เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 04-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default




สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงประมาณห้าล้านคน ในขณะที่มีแผ่นดินที่กว้างใหญ่กว่า 236,800 ตารางกิโลเมตร นับเป็นอาณาจักรที่เต็มไปด้วยขุนเขาและสายน้ำ



พอเราเข้าไปในอาณาจักร์ของลาวแล้ว ขบวนคาราวานของเราก็มีรถตู้ของตำรวจทางหลวงเปิดไฟแว้บ มาช่วยนำขบวนรถของเราตลอดทางทั้งไปและกลับ มีตำรวจยศร้อยโทของลาวเป็นผู้ควบคุมมา


เราขับรถชิดขวา ไปตามถนนไฮเวย์คอนกรีตชั้นดี รถวิ่งได้นิ่มก้นมาก แต่พักเดียว ถนนไฮเวย์ก็หมดลง รถแล่นปุเลงๆเข้าถนนลาดยางแคบๆ ถนนปุๆปะๆ รถราก็วิ่งกันขวั่กไขว่ แต่พอเห็นรถตู้ติดไฟแว้บ รถทั้งที่วิ่งอยู่ข้างหน้าและที่สวนมา จะหยุดแอบให้ขบวนรถของเราหมด อย่างไรก็ตาม การขับรถก็ไม่สะดวกสบายเหมือนที่วิ่งในบ้านเราเลย






เมื่อรถเริ่มไต่ขึ้นเขา..การขับรถก็ยิ่งลำบาก เราจะต้องพยายามตามติดรถที่อยู่ข้างหน้าให้ทัน มิฉะนั้น รถอื่นจะไม่หลบให้เรา แม้จะเปิดไฟหน้าแสดงว่าเป็นรถในขบวนก็ตาม..


วิ่งลุยฝุ่นไปได้สักพัก ขบวนก็แวะจอดให้พักเพื่อเข้าห้องน้ำ ที่ปั๊มใหญ่ไม่ไกลจากวังเวียงนัก..


__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 27-05-2012 เมื่อ 11:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 04-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



การจะเข้าห้องน้ำ ถ้าไม่เติมน้ำมัน ต้องเสียเงินคนละ 1,000 กีบ หรือ 5 บาท แต่เราเข้าฟรีหมดทุกคน...ห้องส้วมสะอาดดี มีแต่ส้วมนั่งยองๆนะคะ

โอ้..คนแก่ลุกนั่งลำบากมากๆเลยล่ะค่ะ



รถกระบะดีแมกซ์ เบอร์ 00 ทำหน้าที่ทั้งรถซ่อมบำรุง...รถปิดท้ายขบวน...และรถเสบียง พอขบวนรถหยุด ก็จะมีชา กาแฟ ของว่าง เครื่องดื่มชูกำลัง และผ้าเย็น นำมาแจกจ่าย...




ขบวนรถไปจอดทานข้าวเช้าผสมข้าวเที่ยง ที่ปากทางเข้า เมืองวังเวียง..กุ้ยหลินเมืองจีน ที่เราจะมาแวะเที่ยวและค้างคืนตอนขากลับ

ต้องขออภัยนะคะ ที่ไม่ได้ถ่ายภาพอาหารมื้อแรกในลาวมาให้ชม เพราะสองสายหิวจนตาลาย และอาหารก็ช่างอร่อยถูกปากมากๆ โดยเฉพาะตำแตง และผัดผักสลัดน้ำ (Watercress)



__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-06-2012 เมื่อ 23:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 05-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



พอพ้นวังเวียน...ถนนหมายเลข 13 ก็ไต่ระดับสูงขึ้นไปๆ ขบวนคาราวานขับขึ้นเขาตามกันเป็นทิวแถว ถนนที่คดเคี้ยวไปมา ผ่านภูเขารูปร่างแปลกๆ และหุบเหวลึก ที่มีหมอกเมฆสวยงาม


อืมมมมม!....เสาไฟที่เมืองลาวอยู่ชิดติดถนน และสายไฟระโยงระยางข้ามถนนไปมา น่าเวียนหัว.....




แต่สองสายไม่มีเวลาจะชื่นชมความงามกันนัก เพราะคนหนึ่งต้องตั้งสติและสมาธิกับการจับพวงมาลัยขับรถ ส่วนอีกคนต้องคอยเป็นคนนำทาง (Navigator) ตาสอดส่าย 360 องศา คอยดูทั้งถนนข้างหน้า...ซ้าย...ขวา...และหลัง เพื่อบอกให้คนขับเร่ง..เบรค..แซง..หลบ แถมยังต้องคอยรายงานผ่านวิทยุแจ้งเตือนอันตรายให้ทั้งรถข้างหน้า ข้างหลัง และรถบัญชาการ 00 เพื่อทราบ...และตอบคำถามต่างๆของ 00 และรถคันอื่นๆ...


เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ แต่ก็มีความสุขสนุกสนานมากค่ะ...


__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 03-11-2012 เมื่อ 18:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 05-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



รถแล่นผ่านเมืองกาสี เพื่อมุ่งหน้าสู่เมืองภูคูน ก่อนจะถึงภูคูนเราแวะที่จุดพักรถ "ภูเพียงฟ้า" เพื่อแวะเข้าห้องน้ำ ดื่มกาแฟและชมวิวที่สวยงามกัน





เสียดายที่ "ภูเพียงฟ้า" ในวันนั้น มีหมอกเยอะไปหน่อย ทำให้ได้ภาพสลัวมัวซัว แถมลมก็แรงและเย็นมากๆ ทำให้เราไม่กล้าจะเดินออกไปถ่ายภาพกันที่ริมหน้าผา

คงจะต้องมาแก้มือใหม่ ตอนขากลับแล้วล่ะค่ะ





เข้าห้องน้ำ(เสียเงินคนละ 5 บาท)แล้ว..ก็ดื่มกาแฟแก้ง่วงกันหน่อย..





__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 18-05-2012 เมื่อ 18:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 05-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



จากภูเพียงฟ้า...เราผ่านภูคูน ซึ่งเป็นจุดแยกของเส้นทางหมายเลข 13 ที่จะตรงไปเมืองหลวงพระบาง กับเส้นทางหมายเลข 7 ที่จะตรงไปเมืองโพนสะวัน เมืองหลวงของแขวงเชียงขวาง และเลยไปจนถึงพรมแดนติดเวียตนาม

ด้วยระยะทางราว 400 เมตร ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเวียงจันทน์ เราไปถึงโรงแรมเชียงขวางในเมืองโพนสะหวัน ซึ่งเป็นที่พักของเราในวันแรกนี้ ก็เกือบจะสองทุ่มแล้ว อากาศที่ลดลงเหลือ 6 องศาเซลเซียส ทำให้เราหนาวเข้ากระดูกดำ จนสั่นงั่กๆยามขนของลงจากรถขึ้นห้องนอน หลังทานข้าวเย็นเสร็จก็เกือบสี่ทุ่ม คืนนั้นเราอาบน้ำร้อนๆแล้วก็ขึ้นเตียงหลับเป็นตาย..

เช้าวันใหม่ จึงเห็นหน้าตาโรงแรมที่พักว่ามีสีฟ้าอ๋อยดีแท้..





หน้าโรงแรมเป็นถนนใหญ่กว้างขวาง บ้านเรือนก็ดูเจริญดี..





รถตุ๊กๆหน้าตาเหมือนที่หนองคาย ดูจะเป็นพาหนะหลักของที่นี่..





ทานข้าวเช้าเสร็จ เราต้องนำรถออกไปเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมันที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมนัก..เสร็จแล้วก็ต้องนำไปจอดเตรียมตัวเข้ากองคาราวาน


__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 11-06-2012 เมื่อ 23:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 05-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



วันนี้...เราจะไปชมทุ่งไหหิน ที่มีชื่อเสียงของแขวงเชียงขวางกันค่ะ แม้ว่าอากาศจะหนาว 9 องศาเซลเซียส และเมฆหมอกเต็มท้องฟ้าก็ตาม..

เมื่อรถทุกคันพร้อม..ขบวนคาราวานก็เคลื่อนที่ออกจากโรงแรม มุ่งหน้าไปทางตะวันออกของตัวเมืองโพนสะหวัน ที่เป็นที่ตั้งของทุ่งไหหิน ในระหว่างทาง...ไกด์สาวชาวลาว ได้เล่าให้เราฟังเรื่องแขวงเชียงขวางว่า ที่นี่เป็นแขวงที่อยู่ติดกับเวียตนาม ในอดีตเมื่อราวเกือบ 400 ปีมาแล้ว เคยตกเป็นเมืองขึ้นของเวียตนาม และถูกบังคับให้แต่งกาย และใช้ขนบธรรมเนียมประเพณีของเวียตนาม แต่ชาวเชียงขวางได้ต่อสู่จนเป็นอิสระและมารวมอยู่กับลาว






ในปี พ.ศ. 2513...ระหว่างสงครามอินโดจีนหรือสงครามเวียตนาม เชียงขวางกลายเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือด เนื่องจากเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่ห่างจากนครเวียงจันทน์ประมาณ 400 กิโลเมตร และจากเมืองโพนสะหวันซึ่งเป็นเมืองหลวงของเชียงขวาง ข้ามเทือกเขาอันสลับซับซ้อนบนทางหลวงหมายเลข 7 ไปสิ้นสุดที่ ด่านน้ำกลั่น ชายแดนทางตอนเหนือของประเทศเวียตนาม ระยะทางเพียงแค่ 130 กิโลเมตร


ในช่วงสงครามอินโดจีนเส้นทางสายนี้เคยใช้เป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุง รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆจากประเทศเวียตนามเหนือ สู่ขบวนการประเทศลาว ซึ่งในขณะนั้นเป็นพันธมิตรซึ่งกันและกัน เส้นทางสายนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "เส้นทางโฮจิมินห์"




ขบวนการลาวได้ตัดสินใจตั้งกองบัญชาการใหญ่ขึ้นที่นี่ กองทัพอากาศอเมริกัน จึงส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี 52 เข้ามาทิ้งระเบิดปูพรหมหมายทำลายล้างขบวนการลาวอย่างหนัก หมู่บ้านใหญ่น้อยหลายร้อยแห่ง ตลอดจนวัดวาอารามถูกทำลายแทบทั้งหมด ที่หนักหนาสาหัส คือ "ฝนเหลือง" ที่ถูกโปรยลงมาตามแหล่งน้ำ และป่าเขาของเชียงขวาง ส่งผลให้ราษฏรและทหารฝ่ายขบวนการประเทศลาว ต้องอพยพเข้าไปอยู่ตามถ้ำและหุบเขาทั่วไป ในแขวงเชียงขวางและข้างเคียง




ไกด์สาวบอกเราด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดว่า ชาวเชียงขวางเจ็บช้ำน้ำใจกับเรื่องนี้มาก เธอชี้ให้เราดูว่าสองข้างทางที่เราเห็น เป็นผลพวงของสงครามครั้งนั้น 30 กว่าปีผ่านไป..ระเบิดที่ยังไม่ระเบิด สามารถพบเห็นได้มากมายในดินแดนของแขวงเชียงขวาง บางส่วนได้ถูกกู้ไปแล้ว แต่ผลพวงของ "ฝนเหลือง" ยังส่งผลกระทบ ทำให้ดินแดนแถบนี้รกร้าง ทำไร่นาและสวนไม่ได้ผล


ที่ เมืองคูน เมืองหลวงเก่า ยังคงมีร่องรอยของสงครามให้เห็นอยู่โดยทั่วไป ซากปรักหักพังบางแห่ง ทางรัฐบาลลาวได้อนุรักษ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็น ถึงพิษภัยของสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อในอดีต ร่องรอยของหลุมระเบิดขนาดใหญ่จากฝูงบิน บี 52 ของอเมริกันยังคงมีให้เห็นกันอยู่ทั่วไป ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นบ่อเลี้ยงปลาในนาข้าว ซากของลูกระเบิดน้ำหนักหลายสิบตัน ถูกดัดแปลงมาเป็นรั้วบ้าน เสาบ้าน รางข้าวหมู ที่นั่งเล่น เตาปิ้งบาร์บีคิวสำหรับนักท่องเที่ยว...




__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 05-01-2021 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #7  
เก่า 05-05-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



เรานั่งอยู่บนรถ ไม่ได้เห็นภาพอย่างที่ไกด์บอก แต่ก็รู้สึกได้ว่า สองข้างทางดูแห้งแล้ง ต้นไม้ต้นไร่ดูไร้ชีวิตชีวา ดินบางแห่งมีสีผิดปกติจากที่ได้เห็นแถววังเวียง หรือภูเพียงฟ้า..





รถเริ่มวิ่งแยกเข้าสู่ทุ่งไหหินกลุ่มที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองโพนสะหวัน ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ไปทางเมืองคูนเมืองหลวงเก่า ระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร


เรานำรถเข้าไปจอดในลานจอดรถเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากขบวนรถคาราวานของพวกเราแล้ว มีรถตู้นักท่องเที่ยว ที่ส่วนมากเป็นพวกฝรั่งหัวแดง จอดอยู่แล้วหลายคัน..





ทางเข้า มีป้ายบอกว่าแถวนี้เป็นเขตที่ยังกู้กับระเบิดไม่หมด ให้เดินในเขตสีขาวที่มีการกู้ระเบิดออกแล้วเท่านั้น มิฉะนั้นจะเป็นอันตรายได้


การกู้ระเบิดครั้งนี้ รัฐบาลลาวได้รับการช่วยเหลือ และสนับสนุนเป็นอย่างดี จาก UNESCO





ป้ายที่เห็นอยู่คู่กัน เป็นภาพวาดวิธีการที่จะช่วยกันดูแลทุ่งไหหิน...


__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-06-2014 เมื่อ 15:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:22


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger