งที่มันเป็นสัตว์ที่มีโครงสร้างของชีวิตง่ายๆไม่สลับซับซ้อน และมีร่างกายแสนจะบอบบางอ่อนนุ่ม เจ้าสัตว์ที่สามารถจะครอบครองทะเลสาบกากาบันชนิดนี้ก็คือ “แมงกะพรุน” นั่นเอง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะแมงกะพรุน มีโครงสร้างของร่างกายง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน ล่องลอยจับกินแพลงก์ตอน พืชและสัตว์ขนาดเล็กเป็นอาหาร มันไม่ต้องการอาหารมากมายจึงสามารถจะปรับตัวให้อยู่รอดได้ในทะเลสาบแม้นสภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนแปลงไปเช่นใด และยิ่งเมื่อปลาขนาดใหญ่ สัตว์ทะเลขนาดใหญ่ไม่อาจจะทานทนอยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ได้ แมงกะพรุนก็เลยไม่มีภัยจากสัตว์ผู้ล่า ทำให้มันสามารถจะสืบสานเพิ่มปริมาณของเผ่าพันธุ์ขึ้นมาได้มากมาย จนสามารถครอบครองทะเลสาบได้อย่างน่ามหัศจรรย์ ซึ่งเกาะที่มีทะเลสาบแมงกะพรุนลักษณะเช่นนี้มีเพียง 2 แห่งในโลกเท่านั้น คือที่เกาะกากาบันแห่งนี้และที่เกาะปาเลาของไมโครนีเซีย การมาเที่ยวชมทะเลสาบกากาบันแห่งนี้ เมื่อเรือยางพาจากเรือใหญ่มาจอดหน้าสะพานไม้ท่าเรือ ก็จะต้องปีนบันไดไม้ซึ่งทำเป็นทางเดินผ่านป่าดิบอันร่มครึ้มขึ้นไปตามความสูงชันของภูเขาหิน ซึ่งมีลักษณะเป็นหินภูเขาไฟที่มีรูพรุนและมีความแหลมคม ระยะทางราว 100 เมตร ก็จะเป็นขึ้นบันไดลงไปถึงริมทะเลสาบกลางเกาะ นักดำน้ำต้องช่วยกันขนอุปกรณ์กล้องถ่ายภาพใต้น้ำและอุปกรณ์ดำน้ำสำหรับสนอร์เกิลติดไปด้วย เพื่อจะลงดำสำรวจทะเลสาบกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าทะเลสาบแห่งนี้ยังคงความเป็นธรรมชาติสูง ในแต่ละปีจะมีผู้คนมาเที่ยวชมไม่มากนักเพราะเป็นเกาะที่อยู่ห่างไกลกลางทะเลกว้าง จะมีชาวเกาะใกล้เคียงมาเที่ยวกันมากก็เฉพาะวันหยุดในเทศกาลสำคัญปีละไม่กี่วันเท่านั้น รอบทะเลสาบมีป่าโกงกางอันอุดมสมบูรณ์ปกคลุมตลอดแนว เมื่อหน้ากากดำน้ำทาบลงไปในผืนน้ำสีมรกต ภาพของผืนน้ำใสมีสาหร่ายทะเลสีเขียวขึ้นคลุมอยู่ทั่วก็ปรากฏ มีแมงกะพรุนชนิดต่างๆมากมายนับหมื่นนับแสนตัว ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ว่ายล่องลอยกันอยู่ทั่วทะเลสาบ บ้างก็นอนทาบอยู่กับพื้นสาหร่าย นับเป็นภาพที่งดงามมหัศจรรย์ แมงกะพรุนเหล่านี้เป็นชนิดที่ไม่มีเข็มพิษ จึงไม่เป็นอันตรายต่อนักดำน้ำ ตามรากต้นโกงกางใต้ผืนน้ำยังเต็มไปด้วยฟองน้ำหลากสี ทั้งสีชมพู ม่วง แดง เหลือง ดูสวยงาม ดอกไม้ทะเลสีสวย หนอนท่อ และทากทะเลสีแปลกตา ทั้งยังมีปลาขนาดเล็กหลายชนิด โดยเฉพาะปลาบู่ทะเลที่สวยงามและบางชนิดได้ชื่อว่าไม่พบในที่อื่นใด ซึ่งนั่นนับเป็นความมหัศจรรย์ยิ่งของทะเลสาบกากาบัน ทะเลสาบมหัศจรรย์ 1 ใน 2 ของโลกแห่งนี้ นอกจากทะเลสาบมหัศจรรย์กลางเกาะกากาบันแล้ว แนวปะการังรอบๆเกาะก็เป็นจุดดำน้ำที่น่าสนใจ เพราะมีทั้งสภาพเป็นแนวปาการังที่ทอดตามระดับความลาดชันของเกาะและแนวปะการังแบบผาปะการังที่ตัดลึกดิ่งชันลงไปหลายร้อยเมตร เป็นลักษณะการดำตามกำแพงผาใต้น้ำที่น่าตื่นเต้นท้าทาย เรียกว่าการมาดำน้ำที่เกาะกากาบันนั้น นับเป็นประสบการณ์ครั้งที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#3
|
|||
|
|||
|
"เดราวันหมู่เกาะในฝันของคนรัก(ษ์)ทะเล" ผมเคยเข้าไปอ่าน ที่พี่น้อย เขียนกระทู้นี้หลายรอบแล้ว ชอบมากๆเลยครับ ชอบทั้งการเล่าเรื่อง/ภาพ แล้วผมก้อบอกตัวเองว่า ต้องไปให้ได้ ต้องไปให้ได้:d
|
|
#4
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณจ้ะน้องดื้อ blue day..... ![]() เดราวันฯ เป็นจุดดำน้ำที่ประทับใจมากๆ และยังอยากจะไปที่นี่อีกสักครั้งหนึ่งค่ะ...
__________________
Saaychol |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|