เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 16-09-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


ทรัมป์ไม่เชื่อโลกร้อนเป็นสาเหตุของไฟป่า

ไฟป่าในสหรัฐเกิดขึ้นทุกปี ปีนี้มาเร็วและรุนแรงมากกว่าปีก่อนๆ นักวิทยาศาสตร์พบว่ามีความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เกิดมาจากสภาวะโลกร้อน แต่ทรัมป์ไม่เชื่อ



ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อสำรวจความเสียหายจากเหตุการณ์ไฟป่า เหตุการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในรัฐทางตะวันตกของสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงกว่าทุกครั้ง และบรรดานักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change เป็นอีกปัจจัยเร่งที่ทำให้ไฟป่าลุกลามเป็นวงกว้าง

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มีต้นเหตุมาจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นหรือสภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งที่ทรัมป์ไม่เชื่อ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เขาพาสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส ข้อตกลงปารีสมีเป้าหมายคือ ป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของโลกสูงเกิน 2 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ปฏิวัติอุตสาหกรรม อุณหภูมิโลกเพิ่มมาแล้ว 1 องศาเพราะการเผาผลาญพลังงานฟอสซิลอย่างหนักหน่วง ปัญหาก็คือถ้าไม่ควบคุม มันจะร้อนเพิ่มเป็น 2 องศาเซลเซียส และเมื่อนั้นโลกจะหายนะ ก็เลยเป็นที่มาของข้อตกลงปารีส ทำกับไว้เมื่อปี 2014 สมัยโอบามาเป็นผู้นำ

กว่าจะโน้มน้าวให้ผู้ผลิตก๊าซเรือนกระจกรายใหญาของโลกอย่างสหรัฐ จีน ออสเตรเลียให้ลงนามได้ก็เหนื่อยหนักหนาสาหัส ข้อตกลงปารีสจึงมักถูกยกว่าเป็นข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ที่ทั้งโลกในที่สุดก็เห็นตรงกัน แต่ทรัมป์ตัดสินใจถอนสหรัฐออกจากข้อตกลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่เชื่อว่าโลกร้อนจริง อย่างตอนลงพื้นที่ดูปัญหาไฟป่า ผู้ว่ารัฐแคลิฟอร์เนียพยายามบอกทรัมป์ว่า ต้องเอาจริงกับปัญหาโลกร้อน เพราะมีวิทยาศาตร์ยืนยันว่า มันทำให้เกิดไฟป่า แต่ทรัมป์กลับบอกว่า บางทีวิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง

ส่วนจุดยืนของผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากเดโมเครตอยู่ตรงข้ามทรัมป์ โจ ไบเดน บอกว่า ปัญหาโลกร้อนเป็นปัญหาจริงและปัญหาใหญ่ และชาวอเมริกันต้องการผู้นำที่เข้าใจเรื่องนี้

ส่วนความเสียหายของไฟป่าที่เกิดขึ้นในสหรัฐก็หนักหนาสาหัส ภาพมุมสูงของพื้นที่บางส่วนในรัฐออริกอนที่ถูกไฟป่าเผาราบเป็นหน้ากลอง อาคารบ้านเรือนกลายเป็นซากปรักหักพัง ทั้งเมืองอยู่ในสภาพร้าง เพราะคนต้องอพยพออกจากพื้นที่ อากาศที่เย็นลงทำให้ตอนนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ส่วนนี่คือสภาพในป่าเอลโดราโดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ควันและเถ้าถ่านยังปกคลุมเต็มท้องฟ้า ที่นี่มีบ้านเรือนกว่า 4,000 หลัง ถูกไฟป่าเผาทำลาย

ไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตันครั้งนี้เผาพื้นที่ไปกว่า 5 ล้านเอเคอร์ หรือ 12.6 ล้านไร่ สูงที่สุดในรอบ 2 ปี และยังคงไม่มอดดับสนิท มีคนอย่างน้อย 36 คนเสียชีวิต

หากจะให้เห็นภาพชัดว่าไฟป่าครั้งนี้รุนแรงและกินพื้นที่ใหญ่แค่ไหน เราสามารถวัดได้กับขนาดของพื้นที่เมืองใหญ่ต่างๆ พื้นที่ที่ถูกไฟเผาผลาญรวมกันแล้วใหญ่กว่ากรุงลอนดอน ใหญ่กว่านิวยอร์ก ถ้ายังนึกไม่ออกคือ ใหญ่พอๆกับกรุงเทพ บวกรวมกับนครปฐม และชลบุรี ในทุกๆ ปีไฟป่าเผาทำลายพื้นที่ในสหรัฐฯ หลายล้านไร่ แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นผิดปกติทำให้ไฟป่ารุนแรงกว่าทุกครั้ง ทุกประเทศมีส่วนทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น แต่อเมริกาเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2

อันดับที่ 1 คือจีน รองลงมาคืออินเดีย รัสเซีย? ญี่ปุ่น เยอรมนี อิหร่าน เกาหลีใต้ ซาอุดิอาระเบีย และอินโดนีเซีย

ดังนั้นการถอนตัวออกจาก Paris Agreement ของทรัมป์ ย่อมส่งผลต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และทำให้อำนาจของสหรัฐฯ ในเวทีโลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ลดลง ในขณะที่จีนพยายามจะช่วงชิงพื้นที่ตรงนี้เพื่อแสดงตัวว่าจีนพยายามแก้ปัญหา เช่นเดียวกับเรื่องโควิด-19


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/133265

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:38


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger