![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก Nation TV
ทส.เตือนพวกขโมยไข่เต่า "ปลัดจตุพร ทส."เตือนพวกขโมยไข่เต่า พบแม้แต่ซากก็ไม่เว้น ด้าน ธรณ์ เดือดหากอยากได้เงินขอให้บอก อย่าขโมย หากพบและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าจัดการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สั่งสืบหาผู้กระทำความผิดและจะจัดการขั้นเด็ดขาด จากกรณีพบร่องรอยเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่บริเวณหาดเขาหน้ายักษ์ หมู่ที่ 4 ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา แต่พบเพียงไข่ลม 2 ฟอง คาดว่าไข่ที่เหลือน่าจะถูกขโมย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฝากเตือนพวกขโมยไข่เต่า จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจัง แม้พบเพียงซากก็ไม่เว้น ด้านนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ วอนหากอยากได้เงิน กองทุนอนุรักษ์ไข่เต่าพร้อมจ่าย 20,000 บาท หากพบและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าจัดการ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สั่งสืบหาผู้กระทำความผิดและจะจัดการขั้นเด็ดขาด นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า วันนี้ (4 มกราคม 2563) เวลาประมาณ 04.00 น. ตนได้รับรายงานด่วนจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลที่ 6 โดยส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10, 14 อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่เวรศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟืองหาดท้ายเหมือง พบร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ของเต่ามะเฟือง บริเวณหาดเขาหน้ายักษ์ หมู่ที่ 4 ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ห่างจากศูนย์ฯ หาดท้ายเหมือง ไปทางทิศเหนือประมาณ 11 กิโลเมตร ขนาดความกว้างของพายจากซ้ายไปขวา 155 ซม. ขนาดอก 50 ซม. จึงทำการขุดหาเพื่อตรวจนับจำนวนไข่เต่า ปรากฎว่าขุดพบแต่ไข่ลม จำนวน 2 ฟอง ไม่พบมีไข่สมบูรณ์หลงเหลือแต่อย่างใด สรุปได้ว่าน่าจะถูกขโมยขณะเต่าวางไข่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการกลบหลุมดังกล่าวไว้ก่อน ตนจึงได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง และนายสุริยะ สอนเสริม ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 10 ร่วมกันรวบรวมเรื่องราวหลักฐานพยานแวดล้อมแจ้งความกล่าวโทษต่อ สภ.ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เพื่อสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีทันที ทั้งนี้ ตนได้รายงานให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว. ทส.) และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท. ทส.) ทราบในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ รมว. ทส. ได้กำชับให้ตนและปลัดกระทรวง ติดตามและดำเนินการอย่างใกล้ชิด และให้กำกับ เร่งรัดให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นโดยเร็ว โดย ปกท. ทส. มีคำสั่งให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับผู้กระทำความผิด แม้จะพบครอบครองเพียงซาก ก็ให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ จากการสืบสวนพอจะทราบแล้วว่าบุคคลกลุ่มไหนมาลักลอบขโมยไป จึงขอให้รีบนำมาส่งคืนโดยเร็วเพราะขณะนี้ ยังอยู่ในช่วงเวลาที่สามารถจะดูแลอนุบาลเพาะฟักได้ตามหลักวิชาการ ตนอยากวอนขอผู้พบเห็นการวางไข่ของเต่ามะเฟือง ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อจะได้ดำเนินการจัดการและคุ้มครองไข่เต่าให้สามารถฟักและปล่อยออกสู่ธรรมชาติได้อย่างปลอดภัย อีกทั้ง สำหรับผู้ที่สนใจอยากศึกษาและติดตามการฟักไข่ของเต่ามะเฟือง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะรายงานและเปิดช่องทางสื่อโซเซียลให้ประชาชนและผู้สนใจได้ศึกษาและติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว "การขโมยไข่เต่า หรือแม้แต่การครอบครองซากของเต่ามะเฟือง มีความผิดทางกฎหมายมีโทษทั้งจำคุก 3 -5 ปี หรือปรับ 3 แสน - 1.5 ล้านบาท เต่ามะเฟืองเป็นสัตว์ที่หาพบได้ยากในธรรมชาติ การสูญเสียไข่เต่ามะเฟืองไป นั่นหมายถึงเราสูญเสียพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์เต่ามะเฟืองที่จะผลิตลูกต่อไปในอนาคต การอนุรักษ์ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่พบเห็นการวางไข่ของเต่ามะเฟือง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที การดูแลเป็นหน้าที่ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ทางเรามีทีมสัตวแพทย์และกำลังเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้ง ยังได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเฝ้าระวังและดูแลอย่างปลอดภัยและถูกหลักวิชาการ" ด้าน ผศ. ดร. ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ตนรู้สึกโกรธพวกที่ขโมยไข่เต่ามาก เนื่องจาก เต่ามะเฟืองคือหนึ่งในสัตว์หายากสุดในทะเลไทย 5 - 6 ปีที่ผ่านมา เราไม่เจอเต่าเลย เจอแต่ศพกินขยะทะเล ปีที่แล้ว ช่วยกันทั้งประเทศ ได้ลูกเต่ามากกว่า 130 ตัว ปีนี้ วางไข่สองรัง คาดว่าน่าจะได้สักร้อยตัว พอมาวางรังที่สาม ถูกขโมย ไข่เต่ารังหนึ่งน่าจะฟักได้ประมาณ 50 ตัว พวกที่ขโมย หากอยากได้เงินมากนัก มีกองทุนอนุรักษ์ไข่เต่าที่ช่วยกันทำโดยมีภาคเอกชนสนับสนุน ใครแจ้งได้ 20,000 บาททันที ที่ผ่านมาก็มีคนแจ้งและได้เงินรวดเร็วทุกราย หากคิดจะขโมยเต่ามะเฟืองซึ่งเป็นสัตว์สงวน การขโมย/จำหน่าย/ครอบครองไข่เต่า มีโทษรุนแรงมากตาม พรบ. สงวนคุ้มครอง พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้แล้วมีโทษจำคุก 3 - 15 ปี ปรับ 3 แสน - 1.5 ล้าน ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับพวกที่ขโมง ซึ่งในเบื้องต้น ตนได้ทราบว่าได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากวิงวอนไปยังท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ https://www.nationtv.tv/main/content/378756789/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก Greennews
เร่งล้อมคอกกันขโมยไข่เต่ามะเฟือง หลังพบไข่เต่ากว่าร้อยฟองถูกขโมยที่พังงา รังเต่ามะเฟืองรังที่สามของฤดูกาลไม่รอดมือขโมย หลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี -หาดท้ายเหมือง จ.พังงา พบร่องรอยเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บนหาดท้ายเหมือง แต่โชคร้ายถูกมือดีพบรังก่อน และลอบขโมยไข่เต่ามะเฟืองเกือบยกรัง ทิ้งไข่ลมไว้ให้ดูต่างหน้าเพียง 2 ฟอง ด้านเจ้าหน้าที่ระบุ เตรียมประสานกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ? หน่วยงานท้องถิ่น ประกาศพื้นที่เป็นเขตควบคุม ห้ามคนผ่านเข้าออก กันก่อเหตุขโมยไข่เต่าซ้ำ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา หฤษฎ์ชัย ฤทธิช่วย เปิดเผยว่า เมื่อเวลาเช้ามืดของวันที่ 4 มกราคม ชุดเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติร่วมกับเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จ.ภูเก็ต ออกลาดตระเวนพบร่องรอยเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บนหาดท้ายเหมือง คาดว่าแม่เต่าขึ้นมาวางไข่ประมาณเที่ยงคืน ตรวจวัดขนาดของรอย ความกว้างของพายซ้ายถึงพายขวา 155 ซม อก 50 ซม. ไม่พบแม่เต่า สภาพรังเต่ามะเฟืองรังที่ 3 ของฤดูกาล หลังจากถูกมือดีลอบขุดขโมยไข่ไป เหลือทิ้งไว้เพียงไข่ลม 2 ฟอง //ขอบคุณภาพจาก: Thon Thamrongnawasawat อย่างไรก็ดี เมื่อเจ้าหน้าที่ขุดหาไข่ กลับพบเพียงไข่ลมถูกทิ้งไว้เพียง 2 ฟอง คาดว่าไข่เต่าส่วนใหญ่ถูกขโมยไปแล้ว จึงรวบรวมข้อมูลหลักฐานแวดล้อมเพื่อแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนต่อไป ปรารพ แปลงงาน หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 2 จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบร่องรอยล้อรถมอเตอร์ไซค์ขี่เข้าออกพื้นที่โดยไม่ผ่านด่านตรวจของอุทยานแห่งชาติ สอดคล้องกับหลักฐานกล้องวงจรปิด คาดว่าน่าจะเป็นผู้ที่ผ่านเข้าออกมาตกปลาในพื้นที่เป็นผู้ค้นพบรังเต่ามะเฟืองก่อนเจ้าหน้าที่ และขโมยไข่เต่าไป "เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สอบปากคำชาวบ้านในพื้นที่แล้ว แต่จากการตรวจสอบไม่พบหลักฐานของกลาง และสิ่งชี้พิรุธ อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งต่อให้กับพนักงานสืบสวนต่อไป" ปรารพ กล่าว เขากล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนหลักของภารกิจคุ้มครองรังเต่ามะเฟืองของเจ้าหน้าที่ นั่นก็คือการควบคุมการผ่านเข้าออกที่พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง เพราะว่าเขตอุทยานประกาศเฉพาะพื้นที่ชายหาด และป่าชายหาดบนฝั่งเท่านั้น แต่ไม่ได้ควบรวมพื้นที่ในทะเลด้วย ดังนั้นบุคคลทั่วไปจึงสามารถผ่านเข้าออกพื้นที่ทางเรือได้ และสามารถนำรถมอเตอร์ไซค์มาวิ่งได้ตลอดแนวชายฝั่งโดยไม่ต้องผ่านด่านตรวจของเจ้าหน้าที่อุทยาน เต่ามะเฟือง เต่ายักษ์ใหญ่แห่งทะเลอันดามัน จัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน มีลำตัวยาวได้ถึง 2.5 เมตร น้ำหนักสูงสุดประมาณ 1 ตัน กระดองเป็นหนังหุ้ม ไม่แข็งเหมือนเต่าชนิดอื่น วางไข่บนหาดทรายครั้งละประมาณ 100 ฟองต่อรัง ใช้เวลาฟักเป็นตัวประมาณ 60 วัน //ขอบคุณข้อมูลจาก: กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังมีรอบเวลาในการออกลาดตระเวนที่ชัดเจน 2 ช่วง คือช่วงหัวค่ำ และช่วงเช้ามืด เปิดช่องให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีออกปฏิบัติการได้ในช่วงกลางดึก ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า ภายหลังจากนี้ อุทยานแห่งชาติฯจะขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองในท้องที่มาช่วยลาดตระเวนพื้นที่ ตลอดจนออกประกาศพื้นที่หาดท้ายเหมืองในเป็นพื้นที่ควบคุม เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกผ่านเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต ตลอดช่วงฤดูวางไข่ของเต่ามะเฟืองจนถึงเดือนกุมภาพันธ์นี้ "แม้ว่าเราจะมีการแจกรางวัลให้กับผู้พบเห็นรังเต่ามะเฟืองแล้วมาแจ้งเจ้าหน้าที่ถึงรางวัลละ 20,000 บาท แต่จากเหตุการณ์นี้กลับพบว่ามีการให้ราคาไข่เต่ามะเฟืองในตลาดมืดในราคาที่สูงกว่ามาก จนสร้างแรงจูงใจให้มีผู้ลักลอบขโมยไข่เต่ามะเฟืองไปขายในตลาดมืด เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีความเชื่ออย่างผิดๆว่าการกินไข่มะเฟืองจะช่วยบำรุงสุขภาพทางเพศ" ปรารพ กล่าว "เป็นที่น่าเสียดายยิ่งที่แทนที่ฤดูกาลนี้เราจะมีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ถึง 3 รัง จากเดิมที่ไม่เคยมีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ในไทยมานานหลายปี แต่จากความเชื่อผิดๆดังกล่าวทำให้ลูกเต่ามะเฟืองที่กำลังใกล้สูญพันธุ์กว่า 100 ตัว ไม่มีโอกาสเกิดมาดูโลก" เขาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ทางเจ้าหน้าที่พร้อมให้รางวัลทันที 30,000 บาท หากผู้ใดมีเบาะแสที่สามารถชี้ตัวไปถึงผู้บงการ และสามารถยึดคืนไข่เต่าของกลางได้ ซากแม่เต่ามะเฟืองที่เกาะพระทอง จ.พังงา //ขอบคุณภาพจาก: Kongkiat Kittiwatanawong ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ให้ข้อมูลว่า ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบแม่เต่ามะเฟืองเสียชีวิตที่เกาะพระทอง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา จากการชันสูตรเบื้องต้นพบเป็นเต่าเพศเมีย ตายมามากกว่า 5 วัน ไม่พบไข่ภายในช่องท้อง อวัยวะภายในย่อยสลายจนไม่สามารถเห็นรอยโรค ภายนอกลำตัวมีเชือกลอบขนาดเล็กเกี่ยวพันรอบตัวซึ่งคาดว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิต "การสูญเสียแม่เต่ามะเฟืองแต่ละตัว ทำให้เราสูญเสียโอกาสการมีลูกเต่ามะเฟืองกำเนิดใหม่ กว่า 15,000 ตัว" ก้องเกียรติ กล่าว อนึ่ง เต่ามะเฟืองได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วให้เป็นสัตว์สงวนของไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2562 ดังนั้นการขโมย จำหน่าย หรือครอบครองไข่เต่า ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โดยมีโทษสูงถึงติดคุก 3 -15 ปี หรือปรับ 300,000 ? 1.5 ล้านบาท https://greennews.agency/?p=19969
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 06-01-2020 เมื่อ 05:44 |
|
#3
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก Greennews
10 ประเด็นเด่นสิ่งแวดล้อมไทยในรอบปี 2562 (ตอนที่ 1: น้ำโขงวิกฤต) ................... โดย ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ กำลังเดินสำรวจป่าไคร้ที่แห้งตายเพราะความผันผวนรุนแรงของระดับน้ำในแม่น้ำโขง //ขอบคุณภาพจาก: Chainarong Setthachua กลางเดือนกรกฎาคม แม้จะเข้าสู่กลางฤดูฝน แต่ภาพของแม่น้ำโขงที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อแขนงต่างๆ รวมทั้งโซเชียลมีเดียได้สร้างความตกตะลึงให้กับสังคม เพราะน้ำโขงแห้งราวกับเดือนเมษายน ปลาและสัตว์น้ำต่างๆ ตายเป็นจำนวนมาก ชุมชนเมืองหลายแห่งต้องขาดน้ำดิบสำหรับทำน้ำประปา วิกฤตครั้งนี้ภาพและเรื่องราวแม่น้ำโขงวิกฤตยังถูกนำเสนอโดยสื่อต่างประเทศทั่วโลก ขณะที่เขื่อนไซยะบุรี เขื่อนไทยสัญชาติลาวประกาศกักเก็บน้ำและทดลองเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า กลางเดือนตุลาคม ภาพแม่น้ำโขงวิบัติรอบที่สองถูกเผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆ อีกครั้ง คราวนี้นอกจากเห็นน้ำโขงแห้ง สัตว์น้ำตายเกลื่อนแล้ว ยังเห็นภาพต้นไคร้ที่ถือว่าเป็นแมวเก้าชีวิตยืนต้นแห้งตาย ทั้งที่ปกติแล้วช่วงนี้น้ำโขงจะท่วมต้นไคร้และเต็มฝั่งโขง น้ำโขงที่แห้งขอดทำให้ชาวบ้านสองฝั่งโขงบางหมู่บ้านไม่สามารถซ้อมเรือยาวเพื่อร่วมงานบุญส่วงเฮือได้ ขณะที่น้ำในแม่น้ำโขงเริ่มใสราวกระจกและสะท้อนท้องฟ้าเป็นสีคราม ตลอดเวลาในช่วงนี้ มีรายงานจากหลายพื้นที่ทั้งจากกัมพูชา ลาวใต้ มาจนถึงชายแดนไทย-ลาว ว่าปลาหลายชนิดอพยพผิดฤดูกาล ขณะที่นักวิชาการประมงเตือนว่าปลาถูกกระตุ้นให้อพยพผิดฤดูกาลจากการกระตุ้นของมนุษย์ (การสร้างเขื่อน) เพื่ออพยพขึ้นไปวางไข่ในแม่น้ำโขงตอนบนทั้งที่ไข่ในท้องของปลายังไม่พร้อมผสมพันธุ์ และปรากฏการณ์นี้จะทำให้ปลาหลายชนิดในแม่น้ำโขงสูญพันธุ์ในที่สุด นอกจากนั้น ยังเกิดปรากฎการณ์น้ำสาขาไหลลงแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว ชุมชนหลายแห่งที่ตั้งริมน้ำสาขาของแม่น้ำโขงในลาวขาดแคลนน้ำสำหรับทำประปา ขณะที่แถบจังหวัดนครพนม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องนำรถไปขุดบ่อกลางแม่น้ำโขง 29 ตุลาคม เขื่อนไซยะบุรีเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งระบบและส่งไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ขณะที่ชุมชนสองฝั่งโขงในไทยได้รวมตัวกันเคลื่อนไหววิพากษ์วิจารณ์เขื่อนอย่างรุนแรง ท่ามกลางวิกฤตแม่น้ำโขง ช.การช่างเจ้าของหุ้นใหญ่เขื่อนไซยะบุรีลงทุนซื้อโฆษณาสื่อใหญ่ในประเทศเพื่อบอกว่าเขื่อนไซยะบุรีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการเชิญสื่อมวลชนไปชมเขื่อนไซยะบุรี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาของไทยได้ไปเยือนเขื่อนไซยะบุรีเป็นการส่วนตัว กลางเดือนพฤศจิกายน ภาพวิกฤติแม่น้ำโขงถูกนำเสนอผ่านสื่ออีกรอบ คราวนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับแม่น้ำโขงเปลี่ยนสีเป็นสีครามเข้ม นักท่องเที่ยวจำนวนมากตื่นตาตื่นใจอยากชมแม่น้ำโขงเปลี่ยนสี ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านระบุว่า การที่น้ำโขงใสทำให้จับปลาไม่ได้เลย การที่แม่น้ำโขงเปลี่ยนสี ต่อมาก็ได้รับการอธิบายว่าแท้จริงแล้วน้ำโขงใสแจ๋วราวกระจก และสะท้อนสีของท้องฟ้าที่เข้มเป็นสีคราม ปรากฏการณ์ดังกล่าวเรียกว่า "ภาวะไร้ตะกอน" หรือ "hungry water" และจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศน์แม่น้ำโขง รวมถึงการสร้างปัญหาตลิ่งพังทลาย นักวิชาการได้เตือนว่าวิกฤตแม่น้ำโขงวิกฤตรอบนี้คือภัยพิบัติทางสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และกระทบต่อผู้คนกว่า 70 ล้านคนในอนุภูมิภาคนี้ แม้น้ำโขงวิกฤตหนักจากเขื่อนไซยะบุรี แต่นักสร้างเขื่อนที่เป็นนักลงทุนไทยและเวียดนามก็ร่วมมือกันผลักดันโครงการเขื่อนหลวงพระบางที่จะสร้างเหนือเขื่อนไซยะบุรีขึ้นไป ขณะที่คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงหรือ MRC กลับอธิบายว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่เป็นปรากฏการณ์เอลนินโญ ในประเทศไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติกล่าวถึงแต่เขื่อนจีน แต่ไม่เคยกล่าวถึงผลกระทบจากเขื่อนไซยะบุรี ไม่มีการแจ้งระดับน้ำรายวันและคาดการณ์ล่วงหน้าเหมือนในกัมพูชา ที่สำคัญกลับผลักดันโครงการผันน้ำโขง-เลย-ชี-มูล ขณะที่บรรดานักการเมืองของไทยก็ผลักดันการผันน้ำโขงทั้งผันลงอีสานและเขื่อนป่าสัก วิกฤตแม่น้ำโขงจะยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และจะเป็นสนามรบด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญในปี 2563 นี้ด้วย https://greennews.agency/?p=19975
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|