เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > ท่องเที่ยวทั่วแผ่นดิน

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 06-07-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



อยากจะไปเดินเที่ยวชมต่อ แต่พอเห็นมูลช้างกองอยู่ เราก็เดินย้อนกลับไปปากทาง เพื่อเดินกลับไปที่ทำการหน่วยโคกนกกระบา พอถึงถนนลูกรังรถยนต์วิ่งได้ เราก็ค่อยเบาใจหน่อยค่ะ








เราจากภูหลวงมา เพื่อมุ่งหน้ากลับเชียงคาน ที่พักของเราในคืนนั้น....


ความตั้งใจที่จะกลับมาเพื่อท่องเที่ยวให้ทั่วจุดสำคัญๆ ที่มีมากมายหลายแห่งบนภูหลวง ยังคงคุกรุ่นอยู่ในจิตใจของเราตลอดเวลา จนถึงบัดนี้...


__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 07-07-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



ออกจากภูหลวงได้เราไม่ย้อนกลับไปทาง(สบายๆ) เส้นทางเดิม แต่กลับใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2399 ซึ่งแยกจากถนนหลวงหมายเลข 203 ไปทางอำเภอท่าลี่ แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 2195 เลียบลำน้ำเหือง ซึ่งไหลไปบรรจบลำน้ำโขง มุ่งหน้าสู่เชียงคาน...


ถนนหลวง 2399 อยู่ในสภาพค่อนข้างดี และวิวสองข้างทางเป็นทุ่งหญ้าโล่งๆ สูงๆต่ำๆ ไม่แน่ใจว่า ที่ดินบริเวณนี้ถูกหักล้างถางพง หรือว่าเป็นเขต "ทุ่งหญ้าสะวันนา" กันแน่...


วิ่งไปได้สักพักหนึ่ง ก็พบศาลาพักสำหรับนักเดินทาง จึงแวะเข้าไป เพื่อถ่ายภาพวิวทิวทัศน์แถวๆนั้น...





โชคดีจริงๆค่ะ ที่ศาลาแห่งนั้น เราสามารถมองเห็นภาพภูเรือ ที่อยู่ทางด้านตะวันตกได้ชัดเจน






หุบเขาที่อยู่เบื้องล่าง เขียวขจีด้วยนาข้าวขั้นบันได และสวนผลไม้และไม้ดอก ผิดกับยอดเขาที่เรากำลังยืนอยู่ซึ่งแสนจะแห้งแล้ง...




รถของเราวิ่งลัดเลาะเขาสูงที่ค่อยๆลาดต่ำลงเรื่อยๆ จนถึง เมืองท่าลี่ อันเป็นที่ตั้งของ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ของไทย (รองจากสะพานที่หนองคาย) ซึ่งสะพานแห่งนี้ สร้างข้ามแม่น้ำเหือง ไม่ใช่แม่น้ำโขง อย่างสะพานที่หนองคาย หรือที่กำลังจะสร้างอีกหลายแห่ง เสียดายค่ะ ที่เราไม่มีเวลาแวะชม เพราะเย็นมากแล้ว เกรงจะไปมืดกลางทาง ที่เรายังไม่เคยผ่านมาก่อน...





เราบังคับรถเลี้ยวขวา ไปตามถนนหลวงสาย 2195 ซึ่งถนนบีบแคบ ไม่มีขอบทาง และแทบไม่มีรถสวนมา พอใกล้ถึงเชียงคาน ถนนก็กลายสภาพเป็นพื้นผิวโลกพระจันทร์ เราหายสงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้นไปได้ เมื่อได้เห็นรถเทรลเลอร์ใหญ่ยักษ์ ขนทรายเต็มกระบะหนักอึ้ง และไหลหกเรี่ยราดเลอะเทอะไปตลอดทาง


เย็นนั้นกว่าจะถึงเชียงคานได้ พระอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปแล้ว....

__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-07-2012 เมื่อ 21:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 07-07-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default

วันสุดท้ายของการเดินทาง....


สองสายตื่นแต่เช้า ด้วยตั้งใจจะออกเดินทางจากเชียงคาน ไม่เกิน 7 โมงเช้า เพื่อจะได้กลับถึงบ้านในกรุงเทพฯ ไม่ดึกเกินไปนัก แต่ก็มีเหตุให้เราต้องออกเดินทางช้ากว่าที่ตั้งใจไว้เกือบชั่วโมง ทั้งนี้เพราะลูกสาวคุณไสว ได้มาแจ้งว่า คุณไสวขอให้เราคอยหน่อย เพราะกำลังจะไปนำพืชผักผลไม้ในสวนมาให้เรา นำกลับไปทานที่กรุงเทพฯ


น้ำใจของคุณไสว...ลูกเขยคุณตาหน่วม ที่ดูแลเราอย่างดีมาตลอด 4 วันในเชียงคาน ช่างประเสริฐนัก...ถ้าเราจะไม่คอยลาคุณไสว ก็ถือว่าเราใจจืดใจดำมากเกินไปหน่อย เราเลยนั่งดื่มกาแฟแกล้มปาท่องโก๋ คอยคุณไสวต่อไปอย่างสบายอารมณ์




คุณไสวมาถึง พร้อมกับมะละกอหลายลูก และกระหล่ำปลี จากสวนผักของคุณไสวเองอีกหลายหัว ซึ่งเป็นของฝากสำหรับเรา จากน้ำใจใสๆของคุณไสว เรานั่งคุยกันต่ออีกเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวขอบคุณและล่ำลาคุณไสว พร้อมกับส่งมอบมังคุดและมะขามหวาน อย่างละสองสามกิโล ที่เราซื้อมาจากตลาดสด ซึ่งตั้งใจจะนำมาฝากคุณไสวโดยเฉพาะ




การเดินทางมาเที่ยวเชียงคานครั้งนี้ เราได้ทั้งความสุขสนุกสนาน และได้ทั้งมิตรภาพและความจริงใจ จากคนเมืองเชียงคานแท้ๆอย่างคุณไสว ทำให้เราเกิดความประทับใจยิ่งนัก จนต้องสัญญากับคุณไสวว่า...


เราจะกลับมาเยี่ยมเยือนคุณไสว ณ.บ้านตาหน่วม แห่งเมืองเชียงคานอีกครั้งอย่างแน่นอน....

__________________
Saaychol

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-07-2012 เมื่อ 21:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 07-07-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default

เราออกจากเชียงคาน โดยใช้ทางหลวงฯหมายเลข 201 มุ่งหน้าผ่านจังหวัดเลย เข้าสู่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงฯหมายเลข 12 ซึ่งจะไปเชื่อมต่อถนนมิตรภาพ หรือทางหลวงฯหมายเลข 2


พอเข้าแขตอำเภอภูกระดึง...เราพยายามมองหาภูกระดึง ที่สายชลเคยปีนเขาขึ้นไปเที่ยวมาแล้วสองครั้ง และคุณสายน้ำเคยปีนขึ้นมาแล้วหนึ่งครั้ง แต่เมฆหมอกที่ลงหนาทึบ คลุมยอดภูกระดึงไว้จนมิด เราจึงได้แต่ภาพผานกเค้าที่อยู่ปากทางเข้าภูกระดึง มาเป็นที่ระลึกแทน...



ถนนที่เป็นไฮเวย์ชั้นดี ทำให้เราเดินทางถึงเมืองขอนแก่นภายในเวลาที่รวดเร็วมาก ครั้งแรกตั้งใจจะแวะทานข้าวเที่ยงในเมืองขอนแก่น แต่ความวุ่นวายในเมืองขอนแก่น ทำให้เราเปลี่ยนใจ เลยไปหาของทานและของฝากที่เมืองบ้านไผ่แทน


ได้ของฝากประเภท ไส้กรอก กุนเชียง หมูแผ่น หมหยอง ฯลฯ มาครบถ้วนแล้ว จากร้านดังของบ้านไผ่ (ที่เมื่อยี่สิบปีก่อนเล็กนิดเดียว ตอนนี้ใหญ่โตโอ่โถงมาก) ที่นี้ก็ถึงเวลาหาของอร่อยรับประทานแล้วค่ะ


ขับรถไปเรื่อยๆ สะดุดตากับร้านขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ชื่อร้าน "เชียงใหม่โอชา" ซึ่งคนทานกันแน่น เลยสันนิษฐานว่า ต้องอร่อยแน่ๆ ต้องขอลงไปชิมสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ..




ไม่ผิดหวังเลยค่ะ...ก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านนี้ รสโอชาสมชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อตุ่น เนื้อสด หรือ ลูกชิ้น รสชาติกลมกล่อม ปรุงนิดหน่อยก็อร่อยได้ที่แล้ว...





หมี่น้ำทุกอย่างไปคนละสองชาแล้ว ยังไม่หนำใจ ต้องสั่งเกาเหลาแห้งมาทานกันอีกสองจาน และสั่งเกาเหลาน้ำกลับบ้านอีก 10 ชุด ลูกชิ้นอีก 200 ลูก...



__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 07-07-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



อิ่มแล้ว...สบายใจ ขับรถไปเรื่อยๆ จนถึงเมืองโคราช ราวๆบ่ายสามโมง แทนที่เราจะใช้ถนนมิตรภาพตรงไปออกสระบุรี แล้วใช้ถนนพหลโยธินวิ่งกลับกรุงเทพฯ เรากลับเลี้ยวซ้ายไปเข้าทางหลวงฯ หมายเลข 304 เพื่อจะไปวังน้ำเขียว เพื่อไปแอบชม "บ้านภูโอบ" ของน้องโป๋..น้องชายสุดที่รักและ Webmaster สุดหล่อ ของ SOS...





ฝ่าถนนสองเลนส์ที่รถติดมากๆ มาจนถึงทางยูเทริน เพื่อเข้าไปบ้านภูโอบ เวลาก็ใกล้จะห้าโมงเย็นเต็มที่ เราก็ใจตุ๋มๆต่อมๆว่าทางเข้าจะลึกแค่ไหน เพราะเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก




แต่โชคดี...เข้าไปจากถนนใหญ่นิดเดียว ก็ถึงบ้านภูโอบแล้วค่ะ...





โอ้โฮ !!!...สวย น่ารัก และน่าพักจริงๆค่ะ...



__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 07-07-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



เราไปครั้งนี้...ไม่ได้บอกน้องโป๋ล่วงหน้า เพราะจะแอบไปชม และไม่อยากรบกวนน้องโป๋ให้ลำบากใจ และก็ไม่ได้หวังว่าจะได้พบน้องโป๋ ซึ่งทราบว่างานที่ทำอยู่ที่อรัญประเทศยุ่งมาก...


แต่พอเราผ่านไปทางห้องอาหารที่อยู่ด้านหน้าของบ้านภูโอบ ก็เห็นน้องโป๋นั่งก้มหน้าก้มตาอ่านอะไรอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่งของห้องอาหาร เราขับรถเข้าไปด้านหลังบ้าน น้องโป๋ได้ยินเสียงรถจึงเงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็ไม่ทราบว่าใครมากันแน่...





จนเราเดินไปหาจนใกล้ น้องโป๋ก็ยังจำไม่ได้ว่า เราเป็นใคร...จนเราต้องแสดงตัว น้องโป๋ ซึ่งคงคิดไม่ถึงว่าเราจะมาเยือนถึงถิ่น จึงร้องอ๋อ...จำเราได้...





จากนั้น...น้องโป๋ก็พาเราเดินชมบ้านภูโอบ ซึ่งร่มรื่นด้วยแมกไม้ สนามเขียวขจี...และ มีบ้านพักที่มีหลายหลังหลายแบบ ให้เลือกพักได้ตามใจ..



__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #7  
เก่า 07-07-2012
สายชล's Avatar
สายชล สายชล is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
สถานที่: Bangkok
ข้อความ: 9,123
Default



บ้านพักมีทั้งแบบนอนจู๋จี๋กันสองคน หรือ จะใช้เรือนนอนรวม ซึ่งนอนกันได้ 20-30 คน ก็มีให้เลือก...





หากอยากจะนอนกลางดินกินกลางทราย...น้องโป๋ก็มีที่ให้กางเต๊นท์ หรือเช่าเต๊นท์ของบ้านภูโอบพักได้ค่ะ..




เราเห็นบ้านภูโอบแล้ว ก็อยากจะมาสูดอากาศบริสุทธิ์เย็นสบาย ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ห้อมล้อมด้วยภูเขาใหญ่น้อย และนอนชมดาวชมเดือน ให้เพลิดเพลินเจริญใจ สักสองสามวัน


แต่คงไม่ใช่วันนี้แน่นอนค่ะ เพราะเราจากบ้านมานานร่วมสองอาทิตย์ และคิดถึงบ้านตัวเองเต็มแก่แล้ว แม้น้องโป๋จะคะยั้นคะยอให้นอนพักสักคืน เราจำใจต้องปฏิเสธไป แต่สัญญากับน้องโป๋ว่า สักวันหนึ่ง เราจะต้องมาพักหลับนอนที่บ้านภูโอบอย่างแน่นอน..



__________________
Saaychol
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:28


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger