เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 05-07-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


“เขื่อนดักตะกอน” จากเสาไฟ เพิ่มพื้นดินให้กลับคืน ป้องไทยเสียดินแดน โดยไม่รู้ตัว


ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดน!!!

ที่กล่าวมานี้ไม่ใช่ว่าไทยจะเสียดินแดนกรณีพิพาทชายแดนไทย-เขมร แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะปัญหาชายฝั่งทะเลถูกกัดเซาะ ซึ่งกลืนกินพื้นที่ไปไม่น้อยในแต่ละปี และจะรุนแรงยิ่งขึ้นในอนาคต

คลื่นรมที่แรงขึ้นมีการกัดเซาะชายฝั่งที่ยาว 2,815 กม. ครอบคลุมพื้นที่ 23 จังหวัด พบว่าอ่าวไทยมีพื้นที่วิกฤตที่มีการกัดเซาะเฉลี่ยมากกว่า 5 เมตรต่อปี

จ.สมุทรปราการ มีพื้นที่ติดอ่าวไทยตอนบน มีความยาวของชายฝั่งทะเลประมาณ 45 กิโลเมตร แต่ปัจจุบันถูกกัดเซาะอย่างรุนแรงไปแล้วกว่า 30 กิโลเมตร หรือคิดเป็น 67% ของความยาวชายฝั่งทะเลทั้งหมด โดยเฉพาะแหลมสิงห์ ที่ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา น้ำทะเลได้กัดเซาะพื้นดินหายไปนับสิบกิโลเมตร ซึ่งถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต หากปล่อยไว้พื้นดินก็จะถูกกัดเซาะหายไปเรื่อยๆ

การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. ซึ่งมีพื้นที่รับชอบการจ่ายไฟให้กับกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งตระหนักในปัญหาภาวะโลกร้อนและมีความห่วงใยในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมโดยเฉพาะป่าชายเลน จึงได้จัดกิจกรรมสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนมาโดยตลอด

โครงการ “กฟน. รวมพลังคนพันธุ์อา...ปลูกป่าชายเลน” คือ โครงการล่าสุดที่ กฟน. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้จัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2551 ด้วยการสนับสนุนให้ เยาวชน นักเรียน และนักศึกษา มีส่วนร่วมในการปลูกป่าชายเลนเพื่อฟื้นฟูและรักษาชายฝั่งทะเล

นายสมศักดิ์ ศรีทองวัฒน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ป่าชายเลนลดจำนวนลงอย่างมาก อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง กฟน. จึงได้จัดโครงการ “กฟน. รวมพลังคนพันธุ์อา...ปลูกป่าชายเลน” นี้ขึ้น ซึ่งเป็นกิจกรรม csr ที่จะมุ่งเน้นเยาวชนให้มีจิตสำนึก ตระหนัก และรักษาสิ่งแวดล้อม โดยการร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนในพื้นที่ต่างๆ พร้อมทั้งให้ความรู้โดยการศึกษาจากธรรมชาติ สร้างการเรียนรู้ให้กับเยาวชนแบบบูรณาการจากประสบการณ์จริง และสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ให้กับเยาวชนรุ่นใหม่

ปี 2554 เป็นปีที่ 4 ของการจัดโครงการ โดยได้นำเยาวชนจำนวน 2,000 คน ซึ่งเป็นนักเรียนอาชีวศึกษาในสังกัดพื้นที่ กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยแบ่งเป็น 10 รุ่นๆ 200 คน เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ที่บริเวณป้อมประจุลจอมเกล้า ฐานทัพเรือกรุงเทพ จ.สมุทรปราการ ซึ่งจากผลการประเมินป่าชายเลนที่ปลูกไว้ สามารถอยู่รอดได้มากกว่า 60%

การปลูกป่าชายเลนเป็นวิธีการหนึ่งที่จะคืนธรรมชาติคืนสู่ท้องทะเลไทย และยังช่วยเพิ่มพื้นดินใหม่อีกด้วย ซึ่งการเพิ่มพื้นดินนี้ยังมีอีกแนวทางหนึ่ง ที่ กฟน. ได้จัดทำขึ้น ด้วยการใช้วัสดุ อุปกรณ์ของ กฟน. มาใช้ให้เกิดประโยชน์ นั่นคือ เสาไฟฟ้า เสาไฟฟ้า สามารถนำมาสร้างเป็นเขื่อนดักตะกอนเพื่อป้องกันการกัดเซาะและเพิ่มพื้นดินให้กลับคืนมาได้

กฟน. มีโครงการก่อสร้าง “เขื่อนดักตะกอน” เพื่อป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเล และนำพื้นดินกลับมา โดยเป็นการต่อยอดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยการใช้เสาไฟฟ้าหัก ชำรุด ไม่สามารถใช้ได้มาแทนไม้ไผ่ และใช้ยางรถยนต์เก่าสวมเข้ากับเสาไฟฟ้า นำไปปักบริเวณที่ชายฝั่งที่มีปัญหาด้านการกัดเซาะ

นายสมศักดิ์กล่าวว่า จากการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในระยะแรกตั้งแต่ ต.ค.2548 จนถึงปี 2551 พบว่า เขื่อนดักตะกอนที่สร้างขึ้นจากเสาไฟฟ้า มีประสิทธิภาพลดทอนความแรงของคลื่น และเปลี่ยนทิศทางกระแสน้ำได้ถึง 80% ดินโคลนจะถูกซัดขึ้นมาค้างกลายเป็นตะกอนอยู่หลังเสาไฟฟ้า ซี่งจะกลายเป็นพื้นดินต่อไปในอนาคต สูงขึ้นจากเดิม 60 ซม.

นอกจากนี้แล้ว กฟน. ยังได้วิเคราะห์และวิจัย มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุดเพื่อให้เขื่อนดักตะกอนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งเรื่องของระยะห่างระหว่างชายหาดกับแนวเสาไฟฟ้า ระยะห่างระหว่างเสาไฟฟ้าแต่ละต้น และวิธีการปักเสาไฟฟ้าอีกด้วย

ผลของการปลูกป่าชายเลนไปแล้วกว่า 200 ไร่ และโครงการปักไฟฟ้าทำเขื่อนดักตะกอน ณ วันนี้ สามารถฟื้นฟูป่าชายเลน สร้างแหล่งอาหารและเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ คืนธรรมชาติกลับคืนมา รวมไปถึงการได้ผืนดินกลับมาในอนาคตอีกด้วย

ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง นับเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลให้พื้นดินถูกทลายลงหายไปกับน้ำทะเล แน่นอนว่าหากปล่อยปะละเลยไป โดยไม่มีการป้องกัน แผ่นดินไทยก็จะสูญหายไปเรื่อยๆ ไม่ต่างจากการที่ประเทศไทยเสียดินแดนโดยไม่รู้ตัว นั่นเอง




จาก ........................... แนวหน้า วันที่ 5 กรกฎาคม 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 30-09-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


ถมชายหาดพัทยาก่อนจมหายใน 4 ปี


จุฬาฯ ได้ข้อสรุปวิธีแก้ปัญหากัดเซาะชายหาดพัทยา ใช้วิธีเติมทรายเพิ่มความกว้าง 35 เมตร ป้องกันคลื่นกลืนหาดพัทยาจมหายได้ 10-14 ปี เผย 8 เดือนทำเสร็จ ชี้แบบจำลองช่วงน้ำลงหาดพัทยากว้างได้ถึง 106 เมตร ขณะนี้กว้างเฉลี่ย 3 เมตรเท่านั้น เผยนำทรายจากปากแม่น้ำระยองเหมาะสมที่สุด ไม่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่าตั้งงบรอ 387 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยผลสรุปโครงการศึกษาวางแผนแม่บทและสำรวจออกแบบเพื่อเสริมทรายชายหาดพัทยาว่า ขณะนี้ได้ศึกษาวิจัยแนวทางแก้ปัญหากัดเซาะชายหาดพัทยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยใช้วิธีนำทรายจากปากแม่น้ำระยองจำนวน 369,035 ลูกบาศก์เมตร มาเติมชายหาดพัทยาจนได้ความกว้าง 35 เมตร เท่ากับความกว้างในอดีตเมื่อปี 2495 แต่ปัจจุบันชายหาดพัทยามีความกว้างเฉลี่ย 3 เมตร ช่วงน้ำขึ้นสูงสุด พัทยาเหนือและใต้ไม่มีชายหาด ผู้ประกอบการต้องใช้วิธีใช้กระสอบทรายกั้นแล้วโกยทรายมาใส่ในบริเวณเตียงผ้าใบ แต่ไม่มีทางเดินหาดทรายแล้ว หากปล่อยไว้โดยไม่รีบแก้ไขก็จะส่งผลให้ชายหาดพัทยาถูกกัดเซาะจมหายภายใน 4-5 ปีข้างหน้า

ศ.ดร.ธนวัฒน์กล่าวว่า สำหรับการศึกษาออกแบบและขั้นตอนเสริมทรายเสร็จสมบูรณ์แล้ว วิธีนี้ถือเป็นโครงสร้างแบบอ่อนที่นิยมทำในต่างประเทศ แต่ประเทศไทยยังไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งมักจะใช้โครงสร้างแบบแข็ง เช่น เขื่อนกันคลื่น การเติมทรายเป็นวิธีที่ทำยาก ต้องใช้องค์ความรู้หลายสาขาวิชาเข้ามาบูรณาการ ต้องศึกษารูปแบบการกัดเซาะชายฝั่ง ทิศทางการเคลื่อนไหวของทราย กระแสคลื่นและลม รวมทั้งความเหมาะสมของแหล่งทราย ที่สำคัญคือ ต้องไม่มีผลต่อกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ให้ทรายฟุ้งกระจายทำให้น้ำขุ่น ก่อนหน้านี้พัทยาเคยแอบเติมทรายมาแล้ว แต่ใช้ทรายเม็ดเล็กทำให้ชายหาดถูกกัดเซาะเร็วขึ้น

"วิธีเติมทรายไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทะเล แต่อย่างไรก็ตาม จะหารือกับสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ว่าโครงการเติมทรายนี้เข้าข่ายต้องจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ ด้วยหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายก็พร้อมที่จะยื่นรายงานได้ทันทีและไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะเป็นข้อสรุปจากผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน" ศ.ดร.ธนวัฒน์เผย

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการดังกล่าว โดยตั้งงบประมาณไว้ 387 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทำได้ในปี 2555 โดยขั้นตอนการเติมทรายมีระยะเวลาทั้งสิ้น 8 เดือน จากการวิเคราะห์หาดสมดุลจากแบบจำลองทางวิศวกรรมชายฝั่ง หลังจากเสริมทรายชายหาดกว้าง 35 เมตร พบว่า ชายหาดพัทยาจะใช้เวลาในการปรับสภาพเข้าสู่สภาพสมดุลใน 3 ปีแรก เมื่อผ่านปีที่ 3 ไปแล้วความกว้างชายหาดจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในกรณีน้ำขึ้นสูงสุดชายหาดจะกว้าง 40 เมตร กรณีน้ำลงต่ำสุด ชายหาดจะมีความกว้าง 106 เมตรนับตั้งแต่แนวกำแพงทางเดินชายฝั่งถึงระดับน้ำทะเล

นอกจากการเติมทรายแล้วยังมีการสร้างแนวกันชนโดยใช้ถุงทรายทำจากใยสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนต่อแสงแดดและการกัดกร่อนของน้ำทะเล ถุงทรายนี้ฝังไว้ใต้พื้นทราย 50 เซนติเมตร เพื่อป้องกันการกัดเซาะที่รุนแรงจากคลื่นลมที่ผิดปกติ และช่วงที่มีพายุไต้ฝุ่นเข้าหาดพัทยา ระยะแนวกันชนได้ออกแบบไว้ห่างจากแนวกำแพงริมทางเดินชายหาดประมาณ 15 เมตร เพื่อเตือนว่าอีก 10-14 ปีข้างหน้าจำเป็นต้องซ่อมแซมชายหาดด้วยวิธีเสริมทรายใหม่ โครงการนี้จะดำเนินการเสริมหาดทรายยาว 2,785 เมตร ตั้งแต่หาดพัทยาเหนือถึงหน้าหาดพัทยาใต้บริเวณทางเข้าวอล์กกิ้งสตรีท

"จากแบบจำลองแสดงให้เห็นว่า หลังจากที่เติมทรายชายหาดพัทยาแล้วจะถูกกักเซาะด้วยอัตรา 0.8 เมตรต่อปี โดยในอีก 10-14 ปีข้างหน้า การกัดเซาะจะถึงแนวกันชนที่ได้สร้างไว้ จึงจำเป็นต้องมีการเติมทรายใหม่ทุกๆ ระยะเวลา 10-14 ปีในอนาคต อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการซ่อมแซมชายหาดในอนาคตอาจจะไม่ได้เป็นไปตามทฤษฎีเสมอไป อาจจะเร็วกว่าที่กำหนดแค่ 5-7 ปี หากมีคลื่นลมทางตะวันตกที่รุนแรงผิดปกติเหมือนปี 2553 หรือมีไต้ฝุ่นพัดเข้ามาเป็นต้น" หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ เผย

สำหรับแหล่งทรายจากปากแม่น้ำระยองที่นำมาเติมชายหาดพัทยานั้น ได้ผ่านขั้นตอนการเก็บตัวอย่างทรายจาก 3 แหล่ง ประกอบด้วย ชายหาดพัทยาเหนือใต้ จำนวน 11 ตัวอย่าง แหล่งทรายจากสันดอนทรายปากแม่น้ำระยอง จำนวน 42 ตัวอย่าง และแหล่งทรายจากนอกชายฝั่งอ่าวพัทยา จำนวน 23 ตัวอย่าง ซึ่งนำมาวิเคราะห์การคัดขนาดของตะกอนพบว่า ทรายจากปากแม่น้ำระยองมีความเหมาะสมและมีคุณภาพดีที่สุดโดยไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.




จาก ........................ ไทยโพสต์ วันที่ 30 กันยายน 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:37


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger